ชายวัย 53 ชาวอำเภอเฉลิมพระเกียรติ บุรีรัมย์ เมาเลือดร้อนไม่พอใจลุงวัย 60 เพื่อนบ้านสังสรรค์ส่งท้ายปีใหม่กับครอบครัว ตะโกนด่าโวยวายจนอีกฝ่ายทนไม่ไหวด่ากลับ โมโหคว้าลูกซองยาวยิงลุง 60 กระสุนลูกปลายเจาะอก หน้าท้อง 5 รู เสียชีวิต ท่ามกลางเสียงกรีดร้องของลูกเมีย ส่วนมือยิงถือปืนกลับไปบอกเมียหน้าตาเฉยกูยิงมันตายแล้ว ด้านเมียผู้ตายเผยคนก่อเหตุชอบหาเรื่องสามีประจำทั้งยิงปืนขึ้นฟ้าข่มขู่
เมื่อเวลา 19.00 น.วันที่ 2 ม.ค.68 ที่ผ่านมา ศูนย์วิทยุสถานีตำรวจภูธรถาวร อ.เฉลิมพระเกียรติ จ.บุรีรัมย์ ได้รับแจ้งมีเหตุยิงกันเสียชีวิตที่บ้านโชคอำนวย ต.ถาวร อ.เฉลิมพระเกียรติ หลังได้รับแจ้ง พ.ต.ท.จักรกริช รังพงษ์ สารวัตรใหญ่ หัวหน้าสถานีตำรวจภูธรถาวร พร้อม พ.ต.ท.สุรศักดิ์ สายสิงห์ สว.(สอบสวน) สภ.ถาวร และชุดสืบสวน จึงได้ลงพื้นที่ไปตรวจสอบ
ที่เกิดเหตุอยู่บริเวณข้างโอ่งน้ำใกล้กระท่อมหลังบ้านหลังหนึ่งในพื้นที่หมู่ 1 บ้านโชคอำนวย ต.ถาวร อ.เฉลิมพระเกียรติ พบกองเลือดที่พื้นดิน จากการสอบถามญาติทราบว่าผู้ที่ถูกยิงชื่อนายวิรา หรือแอร์ (ขอสงวนนามสกุล) อายุ 60 ปีหน่วยกู้ชีพได้นำส่ง รพ.เฉลิมพระเกียรติก่อนที่เจ้าหน้าที่ตำรวจจะไปถึง เนื่องจากอาการสาหัส ต่อมาได้รับแจ้งว่านายวิรา ทนพิษบาดแผลไม่ไหวได้เสียชีวิตที่ รพ. จากการตรวจสอบสภาพศพเบื้องต้น พบมีรอยกระสุนลูกปลายที่บริเวณหน้าอก และท้องรวม 5 รู ซึ่งทาง รพ.ได้ส่งศพไปผ่าชันสูตรที่โรงพยาบาลบุรีรัมย์
จากการสอบถามทราบว่าผู้ที่ก่อเหตุยิงนายวิรา เสียชีวิต คือ นายพัทธดนย์ หรือนุ (ขอสงวนนามสกุล) อายุ 53 ปี เป็นเพื่อนบ้านกันและบ้านอยู่ติดกับหลังบ้านของผู้เสียชีวิต เจ้าหน้าที่จึงได้ไปตรวจสอบก็พบนายพัทธดนย์ นั่งอยู่โต๊ะหน้าบ้านด้วยอาการมึนเมา และพบปืนลูกซอง 1 กระบอกคาดว่าเป็นปืนที่ใช้ก่อเหตุ จึงยึดไว้เป็นหลักฐาน จากการสอบถามนายพัทธดนย์ ยอมรับสารภาพว่าได้ก่อเหตุยิงนายวิรา จริงเพราะมีปากเสียงทะเลาะกัน จากนั้นเจ้าหน้าที่ตำรวจจึงได้นำตัวนายพัทธดนย์ ไปควบคุมไว้ที่ห้องขัง สภ.ถาวร เพราะยังมีอาการมึนเมาพูดจาไม่ค่อยรู้เรื่อง รอให้ส่างเมาทางพนักงานสอบสวนจึงจะสอบปากคำอีกครั้ง ประวัตินายพัทธดนย์ มือยิง เคยถูกจับคดียิงปืนขึ้นฟ้า เมื่อเดือนมีนาคมปี 2566 ที่ผ่านมา
สอบถามนางน้ำอ้อย (ขอสงวนนามสกุล) อายุ 48 ปี ภรรยาผู้เสียชีวิต เล่าว่า ที่ผ่านมานายพัทธดนย์ ซึ่งบ้านอยู่ติดกันจะชอบเมาโวยวายและพูดจาหาเรื่องสามีเป็นประจำ แต่สามีก็ไม่สนใจและไม่เคยตอบโต้เพราะรู้นิสัย และไม่อยากมีปัญหา แต่วันนี้ลูกหลานซึ่งเดินทางมาจากกรุงเทพฯ มาเยี่ยมพ่อแม่ ก็ได้ซื้อเนื้อย่างมากินสังสรรค์ส่งท้ายปีใหม่กับพ่อแม่ก่อนจะกลับไปทำงานกรุงเทพฯ พอสามีก่อไฟเพื่อให้ลูกกินเนื้อย่างเสร็จ ก็เดินไปนั่งดื่มกินที่กระท่อมหลังบ้านกับเพื่อนของสามีอีกคน ส่วนตนและลูกหลานก็กินกันที่หน้าบ้าน ไม่นานก็ได้ยินเสียงนายพัทธดนย์ เพื่อนบ้านตะโกนโวยวายด่าสามี ก็ไม่รู้ว่าเขาไม่พอใจอะไร แต่ครั้งนี้สามีอาจจะเห็นว่าลูกหลานอยู่ด้วย จึงด่ากลับทั้งที่ที่ผ่านมาไม่เคยโต้กลับเลย จนมีปากเสียงทะเลาะกัน ตนจึงเดินไปห้ามแต่ก็ไม่หยุดจึงพูดไปว่างั้นก็ต่อยกันไปเลยจะได้จบ แล้วก็เดินกลับเข้ามาในบ้าน สักพักเสียงเงียบไปก็คิดว่าคงหยุดทะเลาะกันแล้ว แต่ไม่นานกลับได้ยินเสียงปืนดังขึ้น 1 นัดก็คิดว่าเขายิงปืนขึ้นฟ้า เพราะเขาเคยยิงปืนขึ้นฟ้าข่มขู่สามีหลายครั้ง แต่พอเดินไปดูกลับพบสามีนอนหายใจรวยรินกับพื้นแล้ว ก็ตกใจทำอะไรไม่ถูกได้แต่กรีดร้อง ขอให้เอาผิดตามกฎหมายถึงที่สุด
ด้านนางสาวน้ำฝน (ขอสงวนนามสกุล) อายุ 27 ปี ลูกสะใภ้ผู้เสียชีวิต เล่าว่า วันนี้ลูกหลานตั้งใจกินส่งท้ายก่อนจะกลับไปทำงานกรุงเทพฯไม่คาดคิดว่าจะเกิดเหตุการณ์เศร้าสลดขึ้น พวกตนก็กินสังสรรค์กับครอบครัวปกติ แต่อีกฝ่ายเมาแล้วมาหาเรื่องพ่อสามี จนพ่อสามีทนไม่ไหวก็ด่ากลับ ทำให้อีกฝ่ายโมโหไปหยิบปืนมายิงพ่อสามี มองว่าเป็นการกระทำที่เกินกว่าเหตุ ทั้งที่เป็นฝ่ายด่าเขาก่อนแต่พอพ่อสามีด่ากลับบ้างก็ทนไม่ได้ถึงกับไปเอาปืนมายิงจนเสียชีวิต ก็อยากให้ดำเนินคดีตามกฎหมายถึงที่สุด
นายสิทธิชัย (ขอสงวนนามสกุล) อายุ 21 ปีชาวบ้านในหมู่บ้าน บอกว่า ผู้เสียชีวิตเป็นคนอัธยาศัยดี ไม่เคยมีเรื่องกับใคร แต่ผู้ก่อเหตุเป็นคนเลือดร้อนชอบหาเรื่องเวลาเมาก็จะโวยวาย ที่ผ่านมาทราบว่าเวลาทั้งคู่ทะเลาะกันผู้ก่อเหตุก็จะชอบเอาปืนออกมาขู่ ยิงขึ้นฟ้าบ้าง จนเคยถูกตำรวจจับกุมมาแล้ว ส่วนครั้งนี้ตอนแรกที่ตนได้ยินเสียงปืนก็คิดว่าเขาคงจะยิงขึ้นฟ้าเหมือนที่ผ่านมา แต่พอแม่ขี่รถไปดูเพราะได้ยินเสียงกรีดร้อง กลับพบว่ามีการยิงกัน
จากการสอบนางก้อย (ขอสงวนนามสกุล) อายุ 58 ปี ภรรยาผู้ก่อเหตุ บอกว่า สามีเป็นคนอารมณ์ร้อน ดื่มเหล้าเป็นประจำ เวลาที่สามีดื่มเหล้าตนก็จะไม่ยุ่งจะเข้าไปอยู่ในห้องเพราะรู้นิสัยสามีถึงจะห้ามหรือพูดอะไรเขาก็ไม่ฟัง เช่นวันนี้ตนก็เห็นแล้วว่าสามีเมาก็เข้าไปอยู่ในห้อง ก็ได้ยินเสียงทะเลาะกัน ก็คิดว่าคงเมาแล้วทะเลาะกันก็ไม่ออกมาดู กระทั่งได้ยินเสียงปืนแล้วสามีถือปืนเดินมาบอกตนที่บ้านว่า "กูยิงมันตายแล้ว" ตนก็ตกใจและเสียใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ส่วนเรื่องคดีก็ว่ากันไปตามกฎหมาย - 003
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี