"เพื่อไทย" ไม่มีกั๊กจัดทัพครบเซ็ต "อุ๊งอิ๊งค์+ทักษิณ" บุกนครพนมหาเสียงช่วย "อนุชิต หงษาดี" ผู้สมัครนายก อบจ.นครพนม เชื่อกระแสดีไม่มีตก  

พรรคเพื่อไทยยืนยันแล้ว "วันที่ 12 มกราคม 2568" ที่จะถึงนี้ อุ๋งอิ๋งค์-นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี และหัวหน้าพรรคเพื่อไทย จะยกพลบุก จ.นครพนม เพื่อปราศรัยหาเสียงช่วยนายอนุชิต หงษาดี ผู้สมัครนายก อบจ.นครพนม พร้อมนักพูดสายฮาอย่างนายณัฐวุฒิ ไสยเกื้อ นายอนุสรณ์ เอี่ยมสะอาด ฯลฯ โดยมีนางมนพร เจริญศรี รมช.คมนาคม และ สส.นครพนม เขต 2 เจ้าของพื้นที่จัดสถานที่ปราศรัยไว้ 3 เวทีใหญ่ คือ 1.สนามกีฬาเทศบาลตำบลนาแก อ.นาแก 2.หอประชุมมหาวิทยาลัยนครพนม ต.หนองญาติ อ.เมืองนครพนม และ 3.โดมเทศบาล ต.ศรีสงคราม อ.ศรีสงคราม จากนั้นถัดไปอีก 6 วัน วันที่ 18 มกราคม ทัพใหญ่นำโดยนายทักษิณ ชินวัตร ก็จะมาหาเสียงสำทับอีกครั้ง

ทางด้าน น้องขวัญ-นางสาวศุภพานี โพธิ์สุ ผู้สมัครนายก อบจ.นครพนม เบอร์ 2 หัวหน้าทีมนครพนมร่วมใจ อดีตนายก อบจ.สมัยที่ผ่านมา พร้อมผู้สมัคร ส.อบจ.นครพนม ที่ได้หมายเลข 2 เหมือนกับเบอร์หัวหน้าทีมฯ ทั้ง 12 อำเภอ รวม 30 เขตเลือกตั้ง ใช้สถานที่ศาลาวัด หรือศาลากลางบ้าน หาเสียงแบบเข้าถึงตัวประช่าชนอย่างใกล้ชิดถือไม่ใช่เรื่องแปลกเพราะน้องขวัญ สมัยเป็นนายก อบจ.นครพนม ก็ลงพื้นที่ลักษณะนี้เป็นประจำ จนมีความคุ้นเคยกับพี่น้องประชาชนทั้ง 99 ตำบล 1,123 หมู่บ้าน

ที่สำคัญน้องขวัญดีกรีปริญญาเอก ปรัชญาดุษฎีบัณฑิต สาขาวิชาการจัดการภาครัฐและเอกชน แม้จะมีคำนำหน้าเป็น ดร. แต่ชาวบ้านไม่คุ้นเคย จะนิยมเรียกชื่อน้องขวัญมากกว่า ปัจจุบันอายุย่าง 40 ปี มีประสบการณ์ก่อนเป็นนายก อบจ.นครพนม ถือไม่ธรรมดา โดยช่วงอายุ 23 ปีได้เป็นเลขานุการ รมว.มหาดไทย เมื่อปี 2551 จากนั้นก็โลดแล่นอยู่สนามการเมืองมาโดยตลอด ทั้งผู้เชี่ยวชาญประจำตัว สส. ที่ปรึกษา รมช.มหาดไทย ฯลฯ กระทั่งออกจากหลังม่านมาอยู่ฉากหน้า ลงสมัครนายก อบจ.นครพนม ในปี 2563 แข่งขันกับ ดร.สมชอบ นิติพจน์ แชมป์ 2 สมัยที่ใส่สีเสื้อพรรคเพื่อไทย ซึ่งน้องขวัญสามารถเอาชนะแชมป์เก่าลงได้ แต่ด้วยความเป็นนักการเมืองรุ่นใหม่ น้องขวัญมีสปิริต (spirit) ทางการเมืองสูง หลังจากนั้นก็ได้เชื้อเชิญ ดร.สมชอบเข้ามาร่วมงาน

การลงสนามเลือกตั้ง อบจ.นครพนมของน้องขวัญ นางสาวศุภพานี โพธิ์สุ ไม่เคยใช้ชื่อพรรคใดมาตั้งแต่ต้น ครั้งนี้ก็ยังเหมือนเดิมคงใช้ชื่อทีมกลุ่มนครพนมร่วมใจ เพิ่มเติมคือผลงานที่ผ่านมาเป็นที่ประจักษ์ชัด เดินเท้าหาเสียงแบบปัญญาชน ใช้เวทีเล็กๆในหมู่บ้านเป็นสถานที่หาเสียง โดยไม่มีการใส่ร้ายหรือกล่าวหาใคร

ส่วนนายแพทย์ประสงค์ บูรณ์พงศ์ ผู้สมัครนายก อบจ.นครพนม หมายเลข 3 ตั้งแต่เปิดตัวลงนายกฯ ไม่เคยบอกจะลงในชื่อพรรคก้าวไกลในขณะนั้น หรือพรรคประชาชนในปัจจุบัน กลับถูกดิสเครดิตกล่าวหาว่าหมอสงค์แอบอ้างชื่อพรรค

สรุปภาพรวมต้องยอมรับว่า นายอนุชิต หงษาดี แม้จะเปิดตัวได้เพียงไม่นาน อาศัยมีแบ็คดีหนุนคือพรรคเพื่อไทย ลำพังแค่ชื่อพรรคก็กินขาด และเชื่อมั่นในฐานเสียงว่าเอาใครมาลงก็ชนะ ทำให้นายอนุชิตมีราศีขึ้นมาทันที แม้ในประวัติไม่ได้ระบุผลงานการทำงาน สมัยเป็น ส.อบจ.นครพนม หรือ นายก อบต.โพนสวรรค์ ก็มั่นใจว่าประชาชนต้องกาคะแนนให้แน่นอน รวมทั้งการยกทัพหน้า ทัพกลาง ทัพใหญ่ รวมถึงทัพย่อยลงพื้นที่ จ.นครพนม เท่ากับว่านายอนุชิตเป็นลูกรักของพรรคเพื่อไทย ทั้งมีทีมงานอันแข็งแกร่ง ทำหน้าที่ตอบคอมเมนต์ในเฟซบุ๊กคนอื่น โดยเฉพาะคนที่ชื่นชมหรือเผยแพร่ผลงานน้องขวัญ

เลือกตั้งครั้งนี้ผู้หญิงตัวเล็กๆน้องขวัญ นางสาวศุภพานี โพธิ์สุ ผู้สมัครนายก อบจ.นครพนม หมายเลข 2 ต้องพบศึกหนักทุกด้าน เวทีก็ไม่ใหญ่โตอลังการ ใช้สถานที่ตามหมู่บ้าน ชุมชนเป็นจุดหาเสียง สิ่งที่พูดกับพี่น้องประชาชน คือขอทำต่อในนโยบายต่างๆที่ทำไว้ และที่สำคัญต้องบันทึกไว้เป็นประวัติศาสตร์การเมืองว่าสนาม อบจ.นครพนม  ถือเป็นจังหวัดแรกที่พรรคเพื่อไทยจัดทัพมาแบบครบเซ็ต

สุดท้ายประชาชนคือผู้ตัดสิน ว่า ใครคือผู้ชนะ ทั้งหลายทั้งปวงทุกคนต่างมีตัวเลขอยู่ในใจเรียบร้อยแล้ว - 003