10วันอันตรายปีใหม่ผ่านแปดวัน! เสียชีวิตบนท้องถนน363ราย บาดเจ็บระนาวพุ่งขึ้นกว่า2พันคน ด้าน ‘กทม.-สุราษฎร์’ ขึ้นนำยอดสูญเสียสะสม ขณะที่ ‘ศปถ.’ กำชับเข้มช่วงเดินทางกลับทำงานเข้าสู่ภาวะปกติ
วันที่ 4 มกราคม 2568 เมื่อเวลา 10.30 น. ที่กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย(ปภ.) นายสหรัฐ วงศ์สกุลวิวัฒน์ รองอธิบดีกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย ในฐานะประธานการประชุมคณะอนุกรรมการเฉพาะกิจศูนย์อำนวยการป้องกันและลดอุบัติเหตุทางถนนตลอดทั้งปี เพื่อรณรงค์ป้องกันและลดอุบัติเหตุทางถนนช่วงเทศกาลปีใหม่ พ.ศ. 2568 และประธานแถลงผลการดำเนินงานของศูนย์อำนวยการป้องกันและลดอุบัติเหตุทางถนนช่วงเทศกาลปีใหม่ พ.ศ. 2568 ประจำวันที่ 3 มกราคม 2568 เปิดเผยว่า วันนี้ยังมีประชาชนเดินทางเดินทางกลับเข้าพื้นที่กรุงเทพมหานครและจังหวัดอื่นที่เป็นเขตเศรษฐกิจในภูมิภาคต่าง ๆ ทำให้รถบนเส้นทางสายหลักและสายรองมีปริมาณหนาแน่นอีกครั้ง เพื่อป้องกันและลดความเสี่ยงเกิดอุบัติเหตุที่อาจเกิดขึ้น ศปถ. จึงกำชับให้ทุกจังหวัดประสานหน่วยงานในพื้นที่ให้ยังคงปฏิบัติตามมาตรการป้องกันและลดอุบัติเหตทางถนนช่วงเทศกาลปีใหม่ พ.ศ. 2568 อย่างต่อเนื่อง เพื่ออำนวยความสะดวกและดูแลความปลอดภัยให้แก่ประชาชนที่อยู่ในระหว่างการเดินทางกลับ โดยเข้มข้นการตั้งด่านตรวจ จุดตรวจ จุดสกัดบนถนนสายหลัก เพื่อเฝ้าระวัง ตรวจตรา และป้องปรามพฤติกรรมเสี่ยงที่อาจทำให้เกิดอุบัติเหตุ หากตรวจพบผู้ขับขี่มีพฤติกรรมเสี่ยงให้ดำเนินการบังคับใช้กฎหมายอย่างเคร่งครัด ร่วมกับการตั้งจุดพักรถและจุดบริการประชาชน เพื่อรองรับประชาชนที่อ่อนเพลียและเหนื่อยล้าจากการขับรถเป็นเวลานาน และการติดตั้งไฟส่องสว่าง ป้ายหรือสัญญาณไฟแจ้งเตือนในบริเวณถนนที่มีทัศนวิสัยต่ำ เพื่อช่วยให้ทัศนวิสัยดีขึ้นและแจ้งเตือนประชาชนให้เพิ่มความระมัดระวังในการใช้เส้นทาง นอกจากนี้ ได้กำชับให้จังหวัดประสานหน่วยงานที่เกี่ยวข้องจัดเตรียมรถโดยสารสาธารณะบริการรับ-ส่งประชาชนตามสถานีขนส่งต่าง ๆ ให้เพียงพอต่อความต้องการของประชาชน และให้ตรวจสอบสภาพความพรัอมของรถโดยสารสาธารณะและพนักงานขับรถให้สามารถปฏิบัติงานบริการประชาชนได้อย่างปลอดภัย
“ในวันนี้และวันพรุ่งนี้ คาดว่าปริมาณรถบนท้องถนนจะเริ่มกลับมามีความหนาแน่น ทั้งจากประชาชนที่เดินทางกลับมายังกรุงเทพมหานครและพื้นที่เศรษฐกิจ และนักท่องเที่ยวที่ยังอยู่ในพื้นที่ นอกจากการปฏิบัติตามมาตรการป้องกันและลดอุบัติเหตุทางถนนช่วงเทศกาลปีใหม่ พ.ศ. 2568 และมาตรการเน้นย้ำในวันนี้ ศปถ. ขอฝากให้จังหวัดประชาสัมพันธ์ให้ประชาชนและนักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติที่เดินทางสัญจรในพื้นที่ใช้รถใช้ถนนด้วยความระมัดระวัง และปฏิบัติตามกฎจราจรอย่างเคร่งครัด ต้องสวมใส่อุปกรณ์นิรภัยทุกครั้ง ไม่ดื่มแล้วขับ ไม่ขับรถเร็วและในกรณีไม่ชำนาญเส้นทางต้องลดความเร็วในการขับขี่ลง เพื่อป้องกันการเกิดอุบัติเหตุที่อาจเกิดขึ้น สำหรับประชาชนและนักท่องเที่ยวในจังหวัดทางภาคเหนือและภาคตะวันออกเฉียงเหนือ โดยเฉพาะบริเวณยอดดอยและยอดภูที่มีอากาศเย็นและมีหมอกลงจัดในหลายพื้นที่ ขอให้เปิดใช้ไฟตัดหมอก หลีกเลี่ยงการแซง และเพิ่มระยะห่างจากรถคันหน้า และในพื้นที่ที่มีทัศนวิสัยต่ำจากควันไฟที่เกิดจากการเผาไร่สวนข้างทาง โดยเฉพาะอย่างยิ่งสำหรับผู้ขับขี่รถยนต์และรถจักรยานยนต์ซึ่งอาจทำให้ไม่สามารถมองเห็นทางได้อย่างชัดเจนและเสี่ยงต่อการเกิดอุบัติเหตุมากขึ้นหากเป็นไปได้ ขอให้ประชาชนหลีกเลี่ยงการใช้เส้นทางดังกล่าว หากจำเป็น ขอให้ลดความเร็วในการเดินทางลง” นายสหรัฐ กล่าว
รองอธิบดีปภ. กล่าวด้วยว่า ศปถ. ขอฝากให้ประชาชนผู้ใช้รถใช้ถนนปฏิบัติตามกฎจราจร มีน้ำใจกับผู้ร่วมใช้เส้นทางและประเมินสภาพความพร้อมในการขับขี่ของตนเองเสมอ โดยหากมีอาการง่วง อ่อนเพลีย หรือรู้สึกเหนื่อยล้าจากการเดินทาง ขอให้แวะพักยังจุดพักรถหรือจุดบริการประชาชนที่ทางราชการจัดสรรไว้ให้ อย่าฝืนขับรถต่อเพราะอาจทำให้เกิดอุบัติเหตุและความสูญเสียได้ โดยจากการดำเนินงานในห้วงที่ผ่านมาพบว่าจุดบริการประชาชนมีส่วนช่วยอย่างมากในการป้องกันอุบัติเหตุ โดยเฉพาะการหลับใน สำหรับประชาชนที่พบเห็นหรือประสบอุบัติเหตุระหว่างการเดินทาง สามารถแจ้งเหตุได้ที่สายด่วน 191 ถึงตำรวจ 1669 เรียกรถพยาบาลและหน่วยแพทย์ฉุกเฉิน หรือโทรสายด่วนนิรภัย 1784 หรือแจ้งผ่านทางไลน์ “ปภ.รับแจ้งเหตุ 1784” โดยเพิ่มเพื่อนผ่าน Line@1784DDPM เพื่อประสานการให้ความช่วยเหลือโดยด่วนต่อไปได้ตลอด 24 ชั่วโมง”
สำหรับข้อมูลอุบัติเหตุทางถนนช่วงเทศกาลปีใหม่ 2568 ประจำวันที่ 3ม.ค.68 ซึ่งเป็นวันที่8ของการรณรงค์ “ขับขี่ปลอดภัย เมืองไทยไร้อุบัติเหตุ” ศูนย์อำนวยการป้องกันและลดอุบัติเหตุทางถนนช่วงเทศกาลปีใหม่ พ.ศ.2568 โดยกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยและความร่วมมือของหน่วยงานภาคีเครือข่ายได้รวบรวมสถิติอุบัติเหตุทางถนนประจำวันที่ 3ม.ค. เกิดอุบัติเหตุ 205 ครั้ง ผู้บาดเจ็บ 199 คน ผู้เสียชีวิต 32 ราย สาเหตุที่ทำให้เกิดอุบัติเหตุสูงสุดได้แก่ ตัดหน้ากระชั้นชิด ร้อยละ 32.2 ขับรถเร็ว ร้อยละ 31.22 และทัศนวิสัยไม่ดี ร้อยละ 17.56 ยานพาหนะที่เกิดอุบัติเหตุสูงสุด ได้แก่ รถจักรยานยนต์ ร้อยละ 90.04 ส่วนใหญ่เกิดบนเส้นทางตรง ร้อยละ 84.39 ถนนกรมทางหลวงร้อยละ 50.24 ถนนใน อบต./หมู่บ้าน ร้อยละ 26.83
ช่วงเวลาที่เกิดอุบัติเหตุสูงสุด ได้แก่ เวลา 17.01-18.00 น. ร้อยละ 9.27 เวลา 16.01-17.00 น. ร้อยละ 8.78 และ เวลา10.01-11.00 น. ร้อยละ 7.32 ผู้บาดเจ็บและเสียชีวิตสูงสุดอยู่ในช่วงอายุ 50-59 ปี ร้อยละ 15.58 จัดตั้งจุดตรวจหลัก1,765 จุด เจ้าหน้าที่ปฏิบัติงาน 50,303 คน
โดยจังหวัดที่เกิดอุบัติเหตุสูงสุด ได้แก่ เชียงราย (10 ครั้ง) จังหวัดที่มีผู้บาดเจ็บสูงสุด ได้แก่ เชียงราย (11 คน) จังหวัดที่มีผู้เสียชีวิตสูงสุด ได้แก่ พิษณุโลก (3 ราย)
สรุปอุบัติเหตุทางถนนสะสมในช่วง 8 วันของการรณรงค์ (27ธ.ค.67 – 3ม.ค.68) เกิดอุบัติเหตุรวม 2,149 ครั้ง ผู้บาดเจ็บรวม 2,090 คน ผู้เสียชีวิต รวม 363 ราย จังหวัดที่เกิดอุบัติเหตุสะสมสูงสุด ได้แก่ สุราษฎร์ธานี (78 ครั้ง) จังหวัดที่มีผู้บาดเจ็บสะสมสูงสุด ได้แก่ สุราษฎร์ธานี (88 คน) จังหวัดที่มีผู้เสียชีวิตสะสมสูงสุด ได้แก่ กรุงเทพมหานคร (21 ราย)
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี