สาวปวดหัวกินยาพารา รักษาตัวไปมา กลายเป็นโรค SLE หรือโรคแพ้ภูมิตัวเอง ล่าสุดตาพร่ามัวใกล้บอด รักษาตัวจนเงินหมด แถมบ้านโดนตัดไฟ ยังไม่รู้ชีวิตจะไปต่ออย่างไร

วันที่ 1 มกราคม 2567 เมื่อเวลา 17.00 น. ผู้สื่อข่าวรายงานว่า มีหญิงสาวรายหนึ่ง อยู่ที่ ต.เพ อ.เมือง จ.ระยอง มาขอความช่วยเหลือกับ“สะพานบุญบ้านเพ” เพราะชีวิตไปต่อไม่ไหวแล้ว อยากจะจบชีวิตตัวเองเพราะเป็นโรค SLE หรือ โรคแพ้ภูมิตัวเอง แบบไม่ทันตั้งตัว ตอนนี้ตาเริ่มฝ้าฟางใกล้บอด
 
น.ส.พิศมัย แก้วสกุล อายุ 30 ปี เล่าว่า ประมาณเดือนพฤศจิกายน 67 ตนเองปวดหัวจึงกินยาพาราแต่อาการไม่ดีขึ้น ใบหน้า ขอบตาเริ่มบวม หลังจากไปหาหมอรักษาตนเองเรื่อยมา มาทราบความจริงภายหลังว่า ตนเองป่วยเป็นโรค SLE หรือโรคแพ้ภูมิตัวเอง ตอนนี้ต้องเวียนไปรักษาตัวที่ กทม. ค่าใช้จ่ายเดินทางสูงมากเงินหมดแล้ว ตอนนี้บ้านโดนตัดไฟ อยากจบชีวิตตัวเอง ไม่รู้จะดำเนินชีวิตต่ออย่างไร

ขณะ น.ส. พิศมัย ให้ข้อมูลต้องเอามือปาดน้ำตาเป็นระยะ เพราะชีวิตถึงทางตัน ตาก็ใกล้บอด ไม่รู้จะไปต่ออย่างไร

ด้านนางสมสมัย แซ่เตี๋ย อายุ 62 ปี แม่ของ น.ส.พิศมัย เล่าว่า ตอนนี้ครอบครัวลำบากมากทุ่มเงินรักษาลูกจนหมด ตอนนี้บ้านโดนตัดไฟ ค่าน้ำ ค่าห้องยังไม่มีจ่าย ต้องพึ่งข้างห้องขอไฟฟ้าเค้าใช้ ตอนนี้เป็นห่วงลูกมาก อยากให้ลูกหายจากการป่วย อยากให้เค้ากลับมามองเห็น ทำงาน ใช้ชีวิตเหมือนคนทั่วไปอีกครั้ง แต่ตอนนี้มาถึงทางตันหมดสิ้นหนทาง ไม่รู้จะใช้ชีวิตต่อไปอย่างไร

ทั้งนี้ จากเหตุการณ์ดังกล่าวขอให้สาวรายดังกล่าวรักษาหาย ตากลับมามองเห็น ใช้ชีวิตได้ปกติต่อไป