ตำรวจทางหลวงจับกุมแก๊ง ลอบขนแรงงานต่างด้าวถนนสายสระบุรี-หล่มสัก บริเวณหน่วยบริการตำรวจทางหลวงพัฒนานิคม โดยจับได้ 3 คันรถ แรงง่านต่างด้าวจำนวนมาก
7 มกราคม 2568 เมื่อวันที่ 6 มกราคม เวลาประมาณ 23.30 น. บริเวณแยกไฟแดงมะนาวหวาน กม.25-26 ถนนสระบุรี-หล่มสัก ทล.21 (ขาเข้า) ต.ดีลัง อ.พัฒนานิคม จ.ลพบุรี
ภายใต้อำนวยการของ พล.ต.ท.จิรภพ ภูริเดช ผบช.ก.,พล.ต.ต.โสภณ สารพัฒน์ รอง ผบช.ก.พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว รองผบช.ก.,พล.ต.ต.คงกฤช เลิศสิทธิกุล ผบก.ทล.เจ้าหน้าที่ตำรวจทางหลวง ส.ทล.1 กก.1 บก.ทล.(อยุธยา) นำโดย พ.ต.ท.ปภินวิทย์ อุดมพร สว.ส.ทล.1 กก.1 บก.ทล.,ร.ต.อ.เชาวลิต สีดำ รอง สว.ส.ทล.1 กก.1 บก.ทล.,ร.ต.อ.ประธาน จตุพันธ์ รอง สว.(ป) ส.ทล.1 กก.1บก.ทล.,ด.ต.วิชัย ตามสมัย ผบ.หมู่ ส.ทล.1กก.1 บก.ทล.เจ้าหน้าที่ตำรวจ กก.1 บก.สส.สตม. นำโดย ร.ต.อ.พฤฒิพงศ์ ทรงภักดีกุล รอง สว.กก.1 บก.สส.สตม. ,ร.ต.ต ชูศักดิ์ ภู่อุ่น รอง สว.(สส) กก.1 บก สส. สตม., ด.ต.นัฐพงศ์ รัตนา,จ.ส.ต.กฤษดา อนันทสุข,จ.ส.ต.เพชรวุฒิ มาทา ผบ.หมู่ กก.1 บก.สส.สตม.ได้ทำการจับกุม 1.SAW ZAW HLAING BWAR อายุ 46 ปี (ผู้ขับขี่) สัญชาติเมียนมา โดยในรถมีแรงงานต่างด้าวทั้งหมด 14 คน พร้อมด้วยของกลาง
สืบเนื่องจาก กก.1 บก.ทล.ได้มีการกวดขันจับกุมแรงงานต่างด้าวผิดกฎหมายและผู้นำพาในเส้นทางพื้นที่ชั้นในอยู่บ่อยครั้ง พ.ต.อ.เอกนิรุจฒิ์ วันสิริภักดิ์ ผกก.1 บก.ทล. และพ.ต.อ. ธวัชชัย นรินรัตน์ ผกก.1 บก.สส.สตม. จึงได้สั่งการให้มีการสืบสวนถึงเส้นทางที่มีการลักลอบขนคนต่างด้าวผิดกฎหมายเข้ามาในพื้นที่ชั้นใน โดยให้ เจ้าหน้าที่ตำรวจทางหลวง ส.ทล.1 กก.1 บก.ทล.(อยุธยา),เจ้าหน้าที่ตำรวจทางหลวง ส.ทล.3 กก.1 บก.ทล.(ลพบุรี) และ เจ้าหน้าที่ตำรวจ กก.1 บก.สส.สตม.บูรณาการร่วมกัน สืบสวนในพื้นที่รับผิดชอบ จนกระทั่งวันนี้ (6 มกราคม 2568) เวลาประมาณ 22.00 น.
ขณะที่เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดจับกุมได้สำรวจเส้นทาง โดยพบรถยนต์กระบะและรถยนต์ตู้จำนวนประมาณ 3 - 4 คัน ขับขี่ผ่านมาด้วยความเร็วสูงและมีน้ำหนักที่รถยนต์มากกว่ารถยนต์ปกติ เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงขับขี่ติดตามไปอย่างกระชั้นชิดพบ รถยนต์นั่งสองตอนแวน ยี่ห้อ ISUZU MU-7 สีเทา ทะเบียนกรุงเทพมหานคร โดยเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ส่งสัญญาณไฟกระพริบสีแดงและใช้สัญญาณเสียงรวมถึงการพูดออกคำสั่งผ่านไมโครโฟนเรียกรถยนต์คันดังกล่าวให้หยุด จนกระทั่งมาถึงบริเวณแยกไฟแดงมะนาวหวาน กม.25-26 ถนนสระบุรี-หล่มสัก ทล.21 (ขาเข้า) ต.ดีลัง อ.พัฒนานิคม จ.ลพบุรี เจ้าหน้าที่ตำรวจขอทำการตรวจสอบพร้อมกับได้แสดงความบริสุทธิ์ใจจนเป็นที่พอใจแล้วเบื้องต้นสอบถาม SAW ZAW HLAING BWAR อายุ 46 ปี สัญชาติเมียนมา แสดงตนเป็นผู้ขับขี่ โดยมีผู้ถูกจับที่ 2 - 15 นั่งโดยสารมากับรถยนต์
เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงเชิญรถยนต์คันดังกล่าวมาตรวจสอบเอกสารอย่างละเอียดอีกครั้งที่ หน่วยบริการตำรวจทางหลวงพัฒนานิคม จ.ลพบุรี พบว่า ผู้ถูกจับที่ 2 - 15 เป็นคนต่างด้าวสัญชาติเมียนมาไม่มีหนังสือเดินทางหรือเอกสารใช้แทนหนังสือเดินทางแต่อย่างใดแสดง โดยผู้ถูกจับนั่งโดยสารมาในรถยนต์คันดังกล่าว จากการสอบถามผู้ถูกจับที่ 1 ให้การยอมรับว่าเมื่อวันที่ 6 มกราคม 2568 เวลาประมาณ 15.00 น.ได้รับการประสานจากชายไทย (ไม่ทราบชื่อ-นามสกุลจริง) ให้ไปรับแรงงานต่างด้าวจำนวน 14 คน ที่บริเวณ อ.หนองบัว จ.นครสวรรค์ เพื่อไปส่งปลายทาง จ.สระบุรี โดยได้ค่าจ้าง 5,000 บาทต่อครั้ง และรับว่าได้ขับขี่รถยนต์คันดังกล่าวบรรทุกแรงงานต่างด้าวหลบหนีเข้าเมืองมาจริง และตนรู้ดีอยู่แล้วว่าแรงงานต่างด้าวทั้ง 14 คน ไม่มีหนังสือเดินทางหรือเอกสารแทนหนังสือเดินทางใดๆและยินยอมที่จะนำพามาส่งที่ปลายทาง
จนกระทั่งมาถูกตำรวจทางหลวงเรียกตรวจสอบ เงินค่าจ้างที่ได้มาจะนำไปเที่ยวและใช้จ่ายต่างๆและสอบถามผู้ถูกจับที่ 2 – 15 ผ่านล่ามแปลภาษาเมียนมาให้การยอมรับว่า ได้ลักลอบเดินทางเข้ามาในประเทศไทยทางช่องทางธรรมชาติและเดินข้ามมา ในพื้นที่ อ.แม่สอด จ.ตาก และจะมีคนพาออกมาขึ้นรถที่นำพา เพื่อจะเข้ามาหางานทำในประเทศไทย โดยเสียค่าใช้จ่าย จำนวน 10,000 - 20,000 บาท เจ้าหน้าที่ชุดจับกุมจึงแจ้งข้อกล่าวหา ผู้ถูกจับที่ 1 “รู้ว่าคนต่างด้าวคนใดเข้ามาในราชอาณาจักรโดยฝ่าฝืนกฎหมาย ให้เข้าพักอาศัย ซ่อนเร้น หรือช่วยด้วยประการใดๆ เพื่อให้คนต่างด้าวนั้นพ้นจากการจับกุม” ผู้ถูกจับที่ 2 - 15 เป็นคนต่างด้าวเดินทางเข้ามาและอยู่ในราชอาณาจักรโดยไม่ได้รับอนุญาต”และควบคุมตัวพร้อมของกลางและนำส่งพนักงานสอบสวน สถานีตำรวจภูธรพัฒนานิคม ภ.จว.ลพบุรี ดำเนินการตามกฎหมายต่อไป
นอกจากนี้ในเวลาต่อมาจับรถคันที่ 2 รถยนต์ตู้นั่งสี่ตอน ยี่ห้อ TOYOTA COMMUTER สีเทา ทะเบียนกรุงเทพมหานคร มีนายสรชัช ชาวไทย
ต.ขะเนจื้อ อ.แม่ระมาด จ.ตาก ขนแรงงานต่างด้าวมาจำนวนผู้ถูกจับที่ 22 คน
พฤติการณ์แห่งการจับ พฤติการณ์กล่าวคือ สืบเนื่องจาก กก.1 บก.ทล.ได้มีการกวดขันจับกุมแรงงานต่างด้าวผิดกฎหมายและผู้นำพาในเส้นทางพื้นที่ชั้นในอยู่บ่อยครั้ง พ.ต.อ.เอกนิรุจฒิ์ วันสิริภักดิ์ ผกก.1 บก.ทล. และ พ.ต.อ. ธวัชชัย นรินรัตน์ ผกก.1 บก.สส.สตม. จึงได้สั่งการให้มีการสืบสวนถึงเส้นทางที่มีการลักลอบขนคนต่างด้าวผิดกฎหมายเข้ามาในพื้นที่ชั้นใน โดยให้ เจ้าหน้าที่ตำรวจทางหลวง ส.ทล.1 กก.1 บก.ทล.(อยุธยา),เจ้าหน้าที่ตำรวจทางหลวง ส.ทล.3 กก.1 บก.ทล.(ลพบุรี) และ เจ้าหน้าที่ตำรวจ กก.1 บก.สส.สตม.บูรณาการร่วมกัน สืบสวนในพื้นที่รับผิดชอบ จนกระทั่งวันนี้(6 มกราคม 2568) เวลาประมาณ 22.00 น. ขณะที่เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดจับกุมได้สำรวจเส้นทาง โดยพบรถยนต์กระบะและรถยนต์ตู้จำนวนประมาณ 3 – 4 คันขับขี่ผ่านมาด้วยความเร็วสูงและมีน้ำหนักที่รถยนต์มากกว่ารถยนต์ปกติ เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงขับขี่ติดตามไปอย่างกระชั้นชิดพบ รถยนต์ตู้นั่งสี่ตอน ยี่ห้อ TOYOTA COMMUTER สีเทา ทะเบียนกรุงเทพมหานคร โดยเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ส่งสัญญาณไฟกระพริบสีแดงและใช้สัญญาณเสียงรวมถึงการพูดออกคำสั่งผ่านไมโครโฟนเรียกรถยนต์คันดังกล่าวให้หยุด จนกระทั่งมาถึง บริเวณแยกไฟแดงมะนาวหวาน กม.25-26 ถนนสระบุรี-หล่มสัก ทล.21 (ขาเข้า) ต.ดีลัง อ.พัฒนานิคม จ.ลพบุรี เจ้าหน้าที่ตำรวจขอทำการตรวจสอบพร้อมกับได้แสดงความบริสุทธิ์ใจจนเป็นที่พอใจแล้ว
เบื้องต้นสอบถาม ชื่อนายสรชัช ต.ขะเนจื้อ อ.แม่ระมาด จ.ตาก (แสดงตนเป็นผู้ขับขี่) โดยมีผู้ถูกจับที่ 2 - 23 นั่งโดยสารมากับรถยนต์ เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงเชิญรถยนต์คันดังกล่าวมาตรวจสอบเอกสารอย่างละเอียดอีกครั้งที่ หน่วยบริการตำรวจทางหลวงพัฒนานิคม จ.ลพบุรี พบว่า ผู้ถูกจับที่ 2 - 23 เป็นคนต่างด้าวสัญชาติเมียนมา ไม่มีหนังสือเดินทางหรือเอกสารใช้แทนหนังสือเดินทางแต่อย่างใดแสดง โดยผู้ถูกจับนั่งโดยสารมาในรถยนต์คันดังกล่าว
จากการสอบถามผู้ถูกจับที่ 1 ให้การยอมรับว่าเมื่อวันที่ 6 มกราคม 2568 เวลาประมาณ 15.00 น.ได้รับการประสานจากชายไทย (ไม่ทราบชื่อ-นามสกุลจริง) ให้ไปรับแรงงานต่างด้าวจำนวน 22 คน ที่บริเวณ อ.หนองบัว จ.นครสวรรค์ เพื่อไปส่งปลายทาง จ.สระบุรี โดยได้ค่าจ้าง 5,000 บาทต่อครั้ง และรับว่าได้ขับขี่รถยนต์คันดังกล่าวบรรทุกแรงงานต่างด้าวหลบหนีเข้าเมืองมาจริง และตนรู้ดีอยู่แล้วว่าแรงงานต่างด้าวทั้ง 22 คน ไม่มีหนังสือเดินทางหรือเอกสารแทนหนังสือเดินทาง
รถยนต์คันที่ 3 รถยนต์ตู้นั่งสี่ตอน ยี่ห้อ TOYOTA COMMUTER สีเทา ทะเบียนกรุงเทพมหานคร มีนายนายสมัคร อายุ 33 ปี ต.ท่าสองยาง อ.ท่าสองยาง จ.ตาก ในรถขนแรงงานต่างด้าวมาจำนวน 20 คน
พฤติการณ์แห่งการจับ พฤติการณ์กล่าวคือ สืบเนื่องจาก กก.1 บก.ทล.ได้มีการกวดขันจับกุมแรงงานต่างด้าวผิดกฎหมายและผู้นำพาในเส้นทางพื้นที่ชั้นในอยู่บ่อยครั้ง พ.ต.อ.เอกนิรุจฒิ์ วันสิริภักดิ์ ผกก.1 บก.ทล. และ พ.ต.อ. ธวัชชัย นรินรัตน์ ผกก.1 บก.สส.สตม. จึงได้สั่งการให้มีการสืบสวนถึงเส้นทางที่มีการลักลอบขนคนต่างด้าวผิดกฎหมายเข้ามาในพื้นที่ชั้นใน โดยให้ เจ้าหน้าที่ตำรวจทางหลวง ส.ทล.1 กก.1 บก.ทล.(อยุธยา),เจ้าหน้าที่ตำรวจทางหลวง ส.ทล.3 กก.1 บก.ทล.(ลพบุรี) และ เจ้าหน้าที่ตำรวจ กก.1 บก.สส.สตม.บูรณาการร่วมกัน สืบสวนในพื้นที่รับผิดชอบ
จนกระทั่งวันนี้(6 มกราคม 2568) เวลาประมาณ 22.00 น.ขณะที่เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดจับกุมได้สำรวจเส้นทาง โดยพบรถยนต์กระบะและรถยนต์ตู้จำนวนประมาณ 3 – 4 คันขับขี่ผ่านมาด้วยความเร็วสูงและมีน้ำหนักที่รถยนต์มากกว่ารถยนต์ปกติ เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงขับขี่ติดตามไปอย่างกระชั้นชิดพบ รถยนต์ตู้นั่งสี่ตอน ยี่ห้อ TOYOTA COMMUTER สีเทา ทะเบียนกรุงเทพมหานคร โดยเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ส่งสัญญาณไฟกระพริบสีแดงและใช้สัญญาณเสียงรวมถึงการพูดออกคำสั่งผ่านไมโครโฟนเรียกรถยนต์คันดังกล่าวให้หยุด จนกระทั่งมาถึง บริเวณแยกไฟแดงมะนาวหวาน กม.25-26 ถนนสระบุรี-หล่มสัก ทล.21 (ขาเข้า) ต.ดีลัง อ.พัฒนานิคม จ.ลพบุรี เจ้าหน้าที่ตำรวจขอทำการตรวจสอบพร้อมกับได้แสดงความบริสุทธิ์ใจจนเป็นที่พอใจแล้ว
เบื้องต้นสอบถาม ชื่อนายสมัคร อายุ 33 ปี ต.ท่าสองยาง อ.ท่าสองยาง จ.ตาก (แสดงตนเป็นผู้ขับขี่) โดยมีผู้ถูกจับที่ 2 - 20 นั่งโดยสารมากับรถยนต์ เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงเชิญรถยนต์คันดังกล่าวมาตรวจสอบเอกสารอย่างละเอียดอีกครั้งที่ หน่วยบริการตำรวจทางหลวงพัฒนานิคม จ.ลพบุรี พบว่า ผู้ถูกจับที่ 2 - 20 เป็นคนต่างด้าวสัญชาติเมียนมาไม่มีหนังสือเดินทางหรือเอกสารใช้แทนหนังสือเดินทางแต่อย่างใดแสดง โดยผู้ถูกจับนั่งโดยสารมาในรถยนต์คันดังกล่าว
จากการสอบถามผู้ถูกจับที่ 1 ให้การยอมรับว่าเมื่อวันที่ 6 มกราคม 2568 เวลาประมาณ 15.00 น. ได้รับการประสานจากชายไทย(ไม่ทราบชื่อ-นามสกุลจริง) ให้ไปรับแรงงานต่างด้าวจำนวน 19 คน ที่บริเวณ อ.หนองบัว จ.นครสวรรค์ เพื่อไปส่งปลายทางกรุงเทพมหานคร โดยได้ค่าจ้าง 5,000 บาทต่อครั้ง และรับว่าได้ขับขี่รถยนต์คันดังกล่าวบรรทุกแรงงานต่างด้าวหลบหนีเข้าเมืองมาจริง และตนรู้ดีอยู่แล้วว่าแรงงานต่างด้าวทั้ง 19 คน ไม่มีหนังสือเดินทางหรือเอกสารแทนหนังสือเดินทางใดๆและยินยอมที่จะนำพามาส่งที่ปลายทาง จนกระทั่งมาถูกตำรวจทางหลวงเรียกตรวจสอบ เงินค่าจ้างที่ได้มาจะนำไปเที่ยวและใช้จ่ายต่างๆและสอบถามผู้ถูกจับที่ 2 – 20 ผ่านล่ามแปลภาษาเมียนมา ให้การยอมรับว่าได้ลักลอบเดินทางเข้ามาในประเทศไทยทางช่องทางธรรมชาติและเดินข้ามมา ในพื้นที่ อ.แม่สอด จ.ตาก และจะมีคนพาออกมาขึ้นรถที่นำพา
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี