กทม.เตรียมจัดเก็บค่าบำบัดน้ำเสีย ปี’68 เริ่มเก็บหน่วยงานรัฐ-อาคารเอกชน มูลนิธิ-ศาสนสถาน สถานพยาบาล สถานศึกษา สถานประกอบการ โรงแรม โรงงาน / ยังไม่เก็บบ้านพักอาศัย
นายวิศณุ ทรัพย์สมพล รองผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร กล่าวถึงความคืบหน้าแนวทางจัดเก็บค่าธรรมเนียมบำบัดน้ำเสียกรุงเทพมหานคร ว่า หลังจากปรับแก้ร่างระเบียบและประกาศ กทม. ที่เกี่ยวข้องกับการจัดเก็บค่าธรรมเนียมบำบัดน้ำเสียของกรุงเทพมหานคร และผ่านขั้นตอนการประชาพิจารณ์ครั้งล่าสุดแล้ว ปัจจุบันเรื่องดังกล่าวอยู่ในขั้นตอนการพิจารณาของคณะกรรมการพิจารณาด้านกฎหมายของ กทม. โดยมีรองปลัดกรุงเทพมหานครเป็นประธาน ซึ่งเป็นขั้นตอนสุดท้าย ก่อนเข้าสู่กระบวนการประกาศใช้อย่างเป็นทางการในปี 2568
โดยจะเริ่มเก็บค่าบำบัดน้ำเสียในแหล่งกำเนิดน้ำเสีย ประเภทที่ 2 และ 3 ได้แก่ ประเภทที่ 2 (ก) หน่วยงานของรัฐหรืออาคารที่ทำการของเอกชนหรือองค์กรระหว่างประเทศ (ข) มูลนิธิ ศาสนสถาน สถานสาธารณกุศล (ค) โรงพยาบาลหรือสถานพยาบาล (ง) โรงเรียนหรือสถานศึกษา (จ) สถานประกอบการที่มีการใช้น้ำเฉลี่ยย้อนหลังหนึ่งปีก่อนการจัดเก็บค่าธรรมเนียมบำบัดน้ำเสีย ไม่เกิน 2,000 ลูกบาศก์เมตรต่อเดือน หากกรณีที่ประกอบการไม่ถึงหนึ่งปี ให้ใช้ค่าเฉลี่ยตามระยะเวลาที่ประกอบการ (ฉ) สถานที่ที่ใช้ประโยชน์ในลักษณะคล้ายคลึงกันกับ (ก) ถึง (ง) ซึ่งกลุ่มนี้จะมีอัตราค่าธรรมเนียมบำบัดน้ำเสีย4 บาทต่อลูกบาศก์เมตร รวมถึง ประเภทที่ 3 ได้แก่ (ก) โรงแรม (ข) โรงงานตามกฎหมายว่าด้วยโรงงาน (ค) สถานประกอบการ ที่มีการใช้น้ำเฉลี่ยย้อนหลังหนึ่งปีก่อนการจัดเก็บค่าธรรมเนียมบำบัดน้ำเสีย เกินกว่า 2,000 ลูกบาศก์เมตรต่อเดือน หากกรณีที่ประกอบการไม่ถึงหนึ่งปี ให้ใช้ค่าเฉลี่ยตามระยะเวลาที่ประกอบการ (ง) สถานที่ที่ใช้ประโยชน์ในลักษณะคล้ายคลึงกันกับ (ก) ถึง (ข) ซึ่งกลุ่มนี้จะมีอัตราค่าธรรมเนียมบำบัดน้ำเสีย 8 บาทต่อลูกบาศก์เมตร
ส่วนแหล่งกำเนิดน้ำเสีย ประเภทที่ 1 ได้แก่ (ก) บ้านเรือนที่พักอาศัยรวมถึงอาคารซึ่งโดยปกติบุคคลใช้อยู่อาศัยได้ทั้งกลางวันและกลางคืนไม่ว่าจะเป็นการอยู่อาศัยอย่างถาวรหรือชั่วคราว (ข) อาคารประเภทอาคารชุด คอนโดมิเนียม อพาร์ทเมนท์ หอพักรวมทั้งอาคารที่อยู่อาศัยรวม ซึ่งกลุ่มนี้จะมีอัตราค่าธรรมเนียมบำบัดน้ำเสีย 2 บาทต่อลูกบาศก์เมตร เบื้องต้นยังไม่มีกำหนดการจัดเก็บ อยู่ระหว่างดำเนินการเรื่องใบแจ้งหนี้ค่าธรรมเนียมบำบัดน้ำเสียกับการประปานครหลวง ทั้งนี้ การเก็บค่าธรรมเนียมบำบัดน้ำเสียคำนวณจากปริมาณการใช้น้ำประปาร้อยละ 80 คูณด้วยอัตราค่าธรรมเนียมแต่ละประเภทแหล่งกำเนิดน้ำเสีย
“ในประเภทที่ 1 กทม.มีแผนจัดเก็บด้วยเช่นกัน แต่เหตุผลที่ยังไม่จัดเก็บคือ เนื่องจากการประปานครหลวงต้องการส่งข้อมูลผู้ใช้น้ำให้ กทม.ตามข้อตกลงความร่วมมือ เพื่อให้ กทม.นำข้อมูลผู้ใช้น้ำไปออกใบแจ้งหนี้ค่าธรรมเนียมบำบัดน้ำเสียแยกต่างหาก ไม่รวมกับใบแจ้งหนี้ค่าน้ำประปา เพราะเป็นการแจ้งหนี้ที่ต้องชำระคนละส่วนกัน เพื่อป้องกันปัญหาค้างชำระหนี้ภายหลัง ขณะที่ กทม.มีความประสงค์ใช้ใบแจ้งหนี้เดียวกันกับค่าน้ำประปา เพื่อความสะดวกของประชาชนในการชำระหนี้ จึงยังไม่ได้ข้อสรุปเรื่องนี้ โดยจะมีการหารือกับผู้ว่าการประปานครหลวงในเร็วๆ นี้” รองผู้ว่าฯ วิศณุ กล่าว
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี