ดร.วิจารย์ สิมาฉายา ผู้อำนวยการสถาบันสิ่งแวดล้อมไทย เปิดเผยในพิธีลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือ (MOU) ขับเคลื่อนสุขภาวะองค์กรกลุ่มภาคประชาสังคม ระหว่างสำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) กรมพัฒนาสังคมและสวัสดิการ (พส.) และสถาบันสิ่งแวดล้อมไทย (ม.ส.ท.) เมื่อวันที่ 25 ธ.ค. 2567 ที่ห้องประชุมปกรณ์ อังศุสิงห์ กรมพัฒนาสังคมและสวัสดิการ ว่า ที่ผ่านมาการทำงานของภาคประชาสังคมต้องเผชิญกับสถานการณ์ปัญหาที่ซับซ้อน ส่งผลต่อแรงกดดัน ความเครียด และพฤติกรรมเสี่ยงที่ส่งผลให้ป่วยโรคไม่ติดต่อ (NCDs) ได้โดยไม่รู้ตัว
ซึ่งสอดคล้องกับผลสำรวจสถานการณ์สุขภาพและปัจจัยเสี่ยงที่ทำให้เกิดโรคในกลุ่มองค์กรภาคประชาสังคม 39 แห่งทั่วประเทศ ปี 2567 โดยสถาบันวิจัยและให้คำปรึกษาแห่งมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ พบว่า คนภาคประชาสังคมมีปัญหาสุขภาพที่ต้องได้รับการสนับสนุนเพื่อปรับเปลี่ยนพฤติกรรมอย่างเร่งด่วนในมิติ Happy Body Happy Relax และ Happy Money โดยสาเหตุความเครียดมาจากภาระงานที่หนัก สภาพแวดล้อมไม่เอื้อต่อการออกกำลังกาย รับประทานอาหารเน้นหวาน มัน เค็ม การสูบบุหรี่ ดื่มแอลกอฮอล์ และไม่มีเงินออมที่เพียงพอ ดังนั้น คนทำงานภาคประชาสังคม จึงควรได้รับการดูแลจากภาครัฐ และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องโดยเฉพาะมิติความเหลื่อมล้ำด้านสุขภาพ
ขณะที่ ภรณี ภู่ประเสริฐ ผู้ช่วยผู้จัดการกองทุน สสส. กล่าวว่า สถานการณ์สุขภาพและพฤติกรรมสุขภาพของคนวัยทำงาน จากรายงานสุขภาพคนไทย ปี 2566 โดยสำนักงานสถิติแห่งชาติ พบว่า ไทยมีคนวัยทำงานอยู่ 39 ล้านคน ส่วนใหญ่มีปัญหาเรื่องสุขภาพป่วยโรค NCDs ที่น่าสนใจยังพบว่ากลุ่มโรค NCDsที่คร่าชีวิตคนวัยทำงานมากที่สุดอันดับ 1 คือ โรคเบาหวานรองลงมาคือ โรคหลอดเลือดสมองและหัวใจ โรคมะเร็ง โรคความดันโลหิตสูง และโรคอ้วนลงพุง มีสาเหตุจากการขาดการออกกำลังกาย การบริโภคอาหารหวานมัน เค็ม
ดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ การสูบบุหรี่ สอดคล้องกับผลสำรวจสถานการณ์สุขภาพและปัจจัยปัญหาพฤติกรรมสุขภาพคนทำงานกลุ่มภาคประชาสังคมในองค์กรภาคประชาสังคม 72 แห่ง 23 จังหวัดทั่วประเทศ ปี 2567 โดย สสส. และสถาบันวิจัยและให้คำปรึกษาแห่งมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ พบคนวัยทำงานภาคประชาสังคมมีปัญหาหนี้สิน 93% รับประทานอาหารรสชาติหวาน มัน เค็ม สูง 97% มีภาวะเครียดจากการทำงาน 66% ติดแอลกอฮอล์ 60.6% และเผชิญภาวะอ้วนลงพุง 32.45
ทั้งนี้ สสส. ได้ร่วมกับ พส. และสถาบันสิ่งแวดล้อมไทยสนับสนุนการสร้างสภาพแวดล้อมที่เอื้อต่อการมีสุขภาพที่ดีของคนทำงานในภาคประชาสังคม การพัฒนาองค์ความรู้ด้านสุขภาพ เชื่อมโยงการแลกเปลี่ยนเรียนรู้ระหว่างองค์กร ปั้นให้เกิดนักสร้างสุของค์กรผู้นำสุขภาพ 250 คน มุ่งเป้านำร่องในองค์กรภาคประชาสังคม50 แห่ง ทั่วประเทศ พร้อมขยายผลให้เกิดเป็นโมเดลต้นแบบองค์กรสุขภาวะภาคประชาสังคมนำร่อง 5 แห่ง ภายในปี 2569 ที่พัฒนาให้คนวัยทำงานมีคุณภาพชีวิตที่เข้มแข็ง พร้อมเป็นกำลังสำคัญในการพัฒนาประเทศต่อไป
ด้าน พิสิฐ พูลพิพัฒน์ รองอธิบดี พส. เปิดเผยว่าพส. ได้จัดทำร่างแผนปฏิบัติการด้านการส่งเสริมและพัฒนาองค์กรภาคประชาสังคม ภายใต้คณะกรรมการส่งเสริมและพัฒนาองค์กรภาคประชาสังคม ปัจจุบันอยู่ในระยะที่ 2 มีเป้าหมายสำคัญ คือการส่งเสริมและพัฒนาองค์กรภาคประชาสังคม เพื่อการพัฒนาสังคม ลดความเหลื่อมล้ำ พัฒนาคุณภาพชีวิต และสุขภาวะของประชาชน ชุมชน
รวมทั้งสร้างความเข้มแข็งและพึ่งพาตนเองได้ขององค์กรภาคประชาสังคม ซึ่งการลงนามความร่วมมือในครั้งนี้ เป็นอีกหนึ่งหมุดหมายสำคัญในการร่วมกันสร้างกลไกการขับเคลื่อนงานองค์กรสุขภาวะกลุ่มภาคประชาสังคม นำไปสู่การพัฒนาคุณภาพชีวิตคนทำงานให้มีสุขภาวะตามแนวคิด Happy 8 และ Happy Workplace ของ สสส. รวมถึงส่งเสริมการพัฒนาศักยภาพขององค์กรภาคประชาสังคมให้มีความเข้มแข็ง เกิดกลไกการขับเคลื่อนงานองค์กรสุขภาวะอย่างต่อเนื่องและยั่งยืน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี