4ลูกเรือประมงไทยไร้อนาคต
รัฐบาลหน้าแหก
เมียนมายังไม่ปล่อยตัวพ้นคุก
บัวแก้วชี้เรื่องละเอียดอ่อน
ต้องเจรจาอย่างแนบเนียน
“กต.” เร่งติดตาม 4 ลูกเรือไทย หลัง “เมียนมา” ยังไม่ปล่อยตัว ย้ำยังมีความละเอียดอ่อน การปล่อยตัว-ปัญหาการทำประมงต้องใช้ความอดทน-ช่องทางการเจรจาอย่างแนบเนียน
เมื่อวันที่ 5 มกราคม 2568 นายนิกรเดช พลางกูร อธิบดีกรมสารนิเทศและโฆษกกระทรวงการต่างประเทศ (กต.) กล่าวถึงการประกาศของทางการเมียนมาในเรื่องการปล่อยตัวผู้ต้องขัง และนักโทษต่างชาติเมื่อวานนี้ (4 ม.ค.) รวมนักโทษชาวไทยจำนวน 152คน ซึ่งเป็นกลุ่มที่ได้มีการดำเนินการก่อนหน้านี้ว่า กระทรวงกระทรวงการต่างประเทศ ขอขอบคุณฝ่ายเมียนมา อย่างไรก็ดี ขอเรียนว่า ในการประกาศครั้งนี้ ยังไม่พบรายชื่อ”ลูกเรือไทยทั้ง4คน”ที่ถูกจับกุมล่าสุด รวมอยู่ด้วย จึงเป็นที่ผิดหวังที่กระบวนการปล่อยตัวกลุ่มดังกล่าวยังไม่แล้วเสร็จในครั้งนี้ โดยฝ่ายเมียนมายังอยู่ในระหว่างการพิจารณาตามขั้นตอนที่เกี่ยวข้อง
ในทางการทูต กระทรวงการต่างประเทศ ได้ดำเนินการอย่างเต็มที่มาโดยตลอดและจะดำเนินการต่อไป ซึ่งกระทรวงการต่างประเทศเมียนมาก็ให้ความร่วมมืออย่างเต็มที่ พยายามผลักดันให้มีการปล่อยตัวโดยเร็ว บนพื้นฐานของการเป็นประเทศเพื่อนบ้านที่มีความสัมพันธ์อันดีระหว่างกัน โดยเรื่องดังกล่าวมีคณะกรรมการชายแดนส่วนท้องถิ่น หรือTBC ที่จะต้องหารือข้อสรุปร่วมกัน ซึ่งรวมถึงแนวทางการป้องกันไม่ให้เกิดเหตุการณ์ในลักษณะนี้อีกในอนาคต
ทั้งนี้ ในห้วงที่ผ่านมา กระทรวงการต่างประเทศ สถานเอกอัครราชทูต ณ กรุงย่างกุ้ง และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ได้ผลักดันและติดตามกับทางการเมียนมาอย่างใกล้ชิดและต่อเนื่อง รวมทั้งขอการเข้าถึงทางกงสุล (consular access) ในหลายช่องทาง ทั้งการโทรศัพท์พูดคุยกับลูกเรือทั้ง 4 คน เพื่อสอบถามสารทุกข์สุกดิบและให้กำลังใจ และล่าสุดเมื่อวันที่ 3มค.2568 เจ้าหน้าที่สถานเอกอัครราชทูตฯ ได้รับอนุญาตให้นำผู้แทนญาติของลูกเรือไทยเข้าเยี่ยมลูกเรือไทยทั้ง 4คน ที่จังหวัดเกาะสอง ภาคตะนาวศรี ซึ่งพบว่าลูกเรือไทยทั้ง 4คน มีสุขภาพแข็งแรง มีกำลังใจดี ได้รับการดูแลตามความเหมาะสม และได้รับอาหารครบ 3 มื้อ โดยสถานเอกอัครราชทูตฯ ได้นำสิ่งของจำเป็นไปมอบให้แก่ลูกเรือทั้ง 4 คนด้วย รวมทั้งได้แจ้งกับลูกเรือเกี่ยวกับสถานะการดำเนินการล่าสุดของหน่วยงานที่เกี่ยวข้องของไทยในการผลักดันกับฝ่ายเมียนมาเพื่อนำไปสู่การปล่อยตัวโดยเร็ว
สุดท้ายนี้ ขอเรียนว่า กรณีนี้ มีความละเอียดอ่อนทั้งในแง่เรื่องการปล่อยตัวลูกเรือชาวไทย ประเด็นปัญหาการทำประมงของทั้งสองฝ่าย รวมทั้งความสัมพันธ์ในภาพรวมของสองประเทศ ดังนั้น จึงต้องอาศัยความอดทนและช่องทางการเจรจาอย่างแนบเนียน โดยดำเนินการดังนี้ 1.เร่งช่วยเหลือให้ลูกเรือได้รับการปล่อยตัว ซึ่งย่อมขึ้นอยู่กับกระบวนการภายในต่างๆ ของเมียนมาด้วย โดยกระทรวงการต่างประเทศจะผลักดันทางการทูตต่อไป 2.แก้ไขปัญหาผ่านกลไก TBC ร่วมกันกับฝ่ายเมียนมาต่อไป ขอให้มั่นใจว่ากระทรวงการต่างประเทศและหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง จะติดตามและดำเนินการทุกอย่างในส่วนที่เกี่ยวข้องอย่างเต็มที่ ผ่านทุกช่องทางอย่างต่อเนื่องต่อไป เพื่อให้คนไทยทั้ง 4คนได้รับการปล่อยตัวต่อไป
ด้าน นายเทพไท เสนพงศ์ อดีต สส.นครศรีธรรมราช โพสต์คลิป พร้อมเนื้อหาบนเฟซบุ๊ก “เทพไท–คุยการเมือง”ในหัวข้อ“ขอใช้สิทธิ์คนใต้ ถามข่าวถึง 4 คนใต้ จะได้กลับไทยวันไหน” ดังนี้ ขอใช้สิทธิ์คนใต้ ถามข่าวถึง4คนใต้ จะได้กลับไทยวันไหน เมื่อนายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ออกมายอมรับความจริงว่า วันนี้พม่ายังไม่ปล่อย 4 ลูกเรือประมงไทยตามที่เคยพูดไว้ เพราะยังอยู่ในกระบวนการปล่อยตัว แต่ได้มอบหมายกระทรวงต่างประเทศประสานใกล้ชิดตลอด เชื่อว่าได้กลับบ้านแน่ แต่ยังระบุวันไม่ได้นั้น
ในฐานะที่ผมเป็นคนใต้คนหนึ่ง และลูกเรือทั้ง4คนที่ถูกทหารพม่าจับกุม ก็เป็นคนใต้เช่นเดียวกัน จึงขออนุญาตทำหน้าที่เป็นปากเสียงแทนพี่น้องคนใต้คนบ้านเดียวกัน ทวงถามความจริงใจเรื่องนี้ต่อรัฐบาลว่า การช่วยเหลือ 4 ลูกเรือประมงคนใต้นั้น อยากจะขอความมั่นใจและความชัดเจนจากรัฐบาลชุดนี้
เพราะก่อนหน้านี้ รัฐบาลเคยแจ้งข่าวญาติๆว่า 4คนไทยจะได้กลับประเทศไทย ในวันที่ 6 เดือนธันวาคม จนมีการเตรียมการนำรถพยาบาลของโรงพยาบาลมาจอดที่ท่าเรือระนอง เพื่อเตรียมการตรวจสุขภาพ แต่ต้องรอเก้อ รัฐบาลพม่าไม่ได้ปล่อยตัวมาตามที่รัฐบาลไทยประกาศไว้ รัฐบาลใช้วิธีการผัดวันประกันพรุ่งมาโดยตลอด ยังให้ความหวังกับญาติพี่น้องอีกต่อไปว่า 4 ชาวประมงคนไทย จะได้กลับประเทศหลังปีใหม่ วันที่ 4 มกราคม เพราะเป็นวันชาติของประเทศเมียนมา ยืนยันจะได้รับการปล่อยตัวแน่นอน แต่ในที่สุดก็ยังไม่มีวี่แววว่า คนไทย 4 คนได้รับการปล่อยตัวตามที่รัฐบาลให้ความหวังไว้ จนถึงวันนี้
เมื่อมีการทวงถามความชัดเจนจากรัฐบาลถึงวันได้รับการปล่อยตัวของ 4 คนไทย ได้คำตอบจากนายภูมิธรรมว่า ได้กลับแน่ แต่ไม่รู้ว่าเป็นวันไหน ซึ่งคำตอบแบบนี้ใครๆก็ตอบได้ ไม่จำเป็นต้องเป็นคนระดับรองนายกฯฝ่ายความมั่นคง จึงอยากให้รัฐบาลชุดนี้ ได้แสดงท่าที ทางการทูตที่ชัดเจน และเข้มแข็งต่อรัฐบาลเมียนมา เพื่อปกป้องสิทธิ์และศักดิ์ศรีของคนไทย ไม่ใช่ปล่อยผิดหวังซ้ำซากอยู่แบบนี้
ขณะที่ นายนิพิฏฐ์ อินทรสมบัติ อดีต สส.พัทลุง โพสต์ข้อความผ่านเฟชบุ๊ก “นิพิฏฐ์ อินทรสมบัติ” แสดงความคิดเห็นกรณียังไม่มีการปล่อยตัว 4 ลูกเรือประมงไทย ที่ถูกเมียนมาจับกุมไป ในวันครบรอบวันชาติเมียนมา 4 ม.ค.68 ตามที่รัฐบาลไทยเคยประกาศยืนยันเอาไว้ว่า 4 ลูกเรือประมงไทยจะได้รับการปล่อยตัวแน่นอน (‘นิพิฏฐ์’ซัดไม่ไว้หน้า’นายกฯ-ภูมิธรรม-’ไร้น้ำยา หลังเมียนมายังไม่ปล่อยตัว 4 ลูกเรือประมง) ระบุว่า เรามีรัฐบาลและกองทัพไว้ทำไม ผมเสียใจที่พม่าไม่ปล่อยคนไทย ตามที่รัฐบาลและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมพูดไว้ มิใช่ผมจะเข้าข้างคนไทยโดยไร้เหตุผล หากคนไทยรุกล้ำเข้าไปในน่านน้ำเขา ก็ต้องดำเนินการตามกฎหมาย
แต่ผมแปลกใจที่รัฐบาลและกองทัพเงียบเป็นเป่าสาก เหมือนกลัวพม่าจนไม่กล้าพูดอะไรเลย
ผมจำได้ว่า หลักการรบ ทหารไม่จำเป็นต้องฟังพลเรือน หลักการนี้ทหารใช้มาตั้งแต่สมัยโรมันแล้ว กล่าวคือ เมื่อทหารเริ่มชักกระบี่ทำการรบแล้ว แม้แต่จักรพรรดิ์ก็ห้ามไม่ได้ ทหารได้รับอาญาสิทธิ์เต็มที่ในการรบ เพราะทหารรู้เรื่องการรบมากกว่าพลเรือน น่าเสียดายเมื่อนักการเมืองยอมให้กองทัพเพื่อนบ้านฆ่าพลเรือนสัญชาติของตนเอง รมว.กลาโหมและกองทัพ กลับเงียบกริบ มิได้ปกป้องพลเรือน ผมมิได้นับศพคนไทยว่าตายมากน้อยเท่าไหร่ สำหรับผมแล้วพลเรือนไทยตายด้วยเรือรบต่างชาติ1คน ก็เสียศักดิ์ศรีเท่ากับตาย1,000คน นอกจากพลเรือนตายแล้ว ผู้ที่ถูกจับกุมก็ยังมิได้ถูกปล่อย ตามที่นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมพูดไว้ วันนี้ ผมเลยมีคำถาม ว่า 1.กองทัพมีไว้ทำไม กองทัพช่วยน้ำท่วมก็ดีอยู่หรอก แต่นั่นเป็นงานเสริม งานหลักของกองทัพ คือป้องกันประเทศและป้องกันพลเมืองไทยจากคมกระสุนปืนของทหารต่างชาติมิใช่หรือ 2.รัฐบาลมีไว้ทำไม ถ้ารัฐบาลไม่ทำอะไรเลย คนไทยรวบรวมเงินคนละ 10 บาท 20 บาท ไถ่คนไทยกลับมาตุภูมิดีกว่า 3.สุดท้ายใครรู้ช่วยตอบทีว่า ถ้าเป็นอย่างนี้ เรือดำน้ำจะซื้อไปทำอะไร?
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี