รองอธิบดี DSI ประชุมร่วม ตร.นัดแรก หลังรับโอนสำนวน”หมอบุญ"และพวก รวม 16 ราย ปมฉ้อโกง 5 โครงการทิพย์ มูลค่าเสียหาย 12,000 ล้านบาท เป็นคดีพิเศษ พบจำนวนผู้เสียหายเบื้องต้น 495 ราย ย้ำเร่งทำสำนวนให้ทันครบกำหนดฝากขัง 13 คน ภายใน21 ม.ค.นี้ ส่วน ”หมอบุญ"และโบรกเกอร์ ที่หลบหนี ได้ประสานหมายแดงล่าตัวกลับมาดำเนินคดี
เมื่อเวลา 15.00 น. วันที่ 3 ม.ค.67 ที่อาคารกรมสอบสวนคดีพิเศษ ถนนแจ้งวัฒนะ กรุงเทพฯ ร.ต.อ.วิษณุ ฉิมตระกูล รองอธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ ออกมาเปิดเผยภายหลังเสร็จสิ้นการประชุมคณะพนักงานสอบสวนคดีพิเศษที่ 136/2567 (ครั้งที่ 1/2568) กรณีนายแพทย์บุญ วนาสิน กับพวก ร่วมกันกระทำความผิดตาม พ.ร.ก.การกู้ยืมเงินที่เป็นการฉ้อโกงประชาชน พ.ศ. 2527 และที่แก้ไขเพิ่มเติม ความผิดตาม พ.ร.บ.ป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน พ.ศ. 2542 และที่แก้ไขเพิ่มเติมและความผิดอื่นที่เกี่ยวข้อง ว่ากรมสอบสวนคดีพิเศษ ได้รับสอบสวนคดีดังกล่าวไว้เป็นคดีพิเศษเมื่อวันที่ 26 ธ.ค.67 แล้ว วันนี้จึงได้มีการประชุมร่วมกันกับคณะพนักงานสอบสวนจากสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ในฐานะผู้รับผิดชอบเดิม เพื่อรับฟังสรุปผลการดำเนินการที่ผ่านมา รวมทั้งได้ร่วมกันกำหนดแนวทางการประสานความร่วมมือในการแสวงหาข้อเท็จจริง และรวบรวมพยานหลักฐานร่วมกับสำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน (ปปง.) เพื่อให้เกิดความครบถ้วน รวดเร็ว และมีประสิทธิภาพในการสืบสวนสอบสวน และสร้างความเป็นธรรมให้เกิดขึ้นกับผู้ได้รับผลกระทบทางคดีให้มากที่สุด ซึ่งมีจำนวนกว่า 495 ราย
อย่างไรก็ตาม แม้มีกำหนดระยะเวลาการดำเนินงานไม่มากเนื่องจากทางคดีมีการจับกุมผู้กระทำความผิดเข้าสู่กระบวนการแล้ว จำนวน 13 ราย แต่ด้วยมูลค่าความเสียหายและผลกระทบที่เกิดขึ้นจำนวนมากกว่า 12,000 ล้านบาท กรมสอบสวนคดีพิเศษ จะเร่งรัดทำการสืบสวนสอบสวนด้วยความสุจริต รอบคอบ และรัดกุม เพื่อติดตามจับกุมผู้กระทำความผิดที่เหลืออยู่ และยึดอายัดทรัพย์สินที่ได้มาจากการกระทำความผิดรวมไว้ในสำนวนการสอบสวนก่อนสรุปและมีความเห็นทางคดีส่งพนักงานอัยการคดีพิเศษ ภายในเดือน ม.ค.68
ร.ต.อ.วิษณุ เผยต่อว่า สำหรับผู้ต้องหาที่ยังคงหลบหนีอยู่นั้น มีจำนวน 3 ราย คือ นายแพทย์บุญ และโบรกเกอร์ อีก 2 ราย ซึ่งเราทราบพิกัดเบาะแสเเล้ว แต่ต้องขอเก็บเป็นความลับในสำนวนไว้ก่อน แต่ดีเอสไอจะเน้นไปที่การสอบสวนในส่วนของผู้ต้องหาทั้ง 16 ราย โดยเฉพาะ 13 รายที่อยู่ระหว่างการฝากขังในเรือนจำฯ เราจะต้องพิสูจน์การกระทำความผิดให้ได้มากที่สุด เพราะกรอบระยะเวลาที่ดีเอสไอต้องส่งสำนวนไปยังพนักงานอัยการนั้นมีระยะเวลา 20 วัน คาดว่าจะเสร็จสิ้นก่อนสิ้นเดือน ม.ค.นี้ เพราะทั้งหมดจะครบกำหนดฝากขังในวันที่ 21 ม.ค.
"ส่วนจะได้ตัวนายแพทย์บุญ และโบรกเกอร์ รวม 3 รายกลับมาดำเนินคดีทันหรือไม่นั้น ก็อยู่ที่ระยะเวลา แต่เชื่อว่าน่าจะได้ เพราะตอนนี้เรารู้เบาะแสที่อยู่ของพวกเขาแล้ว พร้อมย้ำว่าเป็นหน้าที่ของตำรวจและดีเอสไอที่จะทำงานร่วมกันในการติดตามตัวกลับมาดำเนินคดี โดยเฉพาะการประสานเรื่องการออกหมายแดง"ร.ต.อ.วิษณุ กล่าว
ร.ต.อ.วิษณุ เผยอีกว่า ต้องขอบคุณสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ที่ได้ส่งสำนวนที่ค่อนข้างครบถ้วนมาที่ดีเอสไอให้ดำเนินการต่อ ถือเป็นประโยชน์กับดีเอสไออย่างมาก ซึ่งดีเอสไอก็จะได้ไปขยายต่อในเรื่องของการติดตามทรัพย์สินในตลาด หลักทรัพย์ของกลุ่มผู้ต้องหา อาทิ รถยนต์ ที่ดิน หุ้นในตลาดหลัก ทรัพย์ กองทุนต่าง ๆ เราต้องติดตามทรัพย์สินมาให้ได้มากที่สุด รวมถึงได้ทำหนังสือส่งไปยังสำนักงาน ปปง. เพื่อสอบถามเรื่องรายการทรัพย์สินที่ได้มาจากการกระทำความผิด รวมไปถึงการรวบรวมพยานหลักฐานอื่นด้วย นอกจากนี้ เรื่องโครงการที่ผู้ต้องหามีการอ้างไว้ทั้ง 5 โครงการนั้น เราก็จะไปตรวจสอบต่อด้วย
ร.ต.อ.วิษณุ เผยด้วยว่า ดีเอสไอได้รับช่วงต่อเรื่องสำนวนมาจากตำรวจ ก็เหมือนขับเครื่องบิน แล้วเครื่องบินเปลี่ยนกัปตัน จากตำรวจเป็นดีเอสไอ ซึ่งทางตำรวจได้ขับเคลื่อนไว้อย่างไร ดีเอสไอก็จะได้ขับเคลื่อนต่อไป ส่วนจะมีการแจ้งข้อกล่าวหาเพิ่มเติมอย่างไรหรือไม่ ก็ขึ้นอยู่กับพยานหลักฐานและการสอบสวน ส่วนดีเอสไอจะเปลี่ยนการแจ้งข้อหาต่อ 16 ผู้ต้องหา กรณีที่ตำรวจเคยแจ้งไว้หรือไม่นั้น ตนขอเรียนว่าทางสำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ตร.) ได้มีพยานหลักฐานพอสมควรแล้ว จึงไปขออำนาจศาลในการออกหมายจับ ตรงนั้นก็จะกลายเป็นพยานหลักฐานส่วนหนึ่งที่ปรากฏแล้ว แต่ในส่วนที่มาถึงดีเอสไอ เราก็ต้องใช้พยานหลักฐานนั้นในการไปรวบรวมให้มันมีความต่อเนื่อง พร้อมยืนยันว่าเราต้องให้ความเป็นธรรม ทั้งนี้ ดีเอสไอจะได้ประสานไปยังอัยการคดีพิเศษ เพื่อจะได้เกิดความรวดเร็วในการทำงานระหว่างพนักงานสอบสวนของดีเอสไอและตำรวจ
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี