เปิดภาพหน้ารถ ก่อนเกิดอุบัติเหตุต้นไม้ล้มทับรถบัสโดยสารทำ นักท่องเที่ยวต่างชาติบาดเจ็บ 9 ราย

จากกรณี พ.ต.ท.มณิภัทร์ เพ็งเกร็ด สว.(สอบสวน) สภ.ลาดหญ้า จ.กาญจนบุรี เจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐาน 7 เจ้าหน้าโรงพยาบาลพหลพลพยุหเสนา เจ้าหน้าที่โรงพยาบาลสินแพทย์ เจ้าหน้าที่เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าสลักพระ และกำลังเจ้าหน้าที่มูลนิธิพิทักษ์กาญจน์ เดินทางไปตรวจสอบพร้อมให้ความช่วยเหลือนักท่องเที่ยวชาวยุโยปที่ได้รับบาดเจ็บจากการถูกเศษกระจกกระเด็นใส่ตามร่างกาย แขน ขาใบหน้ารวมถึงถูกกิ่งไม้ฟาด เนื่องจากต้นไม้ที่ขึ้นอยู่ริมทางถูกโค่นล้มทับรถบัสโดยสารสายกาญจนบุรี-เอราวัณ เป็นเหตุทำให้กระจกแตกกระเด็นใส่นักท่องเที่ยว เหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นเมื่อวันที่ 3 ม.ค.ที่ผ่านมา ที่บริเวณทางหลวงแผ่นดินหมายเลข 3199 สายแก่งเสี้ยน-ศรีสวัสดิ์ ก่อนถึงทางโค้งบ้านท่ามะนาว หมู่ 2 ต.วังด้ง อ.เมือง จ.กาญจนบุรี ตามที่ได้เสนอข่าวไปแล้วนั้น

ล่าสุดวันนี้ (4 ม.ค.68) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า จากการตรวจสอบข้อมูลทราบว่าก่อนเกิดเหตุนายสุชาติ (ขอสงวนนามสกุล) อายุ 52 ปี ชาวกาญจนบุรี ได้ขับรถบัสโดยสารออกจากสถานีขนส่งผู้โดยสารเทศบาลเมืองกาญจนบุรี เพื่อมุ่งหน้าไปที่น้ำตกเอราวัณ อ.ศรีสวัสดิ์ โดยมีผู้โดยสารมาด้วย 30 คน เป็นคนไทย 19 คน นักท่องเที่ยวจากยุโรป 11 คน

ก่อนที่นายสุชาติ จะขับรถไปถึงจุดเกิดเหตุประมาณ 5 เมตร อยู่ๆต้นขี้หนอนขนาดใหญ่สูงประมาณ 20 เมตรก็โค่นล้มขวางถนนอย่างกะทันหัน เมื่อนายสุชาติ เห็นจึงได้พยายามเบรกเพื่อห้ามล้อแต่ไม่ทันทำให้รถบัสพุ่งชนอย่างแรงแล้วลากไปไกลประมาณ 15 เมตร รถบัสได้รับความเสียหายกระจกหน้าแตก เศษกระจกกระเด็นเข้าตามร่างกายของนักท่องเที่ยวชาวยุโรปที่มาด้วยกันได้รับบาดเจ็บ 9 คน ส่วนใหญ่ถูกเศษกระจกกระเด็นใส่เป็นบาดแผลตามแขนขาและใบหน้า หลังจากทำการรักษาคณะแพทย์ได้อนุญาตให้กลับได้ 8 คน นอนรอดูอาการที่ รพ.เอกชน 1 คน เป็นหญิงชาวแคนาดา อายุ 45 ปี จากการสอบถามล่าสุดทราบแพทย์อนุญาตให้ออกจากโรงพยาบาล วันนี้ (4 ม.ค.68)

สำหรับนักท่องเที่ยวชาวยุโรปทั้ง 11 คนเป็นครอบครัวนักท่องเที่ยวชาวแคนาดา 4 คน ประกอบด้วย 1.นายเอ็ดเวิร์ด มิตเชลล์ ชาวแคนาดา อายุ 46 ปี 2.น.ส.เจมี่ มิเชล มิตเชลล์ อายุ45 ปี(แพทย์อนุญาตให้ออกจาก รพ.วันนี้)  3.น.ส.ไวโอเล็ต นิโคล มิตเชลล์ อายุ14 ปี และ 4.ด.ช.เดสมอนด์ เจมส์ มิต อายุ 10 ปี

นักท่องเที่ยวชาวสหรัฐอเมริกา 3 คน 1.นางคิลลีน รอยซ์ เมอร์เรย์ อายุ 30 ปี 2.นายเฮนรี่ อัลเลน ค็อกแกน อายุ 30 ปี  และ 3.นางสาวโซเฟีย โรส อลิซ ไรดิ้ง ฮัลก์ อายุ 19 ปี ชาวเนเธอร์แลนด์ 2 คน 1.นายมาร์โก บริงค์ อายุ 28 ปี 2.น.ส.แซร์ตเย อัลโต แฟลป อายุ 28 ปี และชาว ไอร์แลนด์ 2 คน 1.น.ส.บีบา โรส วาเดล อายุ 19 ปี และ 2. น.ส.ซาชา โคลอี เฮย์ส อายุ 18 ปี

หลังเกิดเหตุนายอธิสรรค์ อินทร์ตรา ผู้ว่าราชการจังหวัดกาญจนบุรี มอบหมายให้นายวุฒิพงษ์ สุภัคควนิช รองผู้ว่าราชการจังหวัดกาญจนบุรี เป็นผู้ประสานงานและเข้าเยี่ยมผู้บาดเจ็บที่โรงพยาบาลสินแพทย์ กาญจนบุรี โดยเจ้าหน้าที่สำนักงานท่องเที่ยวและกีฬาจังหวัดกาญจนบุรี ได้อำนวยความสะดวกในการเดินทางระหว่างออกจากโรงพยาบาลสินแพทย์ กาญจนบุรี ไปยังโรงแรมที่พักของนักท่องเที่ยวเป็นอย่างดี

ส่วนกรณีมีผู้ลักลอบโค่นต้นไม้นั้น ตรวจสอบแล้วอยู่ในเขตรับผิดขอบของแขวงทางหลวงกาญจนบุรี เจ้าหน้าที่แขวางทางหลวงกาญจนบุรี ผู้เสียหายจึงเข้าพบพนักงานสอบสวน สภ.ลาดหญ้า ให้ติดตามผู้กระทำผิดมาดำเนินคดีในข้อหา ลักทรัพย์

โดย พ.ต.ท.มณิภัทร์ เพ็งเกร็ด สว.(สอบสวน) สภ.ลาดหญ้า จ.กาญจนบุรี ร้อยเวรเจ้าของคดี ได้รายงานให้ พ.ต.อ.เตชินท์ บรรจง ผกก.สภ.ลาดหญ้า ทราบถึงกรณีต้นไม้ล้มขวางทางทำให้เกิดอุบัติเหตุทำให้นักท่องเที่ยวชาวยุโรปได้รับบาดเจ็บจำนวนดังกล่าวว่า จากการตรวจสอบบริเวณฝั่งตรงข้ามที่ที่ต้นไม้โค่นล้มพบนายวศิน ชายต้องสงสัยยืนอยู่ เจ้าหน้าที่จึงเข้าไปสอบถาม และจากการตรวจสอบพบเลื่อนโซ่ยนต์สำหรับตัดต้นไม้ อยู่ที่ป่าข้างทาง 1 เครื่อง ซึ่งนายวศิน ยอมรับว่าเป็นของตนจริงและไม่มีใบ้อนุญาตการครอบครอง จึงถูกดำเนินคดีตาม พรบ.เลื่อยโซ่ยนต์ ไป 1 คดี

ส่วนกรณีตัดโค่นต้นไม้ทำให้เกิดอุบัติเหตุนั้น นายวศิน ให้การปฏิเสธว่าไม่มีส่วนเกี่ยวข้อง ซึ่งเจ้าหน้าที่ได้ตรวจสอบพบเชือกสลิงผูกยึดติดอยู่กับโคนต้นไม้ที่ล้มใส่รถบัสโดยสาร จึงตรวจยึดเอาไว้เป็นของกลาง พร้อมกับให้เจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐานจังหวัดกาญจนบุรี ทำการตรวจเก็บสาร DNA ที่โคนต้นไม้ ที่เชือกสลิง ที่เลื่อนโซ่ยนต์และที่ตัวของนายวศินผู้ต้องสงสัยเอาไว้ หากผล DNA ออกมาตรงกับ DNA ของนายวศิน ผู้ต้องสงสัย จะต้องถูกดำเนินคดีเพิ่มอีก 1 ข้อหา แต่ต้องรอผลตรวจเสียก่อน” - 003