เหตุโป๊ะแตก! เก๋งชนสนั่นดับ 1 คนขับรถตู้ขนบุหรี่เถื่อน 1.6 ล้านมวนเผ่นหนียังไร้เงาติดตามจับกุมตัวผู้ขับขี่ และผู้กระทำความผิด "ผู้การตรัง" เผยคดีคืบหน้าพอสมควรอยู่ระหว่างไล่ตรวจสอบกล้องวงจรปิด ขอเวลาตรวจสอบเส้นทางขนส่ง เตรียมเข้มข้นการตรวจสอบร้านลักลอบขายให้มากขึ้น 

สืบเนื่องจากเมื่อวันที่ 4 ม.ค.68 เวลาประมาณ 01.30 น.เกิดเหตุรถเก๋งแอคคอร์ด พุ่งข้ามเกาะกลางถนน ชนข้ามเลนประสานงาเก๋งซีวิค ดับ 1 เจ็บ 2 ขณะเกิดเหตุรถตู้ขับตามหลังมาติดๆพุ่งชนท้ายเก๋งซีวิค แต่กลับไร้เงาคนขับรถตู้ เจ้าหน้าที่เปิดท้ายรถตู้ กลับโป๊ะแตกเจอบุหรี่เถื่อน จำนวน 85 ลัง 170 คอตตอน 1,650,400 ม้วน บรรทุกมาจนแน่นเต็มคันรถ บนถนนสายตรัง-ปะเหลียน ฝั่งขาเข้าเมืองตรัง พื้นที่ ต.โคกหล่อ อ.เมืองตรัง ตามที่มีการนำเสนอข่าวไปแล้วนั้น ซึ่งจากการคำนวณหากเปรียบเทียบคิดเป็นค่าปรับจะอยู่ที่ประมาณ 19,712,500 บาท และรวมเป็นมูลค่าอยู่ที่หลายล้านบาท โดยบุหรี่ของกลางทั้งหมด ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.เมืองตรัง หลังตรวจสอบเสร็จสิ้น จะนำไปส่งมอบให้กับศุลกากร จ.ตรัง เพื่อทำการเก็บรักษาไว้

ความคืบหน้าวันนี้ (6 ม.ค.68) ที่กองกำกับการตำรวจภูธรจังหวัดตรัง นายทรงกลด สว่างวงศ์ ผู้ว่าราชการจังหวัดตรัง เป็นประธานในการแถลงผลการกวาดล้างอาชญากรรมประจำเดือน โดย พล.ต.ต.ภัทรวิชญ์ คีตโมทนียกุล ผบก.ภ.จว.ตรัง ได้แถลงข่าวและกล่าวถึงความคืบหน้ากรณีประเด็นนี้ว่า ในขณะนี้เราได้มีการเร่งรัดสืบสวนสอบสวน มีการสอบพยานบุคคลต่างๆที่เกี่ยวข้อง ไปแล้วส่วนหนึ่ง ส่วนทางการสืบสวนมีการตรวจสอบกล้องวงจรปิด ขอเรียนว่าเราดำเนินการตั้งแต่ที่เกิดเหตุ ทั้งการประสานงานกับ สรรพสามิต เข้ามาร่วมตรวจสอบของกลาง

อีกส่วนในเรื่องของการเก็บพยานหลักฐาน ได้ให้ทางพิสูจน์หลักฐานจังหวัดตรัง เข้าเก็บวัตถุพยานหลักฐานในที่เกิดเหตุหมดแล้วโดยเฉพาะในรถตู้ที่มีการบรรทุกบุหรี่เถื่อนมา ทั้งลายนิ้วมือแฝง เส้นผม เส้นขน หรือดีเอ็นเอที่จะตรวจ เก็บได้ เพื่อที่จะเป็นพยานหลักฐานยืนยันได้ว่าหลังจากนี้ ถ้าเราตรวจสอบพบตัวของผู้ขับขี่แล้วจะต้องเป็นผู้ขับขี่คนเดียวรายเดียวกันกับในคืนวันเกิดเหตุ ซึ่งได้ดำเนินการไปครบถ้วนสมบูรณ์แล้ว และในการสืบสวนทางตำรวจได้ไล่ตรวจสอบกล้องวงจรปิด ที่มาที่ไปของรถตู้คันนี้ก็พบเห็นเส้นทางพอสมควรแล้ว แต่ขออนุญาตไม่ลงรายละเอียด เพราะเดี๋ยวจะกระทบเรื่องทางคดี และในส่วนของรถเป็นรถที่จดทะเบียนถูกต้องตามกฏหมาย ตรวจสอบเลขทะเบียน ตรวจสอบเลขตัวถัง และเลขเครื่อง เป็นรถถูกต้องตรงตามเลขทะเบียน ซึ่งผู้ครอบครองรถ มีภูมิลำเนาอาศัยอยู่ในจังหวัดกระบี่ และจะต้องตรวจสอบว่าผู้ครอบครองรถเป็นผู้ขับขี่หรือไม่ในคืนวันเกิดเหตุ หรือมีบุคคลใดนำรถไปใช้ แล้วมาเกิดเหตุดังกล่าวขึ้นหรือไม่ ซึ่งการสืบสวนขณะนี้มีความคืบหน้าไปแล้วพอสมควร

"เส้นทางของรถ ขอตรวจสอบไปให้ถึงที่สุดก่อนว่าสุดท้ายแล้วรถคันนี้มาจากที่ใด และจะเดินทางไปที่ใดอย่างไร ก็คงต้องใช้ระยะเวลาในการไล่ตรวจสอบกล้องวงจรปิดโดยอีกระยะหนึ่ง ดีกว่าที่จะมาเปิดเผย เพราะหากเปิดเผยไปตอนนี้จะเกิดความสับสน เดี๋ยวฝ่ายสืบสวนจะมึนงงไปด้วย แต่กล้องที่เราตรวจสอบครอบคลุมอยู่ในพื้นที่จังหวัดตรัง จังหวัดสตูล จังหวัดพัทลุง รวมไปถึงจังหวัดกระบี่" พล.ต.ต.ภัทรวิชญ์ กล่าว

ผบก.ภ.จว.ตรัง กล่าวต่อว่า ขณะที่การลักลอบจำหน่ายบุหรี่เถื่อนหนีภาษี ภายในพื้นที่จังหวัดตรัง จริงๆแล้วเรามีการประสานงานกับสรรพสามิต ซึ่งเป็นหน่วยงานที่รับผิดชอบโดยตรงอยู่แล้ว และเคยมีการเปิดปฏิบัติการ มาก่อนหน้านี้แล้วด้วย หลังจากนี้ก็คงจะต้องเพิ่มความเข้มข้นกันอย่างต่อเนื่อง ซึ่งในเรื่องนี้ทางผู้ว่าราชการจังหวัดตรังก็จะ มีการเชิญประชุมหารือ เพื่อจะกำหนดแนวทาง ในลำดับต่อไปด้วย

อย่างไรก็ตามแหล่งข่าวจากเจ้าหน้าที่รายหนึ่ง ให้ข้อมูลว่า ขบวนการลักลอบขนบุหรี่หนีภาษีในพื้นที่ จ.ตรัง นั้น ขณะนี้มีการขนส่งผ่านทางเรือโดยมาขึ้นฝั่งที่บริเวณท่าเทียบเรือแห่งหนึ่งในพื้นที่ อ.ย่านตาขาว จ.ตรัง โดยจะมีรถตู้ในลักษณะดังกล่าวไปรับขึ้นรถก่อนจะขับขี่บรรทุกมา บ้างส่วนมีการนำมาพักไว้ในพื้นที่ของ จ.ตรัง บางส่วนก็จะนำไปส่งยังปลายทางในพื้นที่จังหวัดข้างเคียง ซึ่งชาวบ้านในพื้นที่ต่างทราบกันดีถึงพฤติการณ์ลักลอบขนบุหรี่หนีภาษีดังกล่าวเป็นอย่างดี และชาวบ้านมักจะเห็นรถตู้ในลักษณะดังกล่าวขับขี่ผ่านเส้นทางมาเป็นระยะเวลานานแล้ว

รวมทั้งมีร้านค้าเปิดขายบุหรี่หนีภาษีกันแทบในทุก 10 อำเภอของ จ.ตรัง โดยบางร้านเปิดเป็นร้านขายของชำคู่กับบุหรี่หนีภาษี บางร้านเปิดมาเพื่อขายเฉพาะบุหรี่ และสุราหนีภาษีโดยเฉพาะ และเปิดขายกันตลอด 24 ชั่วโมง ซึ่งส่วนใหญ่แล้วมีลูกค้าไปซื้อเป็นจำนวนมาก เนื่องจากราคาบุหรี่หนีภาษีอยู่ที่ซองละ 20-30 บาท แตกต่างกับบุหรี่ที่มีการเสียภาษีมีสูง กว่า 70-100 ต่อซอง และในราคาถูกนี้ยังคงทำให้เด็กและเยาวชนต่างเข้าไปซื้อสูบและเข้าถึงได้ง่ายอีกด้วย - 003