“ตาล รัชฎา” นักบิดหญิงทีมชาติร้องกองปราบฯเพิ่มเติมกรณีถูกผู้ใหญ่วงการกีฬาหลอกลงทุนโครงการฯ นับ 10 ล้าน แถมไลฟ์ให้เสียหาย
วันที่ 6 มกราคม 2568 เวลา 11.30 น. ที่หน้าตลาดนัดรถไฟ แดนเนรมิตเก่า พหลโยธิน จตุจักร กทม. ดร.เกรียงศักดิ์ พินทุสรศรี พร้อม สิตางศุ์ บัวทอง นักแสดงดัง พาน้องตาล รัชฎา อายุ 34 ปี ผู้เสียหายที่เป็นนักกีฬาทีมชาติ ซุปเปอร์ไบค์ ถูกนักการเมืองที่ส่งคนมานั่งในตำแหน่งระดับใหญ่ในการกีฬาแห่งประเทศไทย หลอกให้ลงทุนทำโครงการ และให้สำรองเงินของนักกีฬาทีมชาติสูญเงินไป 6.5 ล้านบาท ไปก่อน ได้คืนมาเพียง 3 ล้านบาท โดยให้สำรองจ่ายเงินให้กับผู้ชนะเลิศและสำรองจ่ายค่านำพาเด็กที่เข้าสมัครโครงการพร้อมผู้ติดตามไปดูงานที่สนามแข่งและสำรองจ่ายค่าเบี้ยเลี้ยงผู้สมัครและผู้ติดตามหลายร้อยคน และผู้ที่เข้ารอบ 2 คนสุดท้ายจะได้เข้าร่วมการแข่งขันชิงแชมป์ประเทศไทย สนามระดับโลกฤดูกาล 2024
ส่วนที่เหลืออีก 3.5 ล้านบาท ยังไม่ได้คืนซึ่งเป็นเงินเก็บ พอทวงถามกลับท้าทายให้ไปฟ้องร้องเอาเอง และโดนเรียกเอาสิ่งของต่างๆ เช่นนาฬิกาสุดหรูเรือนละเกือบ 1 แสนบาท รวม 4 เรือน และทรัพย์สินดังต่อไปนี้ หมวกกันน๊อค 2 ใบ ราคากว่า 4 หมื่นบาท, ผลิตภัณฑ์ของBMW, เครื่องประดับ และเครื่องสำอางที่มีราคาแพง เช่น ชาแนล ชวาลอสกี้ และทรัพย์สินอื่นๆ รวมมูลค่าเกือบ 5 แสนบาท และบอกว่าหากไม่ให้สิ่งของตามที่ร้องขอจะกลั่นแกล้งทุกวิถีทาง
จึงพามาพบพนักงานสอบสวน บก.ป.ดำเนินการตรวจสอบเพื่อให้ได้ข้อเท็จจริง เพื่อไม่ให้เป็นเยี่ยงอย่างในการกระทำความผิดและถ้ามีบุคคลอื่นโดนกระทำแบบเดียวกันขอให้แจ้งมาได้
ทนายเกรียงศักดิ์ กล่าวอีกว่า นอกจากนี้ยังมีการไลฟ์สดด่าว่าน้องตาล ให้ได้รับความเสียหาย แม้จะไม่เอ่ยชื่อแต่การพาดพิงที่ทำให้คนอื่นเข้าใจได้ว่าเป็นน้องตาล เป็นการรังแกเด็กแบบนี้ ดังนั้นจะมีการดำเนินคดีหมิ่นประมาทโดยการโฆษณาด้วยและจะฟ้องศาลให้ถึงที่สุด การเรียกรับสิ่งของไม่ว่าจะเป็นนาฬิกาหรู มีการเลือกเรือนสีนั้นสีนี้ อันนี้ถือเป็นความผิดสำเร็จ จะมาอ้างไม่ได้รับไม่ได้ ถ้าคุณเป็นเจ้าหน้าที่รัฐด้วยยิ่งมีความผิดรับสิ่งของมูลค่าเกิน 3 พันบาท ซึ่งจะไปร้อง ป.ป.ช.ให้เอาผิดด้วย
ด้าน น้องตาล รัชฎา กล่าวว่า เงินสำรองจ่าย 3.5 ล้านก็ยังไม่ได้รับคืนมา สิ่งของที่มีการเรียกรับไปไม่ว่านาฬิกาแชลแนล ชวาลคอฟกี้ หมวกกันน็อค BMW ทวงถามก็ยังไม่ได้คืนเช่นกัน
แม่สิตางค์ุ กล่าวว่า การที่ผู้ใหญ่ในวงการกีฬาใช้อำนาจในทางผิด ก.ก.ท.สอนคนให้รู้แพ้รู้ชนะ แต่ผู้ใหญ่ในองค์กรไม่มีน้ำใจนักกีฬาแบบนี้อีก แถมไปไลฟ์ให้ร้ายเด็กอีกแบบนี้ถือเป็นเรื่องทุเรศรับไม่ได้จริงๆ ตนเห็นเด็กคนนี้ถูกผู้ใหญ่รังแกด้วยการใช้อำนาจทำให้ตนไม่วามารถนิ่งเฉยได้จึงต้องลงมาช่วย
เบื้องต้นพนักงานสอบสวนสอบปากคำผู้เสียหายก่อนดำเนินการตามกฎหมายต่อไป
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี