ผู้ตรวจการแผ่นดินถกปัญหาการประกอบกิจการผลิตอิฐในนครศรีธรรมราช
เมื่อวันที่ 6 มกราคม 2568 ที่ ห้องประชุมศรีวิชัย ศาลากลางจังหวัดนครศรีธรรมราช นายสมศักดิ์ สุวรรณสุจริต ประธานผู้ตรวจการแผ่นดิน พร้อมด้วยนายสมศักดิ์ แสนหิรัณย์ ที่ปรึกษาประธานผู้ตรวจการแผ่นดิน และคณะเจ้าหน้าที่สำนักสอบสวน 2 ลงพื้นที่ประชุมหารือเพื่อแก้ไขปัญหาเรื่องร้องเรียนกรณีผลกระทบจากการประกอบกิจการผลิตอิฐดินเผาในพื้นที่อำเภอชะอวด จังหวัดนครศรีธรรมราช โดยมีนายชวกิจจ์ สุวรรณคีรี รองผู้ว่าราชการจังหวัดนครศรีธรรมราช นายณัฐกิตติ์ หนูรอด สมาชิกวุฒิสภา จังหวัดนครศรีธรรมราช และผู้แทนจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง อาทิ อำเภอชะอวด สำนักงานอุตสาหกรรมจังหวัดนครศรีธรรมราช สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดนครศรีธรรมราช สำนักงานทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมจังหวัดนครศรีธรรมราช สำนักงานโยธาธิการและผังเมืองจังหวัดนครศรีธรรมราช สำนักงานสิ่งแวดล้อมและควบคุมมลพิษที่ 14 และคณะผู้ร้องเรียน เข้าร่วมประชุมด้วย
นายสมศักดิ์ สุวรรณสุจริต ประธานผู้ตรวจการแผ่นดิน เปิดเผยว่า การลงพื้นที่ประชุมครั้งนี้สืบเนื่องจากมีประชาชนร้องเรียนว่าได้รับความเดือดร้อนด้านมลภาวะทางอากาศที่เกิดจากโรงงานประกอบกิจการผลิตอิฐดินเผาในพื้นที่อำเภอชะอวด จนกระทั่งมีคำสั่งระงับการประกอบกิจการและทำให้ผู้ประกอบกิจการดังกล่าวรู้สึกไม่ได้รับความเป็นธรรม ทั้งนี้ ด้วยการประกอบกิจการผลิตอิฐดินเผาเป็นตัวขับเคลื่อนเศรษฐกิจสำคัญของอำเภอชะอวด อีกทั้งยังนับเป็นภูมิปัญญาท้องถิ่นที่มีมาอย่างยาวนาน ซึ่งองค์ประกอบในการประกอบกิจการโรงงานเหล่านี้อาจไม่ได้รับการปรับปรุงให้เหมาะสมสอดคล้องไปตามกฎหมายที่พัฒนาเปลี่ยนแปลงไปตามยุคสมัยและมาตรฐานสากล ดังนั้น ผู้ตรวจการแผ่นดินจึงมุ่งเน้นสร้างความเข้าใจที่ถูกต้องระหว่างหน่วยงานภาครัฐและผู้ประกอบการเพื่อให้บูรณการร่วมกันแก้ไขให้เป็นไปตามที่กฎหมายกำหนด เนื่องจากเกี่ยวข้องกับหลายหน่วยงานและกฎหมายหลายฉบับประกอบกัน อีกทั้งได้ให้จังหวัดนครศรีธรรมราชกำชับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเร่งดำเนินการให้คำแนะนำเพื่อแก้ไขปรับปรุงโรงงานให้เป็นตามกฎหมายที่เกี่ยวข้อง ทั้งในมิติของการประกอบกิจการโรงงานอุตสาหกรรม การควบคุมอาคาร การสาธารณสุขและสิ่งแวดล้อม เพื่อป้องกันมิให้เกิดผลกระทบกับชุมชนโดยรอบ สามารถประกอบกิจการและอยู่ร่วมกับชุมชนได้อย่างยั่งยืน
นายสมศักดิ์ กล่าวต่อว่า สำหรับการประชุมครั้งนี้ได้พิจารณาแนวทางการแก้ไขปัญหา 2 ประเด็น คือ 1) กรณีสำนักงานอุตสาหกรรมจังหวัดนครศรีธรรมราชลงพื้นที่ตรวจสอบข้อเท็จจริงร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องและมีคำสั่งให้ผู้ประกอบการระงับการประกอบกิจการผลิตอิฐดินเผาในพื้นที่อำเภอชะอวด โดยไม่ได้ให้คำแนะนำหรือแจ้งให้ดำเนินการแก้ไขหรือปรับปรุงก่อนมีคำสั่งดังกล่าว เป็นเหตุให้ผู้ร้องเรียนและผู้ประกอบการรายอื่นได้รับความเดือดร้อนนั้น จังหวัดนครศรีธรรมราชรายงานว่าได้ร่วมกับสำนักงานอุตสาหกรรมจังหวัดนครศรีธรรมราชและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในพื้นที่บูรณาการการลงพื้นที่ตรวจสอบกรณีมีกลุ่มราษฎรร้องเรียนไปยังกรมโรงงานอุตสาหกรรมว่าได้รับความเดือดร้อนจากการประกอบกิจการดังกล่าวในพื้นที่อำเภอชะอวด
ผลการตรวจสอบปรากฏว่า มีโรงงานผลิตอิฐดินเผาจำนวน 33 โรงงาน ประกอบกิจการโดยไม่ได้รับอนุญาตและก่อให้เกิดมลภาวะในพื้นที่ และขณะตรวจสอบได้พบการกระทำความผิดตามพระราชบัญญัติโรงงาน พ.ศ. 2535 และกฎหมายอื่นที่เกี่ยวข้อง สำนักงานอุตสาหกรรมจังหวัดนครศรีธรรมราชจึงได้ออกคำสั่งให้ผู้ประกอบการทั้ง 33 โรงงานระงับการประกอบกิจการ หลังจากนั้น ได้ร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องลงพื้นที่ให้คำแนะนำเกี่ยวกับการแก้ไขปรับปรุงโรงงานแก่ผู้ประกอบกิจการแล้ว ซึ่งปัจจุบัน โรงงานบางแห่งได้แก้ไขปรับปรุงและยื่นขอรับใบอนุญาตแล้ว และอีกส่วนหนึ่งอยู่ระหว่างดำเนินการแก้ไขปรับปรุงตามคำแนะนำของหน่วยงานที่เกี่ยวข้องและจะได้ยื่นขอรับใบอนุญาตตามกฎหมายที่เกี่ยวข้องต่อไป
สำหรับประเด็นที่ 2) กรณีการพิจารณาค่าปรับกรณีการกระทำความผิดตามพระราชบัญญัติโรงงาน พ.ศ. 2535 นั้น สำนักงานอุตสาหกรรมจังหวัดนครศรีธรรมราชได้ส่งเรื่องให้กองกฎหมาย สำนักงานปลัดกระทรวงอุตสาหกรรม พิจารณาดำเนินการตามกฎหมายแล้ว ซึ่งผู้แทนกองกฎหมาย สำนักงานปลัดกระทรวงอุตสาหกรรม ได้อธิบายหลักเกณฑ์ในการพิจารณาเปรียบเทียบคดีตามพระราชบัญญัติโรงงาน พ.ศ. 2535 พร้อมทั้งแจ้งว่ากองกฎหมายได้สรุปเรื่องการกระทำความผิดของโรงงานทั้ง 33 โรงงาน รวมกันเป็นแบบกลุ่ม และได้สรุปรายละเอียดและพฤติการณ์แห่งการกระทำเพื่อประกอบการพิจารณาลดหย่อนค่าปรับให้แก่ผู้ประกอบการดังกล่าวตามระเบียบกระทรวงอุตสาหกรรม ว่าด้วยการเปรียบเทียบคดี พ.ศ. 2536 แล้ว โดยจะได้เสนอคณะกรรมการเปรียบเทียบคดีเพื่อพิจารณาและแจ้งผลให้ผู้ประกอบการทราบต่อไป
ทั้งนี้ ผลการประชุมและแนวทางในการแก้ไขปัญหาเป็นที่พึงพอใจของทุกฝ่าย ด้านนายณัฐกิตติ์ หนูรอด สมาชิกวุฒิสภา จังหวัดนครศรีธรรมราช ได้ขอบคุณประธานผู้ตรวจการแผ่นดินและผู้ที่เกี่ยวข้องทุกฝ่ายในการร่วมกันแก้ไขปัญหาความเดือดร้อนของผู้ร้องเรียนมา ณ โอกาสนี้
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี