รอบรั้วเมืองใต้ในหนังสือพิมพ์แนวหน้า ฉบับนี้ ผู้เขียนขอเข้าร่ายข่าวสังคม ชมคนที่ควรชมข่มคนที่ควรข่ม ตามวิสัยคนหนังสือพิมพ์อาชีพ ที่เห็นมาอย่างไร ก็เขียนไปอย่างนั้น...

ll รัฐบาล กับงานการเมือง ในเทศกาล ของการต้อนรับปีใหม่ 2568 คือการอำนวยความสะดวก ให้กับประชาชน ในเทศกาลของการต้อนรับปีใหม่ โดยให้ทุกกระทรวงมีการอำนวยความสะดวก ในการเดินทางสัญจร เช่น การเปิดฟรีมอเตอร์เวย์ในบางช่วง บางตอน บางสายในการเดินทางไปต่างจังหวัด ขณะที่ กระทรวงยุติธรรม จัดกิจกรรม ให้ญาติเข้าเยี่ยมผู้ต้องขังอย่างใกล้ชิดในวัดหยุดเทศกาลปีใหม่ เช่นเดียวกับอีกหลายกระทรวง เช่น กระทรวงแรงงาน กระทรวงทรัพย์ ก็มีการจัดกิจกรรม ที่เรียกว่าเป็นการมอบของขวัญให้กับประชาชน...

ll แต่ สิ่งหนึ่งที่ ยังคงป้องกันไม่ได้ นั้นคือเรื่องของ 7 วันอันตราย ที่ยังคงเป็น 7 วันอันตราย ที่อันตราย จากการใช้รถใช้ถนน ยังคงไม่ลดลง และเรื่องของเมาแล้วขับ ก็ยังเป็นสาเหตุหลัก ในห้วง 7 วันอันตราย ซึ่งแสดงให้เห็นว่าการตั้งจุดตรวจ ที่รัฐบาล คิดว่าจะเป็นการแก้ปัญหาในการลดอุบัติเหตุ ในห้วง 7 วันของเทศกาลต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นปีใหม่ หรือสงกรานต์ ยังเป็นเรื่องที่เกาไม่ถูกที่คัน ซึ่งหน่วยงานที่รับผิดชอบ ควรมีการทบทวน ว่า นอกจากการตั้งด่านตรวจ อย่างที่ทำกันมาหลาย 10 ปี แต่ไม่มีผล ยังจะต้องมีมาตรการ อะไรเพิ่มเติมเพื่อลดการเกิดอุบัติเหตุ ในห้วงของเทศกาล สำคัญๆ ที่ประชาชนมีการใช้รถใช้ถนน เป็นจำนวนมาก หรืออย่างมาตรการของเอกนัฏ พร้อมพันธุ์ เสนาบดีกระทรวงอุตสาหกรรม ที่ให้โรงงานน้ำตาล หยุดรับซื้ออ้อย เป็นเวลา 7 วัน เพื่อการลดอุบัติเหตุก็ทำได้ในพื้นที่ไม่กี่จังหวัด แต่ก็ถือว่าเป็นเรื่องที่ดี ดีกว่าที่ไม่คิดที่จะทำอะไรเลย...

ll และหลังการเฉลิมฉลอง ในเทศกาลปีใหม่แล้ว หลังการเดินทาง กลับบ้านไปเยี่ยมบ้านแล้ว ทุกคนก็ต้องกลับมาทำงาน และอยู่กับความจริง ในเรื่องของปากท้อง เรื่องของเศรษฐกิจที่ยังยักแย่ยักยัน มองไม่เห็นแสงสว่าง ว่าประเทศไทย จะขึ้นจากหลุมดำ ทางเศรษฐกิจ ได้อย่างไร สิ่งที่รับรู้ คือการพยายามประคับประคอง ด้วยการ ลดนั้นแจกนี้ เช่น จะมีการลดค่าไฟฟ้าลง 3 สตางค์ ต่อหน่วย ซึ่งมันจิ๊บจ้อย เหลือเกิน ในความรู้สึกของประชาชน ส่วนโครงการใหญ่ๆ ที่ เรื่องการให้สถาบันการเงิน เปิดกว้าง เพื่อให้ผู้ต้องการเงินลงทุน อย่างกิจการขนาดเล็ก หรือเอสเอ็มอี ก็ยังเป็นเรื่องที่ยักตื้นติดกึก ยังลึกติดกัก เพราะสถาบันการเงิน ไม่โอนอ่อนผ่อนตาม นโยบายของรัฐบาล เมื่อรัฐบาล เรียกประชุมนายแบงก์ ทุกแบงก์ก็รับปากว่าจะปล่อยกู้ ตาม นโยบายของรัฐบาล แต่ในความเป็นจริง ทุกสถาบันการเงิน ที่เป็นของเอกชน บรรดานายแบงก์ ทุกคนต่างส่ายหน้า ไม่เห็นด้วยกับนโยบาย ของรัฐบาล ดังนั้นทุกแบงก์ จึงไม่มีใครเสี่ยง ในการปล่อยกู้ ให้กับธุรกิจ ที่มีความเสี่ยง และกับประชาชน ที่ไม่มีหลักประกัน...

ll ยกตัวอย่างการปล่อยกู้ ในการซื้อบ้าน ที่สถาบันการเงินทุกสถาบัน ถือว่ามีความเสี่ยงสูง ซึ่งใน อดีต สถาบันการเงิน จะไม่ปล่อยกู้ ให้การซื้อบ้าน ที่ราคาตั้งแต่ 1 ล้านบาทถึง 1.5 ล้านบาท เพราะผู้ซื้อ เป็นชาวบ้าน,ข้าราชการชั้นผู้น้อย ที่สถาบันการเงิน อ้างว่ามีความเสี่ยงสูง แต่ วันนี้ ผู้ซื้อบ้าน ราคา 5 ล้านบาทขึ้นไปสถาบันการเงินก็อนุมัติวงเงินสินเชื่อ ยากขึ้น เพราะวันนี้ชนชั้นกลาง เริ่มที่จะมีหนี้เสีย ในเรื่องของการผ่อนชำระ มากขึ้น ดังนั้นถ้ากับดัก ด้านของหนี้ครัวเรือน ยังไม่ได้รับการแก้ไข จากรัฐบาล อย่างจริงๆ จังๆ โอกาสที่จะเห็นการโงหัว ของเศรษฐกิจ ของประเทศ ก็ยังมองไม่เห็นแสงสว่างที่ปลายอุโมงค์ ที่สำคัญนักธุรกิจ และนักลงทุน ในด้านอสังหาริมทรัพย์ขนาดเล็ก กำลังจะหมดตัว และกลายเป็นผู้ล้มละลาย มากขึ้นๆ...

ll ในที่สุด บ่อนกำถั่ว หลัง สภ.สะเดา จ.สงขลา ก็ถูก ตำรวจ ภาค 9 บุกทลายไปเมื่อหลายวันก่อน แต่เชื่อเถอะ ทั้งบ่อนกำถั่วหลัง สภ.สะเดา และ ที่ตลาดสะเดา ปีใหม่ ก็ลอบเปิดเล่นการพนันกำถั่วกันอีก เหมือนกับน้ำมันเถื่อน ที่ด่านนอก และในใจกลางเมืองสะเดา ก็จะเปิดขายได้ตามปกติในปีใหม่นี้ผู้เขียน ทำนายล่วงหน้า...นี่ยังไม่รวมถึงผับเถื่อนในสะเดาที่ด่านนอก เปิดกันร้อยกว่าแห่ง แต่ไม่มีการจับกุม ปล่อยให้เปิดกันจนข้ามปี...ll

ปรีชา สถิตย์เรืองศักดิ์