ขยายผลทะลายขบวนการขนยาข้ามชาติรวบผู้ต้องหา ปืน ยึดยาบ้าได้อีกล็อตใหญ่กว่า3.5แสนเม็ด
วันที่ 8 มกราคม 2567 เวลา 13.30 น. ที่ จ.ชัยภูมิ เปิดปฏิบัติการพิทักษ์เมืองพญาแล เร่งขยายผลติดตามจับกุมขบวนการค้ายาบ้าข้ามชาติลักลอบขนยาบ้าเข้ามาในพื้นที่ต่อเนื่อง โดยวันนี้ นายอนันต์ นาคนิยม ผู้ว่าราชการจังหวัดชัยภูมิ พร้อมด้วย พล.ต.ต.ระพีพงษ์ สุขไพบูลย์ รองผู้บัญชาการตํารวจภูธรภาค 3 รักษาราชการแทนผู้บังคับการตํารวจภูธรจังหวัดชัยภูมิ พ.ต.อ.พิชิต มีแสง รองผู้บังคับการตํารวจภูธรจังหวัดชัยภูมิ พ.ต.อ.วัฒนชัย จันทาทุม รองผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดชัยภูมิ พ.ต.อ.วัฒนชัย มณฑีรรัตน์ ผู้กำการสืบสวนตำรวจภูธรจังหวัดชัยภูมิ และ พ.ต.อ.นิรันดร์ คิดบรรจง ผู้กำกับการสถานีตำรวจภูธรแก้งคร้อ
เปิดแถลงผลการขยายผลติดตามจับกุมยาบ้ารายใหญ่ในพื้นที่ได้เพิ่มเติม หลังเมื่อวันที่ 5 ม.ค.68ที่ผ่านมา ทางชุดเจ้าหน้าที่ตำรวจกองกำกับการสืบสวนตำรวจภูธรจังหวัดชัยภูมิ และชุดสืบสวนสถานีตำรวจภูธรแก้งคร้อ ได้จัดชุดปฏิบัติการสกัดจับตัวผู้ลักลอบขนยาบ้าผ่านเข้ามาในพื้นที่ ที่มีการขับขี่รถยนต์เก๋งหลบหนีเจ้าหน้าที่ไปไกลกว่า 10 กิโลเมตร ผ่านเข้ามาในพื้นที่ริมถนนสาธารณะทางเข้าบ้านโนนคูณ ต.หนองไผ่ อ.แก้งคร้อ จ.ชัยภูมิ ก่อนที่ทางเจ้าหน้าที่จะปฏิบัติการใช้ปืนยิงล้อรถเพื่อสกัดจับกุมตัวผู้ต้องหา 2 คน เป็นชาย 2 คน อายุ 32 ปี และ 30 ปี ซึ่งเป็นชาว จ.ศรีสะเกษ ไว้ได้ พร้อมยึดของกลางเป็นยาบ้าเบื้องต้นได้กว่า 200,000 เม็ด พร้อมอาวุธปืนสั้น ขนาด .38 และเครื่องกระสุน จับกุมตัวได้คือ นายจิรภัทร อายุ 32 ปี ราษฎรชาว อ.สำโรง จ.อุบลราชธานี (ผู้ต้องหาที่ 1) และ นายอานุภาพ อายุ 30 ปี
ก่อนควบคุมตัวดำเนินคดีในข้อหา “ร่วมกันจำหน่ายยาเสพติดให้โทษประเภท1(ยาบ้า) โดยมีไว้เพื่อจำหน่ายโดยผิดกฎหมาย อันเป็นการกระทำเพื่อการค้า ก่อให้เกิดการแพร่กระจายในกลุ่มประชาชน และแจ้งผู้ต้องหาที่ 1 ที่มีอาวุธปืนและเครื่องกระสุนปืนไว้ในความครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาตจากนายทะเบียน และพกพาอาวุธปืนไปในเมือง หมู่บ้านหรือทางสาธารณะโดยไม่มีเหตุอันควร” หลังสืบทราบว่าผู้ต้องหาลักลอบขนยาบ้าครั้งนี้นำผ่านเข้ามาจากประเทศเพื่อนบ้านผ่านเข้ามาทาง จ.อุบลราชธานี ซึ่งได้รับจ้างให้ขนยาบ้า เพื่อขนมาส่งในพื้นที่ จ.ชัยภูมิ และภาคกลางที่ กทม.อีกด้วย
ทางชุดสืบสวนตำรวจภูธรจังหวัดชัยภูมิ จึงได้มีการขยายผลติดตามกลุ่มข่ายค้ายาบ้าในกลุ่มนี้เพิ่มเติมมาต่อเนื่องตั้งแต่วันที่ 5 – 8 ม.ค.68 วันนี้ ที่สามารถติดตามจับกุมกลุ่มเครือข่ายในพื้นที่ จ.ชัยภูมิ ได้ที่ริมถนนชัยภูมิ-ภูเขียว บริเวณหน้าธนาคารกสิกรไทย สาขาแก้งคร้อ ต.หนองไผ่ อ.แก้งคร้อ จ.ชัยภูมิ และขยายผลมาต่อเนื่อง ที่จุดริมถนนสาธารณะ ห่างจากทางเข้าหมู่บ้านหนองหว้า ต.ผักปัง อ.ภูเขียว จ.ชัยภูมิ จนสามารถยึดยาบ้าได้เพิ่มเติมอีกกว่า 150,000 เม็ด
ที่เป็นเครือข่ายผู้ค้ายาบ้าข้ามชาติรายใหญ่ในพื้นที่ครั้งนี้ มาจากผู้ต้องหา 2 รายแรก พร้อมของกลาง ประกอบด้วย ยาเสพติดให้โทษประเภท 1 เมทแอมเฟตามีน (ยาบ้า) รวม 350,000 เม็ด , รถยนต์ยี่ห้อ HONDA รุ่น CITY สีเทา 1 คัน , อาวุธปืนลูกโม่ ไทยประดิษฐ์ ขนาด .38 จำนวน 1 กระบอก , กระสุนปืน ขนาด .38 จำนวน 6 นัด และ โทรศัพท์มือถืออีกรวม 6 เครื่อง
ซึ่งมีพฤติการณ์ในการขยายผลจากจับกุม เมื่อวันที่ 5 มกราคม 2568 เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดจับกุมได้รับแจ้งจากสายลับว่า ชาวลาวเจ้าของยาบ้า ได้ติดต่อให้กลุ่มผู้ต้องหาทั้งหมดไปรับยาบ้า ที่ริมถนนสาธารณะทางเข้าบ้านโนนคูณ ต.หนองไผ่ อ.แก้งคร้อ จ.ชัยภูมิ ตำรวจชุดจับกุม จึงเดินทางไปยังจุดที่รับแจ้งพร้อมสายลับ พบชาย 1 คน กำลังขนสิ่งของคล้ายก้อนวัตถุสีดำ 2 ก้อนใหญ่ วางไว้ข้างโพรงหญ้าริมถนนภายในซอยดังกล่าว และได้ขับรถยนต์ยี่ห้อ HONDA รุ่น CITY สีเทา ออกจากจุดไป ตำรวจชุดจับกุมจึงได้ติดตามรถคันดังกล่าวไป และตำรวจชุดจับกุมอีกชุด ได้เข้าตรวจสอบวัตถุต้องสงสัย ปรากฏว่าเป็น ยาบ้า จึงติดตามไปพบรถยนต์คันดังกล่าว ที่บริเวณหน้าธนาคารกสิกรไทย สาขาแก้งคร้อ ต.หนองไผ่ อ.แก้งคร้อ จึงแสดงตัวเข้าจับกุม แต่ผู้ต้องหาพยายามขับรถยนต์คันดังกล่าวหลบหนี ตำรวจชุดจับกุมจึงได้สกัดจับและสามารถควบคุมตัวผู้ต้องหาได้ 2 คนแรก ที่รับว่าอาวุธปืน และเครื่องกระสุนปืน เป็นของตน และยาบ้าส่วนที่อยู่ริมถนนข้างโพรงหญ้าดังกล่าวเป็นของตนกับเพื่อนผู้ต้องหาคนที่ 2 โดยได้รับการว่าจ้างให้ไปรับยาบ้าที่ อ.เขมราฐ จ.อุบลราชธานี จำนวน 4 ก้อนใหญ่ ไม่ทราบว่าจำนวนกี่เม็ด
โดยจะรับสัญญาณเพื่อนำยาบ้าที่ฉีกออกจากถุงปุ๋ยที่ห่อหุ้มออก แล้วนำถุงปุ๋ยไปทิ้งไว้ที่ริมถนนตามทางจุดต่างๆ ซึ่งในกระสอบจะมีสัญลักษณ์ติดอยู่ พร้อมหมายเลขโทรศัพท์ของผู้ที่ต้องนำยาบ้าไปส่งให้ โดยผู้ต้องหาทั้ง 2 คน ได้เดินทางมาส่งยาบ้าตามโพยกระดาษที่ตนได้มา ซึ่งจุดที่ 1 ไปส่งในพื้นที่ จ.มหาสารคาม 1 ก้อน จากนั้นเดินทางไปจุดที่ 2 คือ ริมถนนทางเข้าหมู่บ้านโนนคูณ ต.หนองไผ่ อ.แก้งคร้อ และยอมรับว่าเคยทำมาแล้ว 2 ครั้ง โดยรับค้าจ้างเป็นเงินสด 19,000 บาท และครั้งนี้เป็นครั้งที่ 2 โดยยังไม่ได้รับค่าจ้าง แต่จะได้รับเมื่อส่งยาบ้าสำเร็จ
ทั้งนี้ จากการสอบถามผู้ต้องหาทั้งสองแจ้งว่า ได้วางยาบ้าอีกส่วนหนึ่ง ไว้ที่ริมถนนทางเข้าหมู่บ้านโนนคูณ ห่างจากจุดเดิมที่ตนวางไว้ก่อนหน้านี้ประมาณ 200 เมตร เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงเข้าตรวจสอบพื้นที่ดังกล่าว พบผู้ต้องสงสัยกำลังยกถุงกระสอบสีเขียวขึ้นรถจักรยายนต์ และขับหลบหนีไปได้ แต่เจ้าหน้าที่ตำรวจสามารถจดจำใบหน้าผู้ต้องสงสัยได้ เนื่องจากเป็นบุคคลในเป้าหมายที่มีพฤติการณ์ยุ่งเกี่ยวกับยาเสพติด และเคยต้องคดียาเสพติดมาแล้ว
หลังจากเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ตะเวนติดตามหาผู้ต้องสงสัยเข้าไปในพื้นที่ อ.ภูเขียว จ.ชัยภูมิ จึงพบผู้ต้องสงสัยที่ขับรถจักรยานยนต์พร้อมกับกระสอบถุงปุ๋ยสีเขียวหลบหนีมา จึงได้แสดงตัวเข้าจับกุม แต่ผู้ต้องสงสัยแสดงอาการตกใจขับรถหลบหนีไปได้ และได้โยนถุงปุ๋ยสีเขียวนั้นทิ้งที่ริมถนนสาธารณะทางเข้าหมู่บ้านหนองหว้า ต.ผักปัง อ.ภูเขียว จ.ชัยภูมิ จากการตรวจสอบถุงปุ๋ยสีเขียวพบ ยาบ้า 50,000 เม็ด จึงได้ทำการตรวจยึด โดยทราบว่ามีผู้ต้องหาอีกคนที่ 3 คือ เป็นชาย อายุ 21 ปี ชาวอำเภอภูเขียว จังหวัดชัยภูมิ (ขอสงวนชื่อ นายทัศน์พล (พล) ขวัญกล้า อายุ 21 ปี ราษฎรหมู่ที่ 11 ต.หนองตูม อ.ภูเขียว จ.ชัยภูมิ) เป็นเจ้าของยาบ้าดังกล่าว ชุดจับกุมจึงได้นำของกลางส่งพนักงานสอบสวน สภ.ภูเขียว เพื่อดำเนินการตามกฎหมาย และดำเนินคดีกับผู้ต้องหาในข้อหา จำหน่ายยาเสพติดให้โทษประเภท 1 (ยาบ้า) ซึ่งจะได้ออกหมายจับและดำเนินการสืบสวนขยายผลผู้เกี่ยวเครือข่ายยาบ้ากลุ่มต่อไป
ก่อนที่วานนี้วันที่ 7 มกราคม 2568 ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.แก้งคร้อ ได้ขยายผลและตรวจสอบริมถนนสาธารณะทางเข้าบ้านโนนคูณ ต.หนองไผ่ อ.แก้งคร้อ อีกครั้ง สามารถตรวจยึดยาบ้าเพิ่มเติมอีก 100,000 เม็ด รวมยึดยาบ้าได้ 350,000 เม็ด และยึดทรัพย์ตามประมวลกฎหมายเสพติด เป็นรถยนต์ 1 คัน มูลค่า 500,000 บาท ซึ่งเจ้าหน้าที่ตำรวจได้นำตัวผู้ต้องหาทั้ง 2 ราย พร้อมของกลางส่งพนักงานสอบสวน สภ.แก้งคร้อ เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมาย และจะได้สืบสวนขยายผลถึงเครือข่ายรายที่เหลืออีกทั้งหมดเพื่อดำเนินคดีตามกฏมายต่อไป
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี