เตือนหนาวอีกชุด
เย็นยาวถึง 13 ม.ค.
อุดรฯยายหนาวดับ
กทม.อ่วมฝุ่นพิษพุ่ง
อุตุฯเตือนอากาศหนาวเย็นอีกถึง 13 มกราคมเหนือ-อีสาน ลดฮวบ 5-7 องศา กทม.และปริมณฑล ลดอีก 2-5 องศาฯอุดรฯสลด! ยายวัย 74 ปี หนาวตายนอนผิงไฟในบ้าน ขณะปัญหาฝุ่นพิษพุ่ง กทม.-ปริมณฑล เหนือตอนล่าง-อีสาน โดย กทม.ฝุ่นทุกพื้นที่ หนักสุด‘เขตหนองแขม’สูงสุด 81.1ไมครอน มลภาวะอากาศกทม.พุ่งที่ 8ของโลก
เมื่อวันที่ 8 มกราคม น.ส.สุกันยาณี ยะวิญชาญ อธิบดีกรมอุตุนิยมวิทยา ออกประกาศ เรื่อง “อากาศหนาวเย็นบริเวณประเทศไทย และคลื่นลมแรงบริเวณอ่าวไทย (มีผลกระทบตั้งแต่วันที่ 10 - 13 มกราคม 2568) ฉบับที่ 1” มีเนื้อหาว่าช่วงวันที่ 10-13 มกราคม 2568 บริเวณความกดอากาศสูงหรือมวลอากาศเย็นกำลังแรงอีกระลอกจากประเทศจีนจะแผ่เสริมลงมาปกคลุมประเทศไทยและทะเลจีนใต้ ลักษณะเช่นนี้ทำให้บริเวณดังกล่าวจะมีอุณหภูมิลดลงกับมีลมแรง โดยภาคเหนือและภาคตะวันออกเฉียงเหนือจะมีอุณหภูมิลดลง 5-7 องศาเซลเซียส ส่วนภาคกลาง รวมทั้ง กทม.และปริมณฑล ภาคตะวันออก และภาคใต้ตอนบน จะมีอุณหภูมิลดลง 2-5 องศาฯ ขอให้ประชาชนบริเวณดังกล่าวดูแลรักษาสุขภาพเนื่องจากสภาพอากาศที่หนาวเย็นลง รวมถึงให้ระวังอันตรายจากอัคคีภัยที่อาจจะเกิดขึ้นเนื่องจากสภาพอากาศแห้งและลมแรง
สำหรับมรสุมตะวันออกเฉียงเหนือที่พัดปกคลุมอ่าวไทยและภาคใต้ จะมีกำลังแรงขึ้น ทำให้ภาคใต้มีฝนเพิ่มขึ้น และมีฝนตกหนักบางแห่งบริเวณตอนล่างของภาค ส่วนคลื่นลมบริเวณอ่าวไทยและทะเลอันดามันจะมีกำลังแรง โดยอ่าวไทยมีคลื่นสูง 2-4 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงกว่า 4 เมตร ส่วนทะเลอันดามันทะเลมีคลื่นสูง 1-2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองและห่างฝั่งคลื่นสูงกว่า 2 เมตร ขอให้ประชาชนบริเวณภาคใต้ฝั่งตะวันออก ระวังอันตรายจากคลื่นที่ซัดเข้าหาฝั่ง ส่วนชาวเรือบริเวณอ่าวไทยและทะเลอันดามันควรเดินเรือด้วยความระมัดระวังและหลีกเลี่ยงการเดินเรือในบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนอง สำหรับเรือเล็กบริเวณอ่าวไทยควรงดออกจากฝั่งช่วงวันที่ 10-13 มกราคม 2568
ที่ จ.อุดรธานี วันเดียวกัน ร.ต.อ.ณัฐวัฒน์ ลัดดาวัลย์ รอง สว.(สอบสวน) สภ.เมืองอุดรธานี รับแจ้งเหตุมีผู้เสียชีวิตจากสภาพอากาศหนาวเย็น ภายในบ้านพัก พื้นที่บ้านโคกสีทน หมู่ 2 ต.บ้านจั่น อ.เมือง จ.อุดรธานี จึงเข้าตรวจสอบพร้อมด้วยแพทย์ และกู้ภัย ในที่เกิดเหตุเป็นบ้านไม่มีเลขที่ ซึ่งมุงแต่หลังคา อยู่ติดกับศูนย์ซ่อมเครื่องจักรกล อบจ.อุดรธานี โดยพบศพนางเต็มหลอด อายุ 74 ปี นอนเสียชีวิตบนเสื่อ มีผ้าห่มคลุมร่าง ข้างๆ มีเตาไฟสำหรับผิงคลายหนาว สภาพเหลือแต่ขี้เถ้า
อย่างไรก็ตาม ทางแพทย์ได้ชันสูตรศพ เบื้องต้นคาดว่าเสียชีวิตเนื่องจากโรคประจำตัว คืออาการความดันโลหิตสูง เนื่องจากไม่ได้รับประทานยา ประกอบกับช่วงนี้อากาศหนาว ทำให้ช็อค จนเสียชีวิต ซึ่งญาติไม่ติดใจสาเหตุการเสียชีวิต จึงเตรียมนำร่างไปบำเพ็ญกุศลต่อไป
นายจรัส อายุ 44 ปี ลูกชายผู้เสียชีวิต เปิดเผยว่า มารดาอายุมากแล้ว มีอาชีพเก็บของเก่าขาย หลายวันมานี้อากาศหนาวเย็นมาก ทั้งตอนเช้าและเย็น มารดาจึงไปหาไม้หาทำฟืนก่อไฟผิงเพื่อคลายหนาว และนอนข้างเตาฟืนแบบนี้มาหลายวัน แต่เมื่อเช้านี้ขณะที่ตนไปปลุก ก็พบว่ามารดาเสียชีวิตแล้ว โดยนอนตัวแข็งทื่อ จึงรีบแจ้งตำรวจมาตรวจสอบดังกล่าว
วันเดียวกัน ศูนย์สื่อสารการแก้ไขปัญหามลพิษทางอากาศ (ศกพ.) กรมควบคุมมลพิษ กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม รายงานการติดตามสถานการณ์ฝุ่นละออง PM2.5 เฉลี่ย 24 ชั่วโมง พื้นที่กทม.และปริมณฑล ตรวจวัดได้ระหว่าง 38.5-95.7 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร (มคก./ลบ.ม.) พื้นที่ภาคเหนือ 12.4–78.7 มคก./ลบ.ม.และพื้นที่ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ 36.0–70.3 มคก./ลบ.ม.ซึ่งพื้นที่ส่วนใหญ่ทั้ง 3 ภูมิภาค มีค่าเกินมาตรฐาน
จากการประเมินสาเหตุของฝุ่นละออง PM2.5 ในพื้นที่ กทม.และปริมณฑล ภาคเหนือตอนล่าง และภาคตะวันออกเฉียงเหนือ พบว่ามีสภาวะอากาศปิดใกล้ผิวพื้น และอัตราการระบายอากาศลดต่ำลง ส่งผลให้ค่าฝุ่นละอองสูงขึ้น ประกอบกับข้อมูลจุดความร้อนจาก GISTDA เมื่อวันที่ 7 มกราคมที่ผ่านมา ประเทศไทยพบจุดความร้อน 330 จุด ส่วนมากพบในพื้นที่เกษตร 178 จุด ทั้งนี้ สถานการณ์ฝุ่นละออง PM 2.5 ในพื้นที่กทม.และปริมณฑล มีแนวโน้มสูงช่วงวันที่ 7-10 มกราคม 2568 และจะคลี่คลายลงตั้งแต่วันที่ 11 มกราคมนี้
ด้านศูนย์ข้อมูลคุณภาพอากาศกรุงเทพมหานคร รายงานสถานการณ์ฝุ่นละออง PM2.5 ในพื้นที่ กทม.ค่าเฉลี่ยตรวจวัดได้ 60.9 มคก./ลบ.ม.พบว่าเกินมาตรฐานอยู่ในระดับสีส้ม เริ่มมีผลกระทบต่อสุขภาพ (มาตรฐานไม่เกิน 37.5 มคก./ลบ.ม.) รวม 49 เขต และระดับสีแดง มีผลกระทบต่อสุขภาพ 1 เขต สำหรับ 5 เขต ที่ค่าฝุ่น PM 2.5 สูงสุดใน กทม.ได้แก่ 1.หนองแขม 81.1 มคก./ลบ.ม. 2.คลองสามวา 72.2 มคก./ลบ.ม. 3.ภาษีเจริญ 69.9 มคก./ลบ.ม. 4.ตลิ่งชัน 69.1 มคก./ลบ.ม.และ 5.ธนบุรี 67.7 มคก./ลบ.ม.
ขณะที่ IQ Air รายงานสภาพอากาศแบบเรียลไทม์ ระบุว่าระดับค่ามลภาวะทางอากาศของ กทม.พุ่งขึ้นเป็นอันดับ 8 ของโลกในวันเดียวกันนี้ โดยอยู่ในระดับ 177 ส่งผลกระทบต่อทุกคน โดยคุณภาพอากาศระดับสีแดง มีผลกระทบต่อสุขภาพ ประชาชนทุกคนควรงดกิจกรรมกลางแจ้ง หากมีความจำเป็นต้องทำกิจกรรมกลางแจ้งให้ใช้อุปกรณ์ป้องกันตนเองทุกครั้ง และหากมีอาการผิดปกติให้รีบพบแพทย์ ส่วนผู้ที่มีโรคประจำตัว ควรอยู่ในพื้นที่ปลอดภัยจากมลพิษทางอากาศ ให้เตรียมยาและอุปกรณ์ที่จำเป็นให้พร้อม
ที่ จ.หนองคาย ผู้สื่อข่าวรายงานสถานการณ์ฝุ่นละลอง PM2.5 ว่าพบฝุ่นดังกล่าวมากขึ้น อากาศหนาวเย็น แห้ง ประกอบกับมีการก่อสร้างในหลายแห่งและในประเทศเพื่อนบ้าน รวมถึงการทำการเกษตร มีการเผาตอซังข้าว เผาหญ้า และกำจัดวัชพืชแทบทุกวัน โดยสถานีตรวจวัดคุณภาพอากาศในบรรยากาศ ตั้งอยู่ในสวนสาธารณะหนองถิ่น ต.มีชัย อ.เมือง จ.หนองคาย ตรวจพบปริมาณฝุ่นละออง PM2.5 มีค่า 74.2 มคก./ลบ.ม.อยู่ในเกณฑ์เริ่มมีผลกระทบต่อสุขภาพ นอกจากนี้ยังพบปริมาณฝุ่นละออง PM10 มีค่า 110 มคก./ลบ.ม.ค่าดัชนีคุณภาพอากาศสูงถึง 198 AQI อยู่ในเกณฑ์เริ่มมีผลกระทบต่อสุขภาพเช่นกัน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี