เรียกสอบอาจารย์ชาวจีน-คนที่เกี่ยวข้อง พบมีคนจีน 26 คนเข้าคอร์สตำรวจอาสา กว่าครึ่งจ่ายเงินจริง กำลังไล่สอบเส้นเงินเข้ากระเป๋าใคร ส่วนตำรวจที่ไปอบรมน่าจะได้เงินค่าจ้างจริง
3 ม.ค.67 ความคืบหน้ากรณีที่มีข่าวว่ามีมหาวิทยาลัยแห่งหนึ่งเปิดคอร์สให้คนจีนมาอบรมอาสาตำรวจคนจีนพร้อมอ้างถึงความร่วมมือกับสำนักงานสืบสวนกลาง กองบังคับการนครบาลภาค 3 โดยมีค่าใช้จ่ายต่อหัวคนละ 38,000 บาทนั้น
ล่าสุด พล.ต.ต.เกียรติกุล สนธิเณร ผู้บังคับการตรวจนครบาล3 ให้สัมภาษณ์หลังสอบปากคำผู้เกี่ยวข้องกว่า 6 ชั่วโมง ว่า ได้มีการสอบปากคำ ด้วยกัน 3 ส่วนคือ อาจารย์ชาวจีน ผู้จัดอบรมชาวจีนที่เอาบุคคลภายนอกเข้ามาอบรมและ นักเรียนนักศึกษาที่เข้าอบรม โดยวันนี้เป็นการตรวจสอบข้อเท็จจริงเบื้องต้นแล้ว และจะนำผลสอบข้อเท็จจริงไปรายงานให้กับผู้บัญชาการตำรวจนครบาลทราบ ส่วน 2 ตำรวจ ทั้งผู้กำกับการ และ รองผู้กำกับการ สังกัด น.3 ทั้ง 2 คน ก็ได้ทำรายงานข้อเท็จจริงมาแล้วตั้งแต่เมื่อวานนี้
"การตรวจสอบของตำรวจ เป็นการตรวจสอบข้อเท็จจริงเบื้องต้นเท่านั้น และจะนำข้อมูลจากการตรวจสอบของคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริง ว่ามีมูลกล่าวหาวินัยหรือไม่ หากมีมูลก็จะเสนอตั้งคณะกรรมการสืบสวนข้อเท็จจริง ตามพระราชบัญญัติตำรวจแห่งชาติต่อไป"
ส่วนนายลี จาง ผู้ช่วยอธิการบดีฝ่ายกิจการนานาชาติมหาวิทยาลัยสยาม ทำหน้าที่เป็นผู้ประสานงานของมหาวิทยาลัย เจ้าตัวเดินทางมาจากประเทศจีนเมื่อวาน และตำรวจได้สอบปากคำเรียบร้อยตั้งแต่เมื่อวานแล้ว ซึ่งเจ้าตัวไม่ใช่ผู้จัดอบรม แต่มีผู้จัดอีกคนที่เป็นชาวจีนเหมือนกัน ซึ่งก็มีส่วนเกี่ยวข้องกันโดยให้สมาชิกแจ้งข่าวเพื่อให้ชาวจีนช่วยเหลือคนจีนที่ทำการค้าในไทย
พล.ต.ต.เกียรติกุล กล่าวว่า จากการสอบปากคำวันนี้มีทั้งหมด 2 ส่วน ทราบว่ามีผู้เข้าฝึกอบรมมีจำนวน 27 คน เป็นชาวจีน 26 คน คนไทย 1 คน ชาวจีน 26 คน มีนักศึกษาจีนที่เรียนมหาวิทยาลัยอยู่แล้ว 13 คน และมีคนนอก 13 คน การเรียกเก็บเงิน เรียกเก็บเงินในส่วนของคนนอกที่ไม่ใช่นักศึกษา ส่วนเมื่อถามว่าเงินที่เก็บจากภายนอกนำส่งไปที่ไหน ส่วนนี้ยังไม่ได้ให้การ เพราะวันนี้สอบเพียงข้อเท็จจริงเบื้องต้นว่ามีการเรียกเก็บเงินจริงหรือไม่เท่านั้น
เมื่อถามว่ามหาวิทยาลัยรู้เรื่องหรือไม่ เบื้องต้นยังไม่ได้มีการสอบปากคำมหาวิทยาลัย แต่มีการใช้สถานที่ของมหาวิทยาลัยจริง
เมื่อถามว่า ตำรวจ 2 นายที่เกี่ยวข้อง จะมีการให้ย้ายออกหรือไม่นั้น พล.ต.ต.เกียรติกุล กล่าวว่า เบื้องต้นขอนำเรียนให้ผู้บังคับบัญชาทราบก่อนซึ่งจะต้องมีการพิจารณาอีกครั้ง และอะไรที่เกี่ยวข้องกับคดีที่น่าเชื่อว่าเป็นความผิดอาญาที่เกิดขึ้นในเขตภาษีเจริญ ทางเราก็จะมีการพิจารณาและประมวลไปให้ผู้บัญชาการฯ ได้พิจารณาสั่งการ ส่วนตำรวจจะได้รับค่าตอบแทนหรือไม่ เชื่อว่าน่าจะมีค่าตอบแทน เพราะไม่เช่นนั้น คงไม่เดินทางจากมีนบุรีไปจนถึงภาษีเจริญ โดยคนกลางชาวจีนที่ประสานงานมา รู้จักรองผู้กำกับจึงได้ประสานงานขอวิทยากรมา
"ยืนยันว่าในส่วนของ บก.น.3 ไม่มีการจัดกิจกรรมลักษณะนี้ ไม่มีการจัดอบรมให้คนจีน และการไปจัดอบรมครั้งนี้ ทราบว่ามีเพียงการทำหนังสือถึงแค่ผู้กำกับฯ และผู้กำกับฯ ก็ได้ทำหนังสือมอบหมายให้รองผู้กับกับฯ ดำเนินการ"พล.ต.ต.เกียรติกุล กล่าว
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี