ชาวบ้านผงะ!!! สูบน้ำจับปลาดันเจอโครงกระดูกมนุษย์ปริศนา-กะโหลกศรีษะ คาดเป็นของอดีตพระสงฆ์รูปหนึ่งที่หายตัวไปจากวัดเมื่อกลางปีที่แล้ว ด้านกู้ภัยฯนำส่งพิสูจน์ รพ.ตำรวจ คาดทราบผลอย่างช้า 45 วัน
9 ม.ค.68 พ.ต.ท.นรินทร์ นามบ้านค้อ สว.(สอบสวน) สภ.เมืองร้อยเอ็ด พร้อมแพทย์เวร รพ.ร้อยเอ็ด ลงพื้นที่ตรวจพิสูจน์และเก็บชิ้นส่วนโครงกระดูก และกะโหลกศีรษะมนุษย์ ที่ชาวบ้านไปสูบน้ำจับปลาในหนองน้ำฝั่งทิศตะวันตกวัดวิมลนิวาส ต.เหนือเมือง อ.เมืองร้อยเอ็ด จ.ร้อยเอ็ด หลังจากได้รับแจ้งจากนายเทิดศักดิ์ นุกูลการ พร้อมภรรยาและเพื่อนที่มาสูบปลาจนน้ำแห้ง แล้วพบโครงกระดูกจึงรีบโทรแจ้งตำรวจและกู้ภัย เพื่อให้มาตรวจสอบ
จากการสอบถามนายเทิดศักดิ์ บอกว่า ตนมาตั้งเครื่องสูบน้ำในคลองข้างวัดเป็นวันที่ 3 พอน้ำแห้งก็ลงไปเคลียร์พื้นที่(ผักตบชวา)เตรียมจับปลา ก็ไปพบโครงกระดูกริมคลอง ตอนแรกนึกว่าโครงกระดูกสุนัข พอดึงขึ้นมาจึงพบว่าเป็นโครงกระดูกและกะโหลกศีรษะมนุษย์ จึงโทรแจ้งตำรวจมาตรวจสอบ เพื่อหาที่มาของโครงกระดูกดังกล่าวให้เกิดความชัดเจน ซึ่งยังไม่ทราบว่าเป็นใคร แต่สันนิษฐานว่า อาจจะเป็นโครงกระดูกของพระรูปหนึ่ง ซึ่งมาบวชจำพรรษาที่วัดเมื่อเดือน ก.ค.67 แล้วหายตัวไปนานกว่า 5 เดือน ยังหาตัวไม่พบ
อย่างไรก็ตาม เจ้าหน้าที่สันนิษฐานว่า ก่อนหน้านี้ทางเจ้าหน้าที่ตรวจสอบกล้องวงจรปิด พบว่า เมื่อเดือน ก.ค. 67 ที่พระรูปดังกล่าวหายตัวไป สามารถบันทึกภาพเวลาประมาณ 03.20 น. วันที่ 28 ก.ค. 67 พบว่าเดินออกจากวัด หลังพ้นมุมกล้องไปแล้วอาจจะเดินตกลงไปในคลองน้ำ เพราะช่วงนั้นเป็นหน้าน้ำ ที่มีน้ำเต็มเสมอพื้นดิน คนที่ไม่รู้ก็เดินแบบไม่ได้ระวัง จึงอาจจะตกลงไปจนจมน้ำเสียชีวิต
ด้าน น.ส.กมลมาศ มีสวัสดิ์ ประธาน อสม.หมู่ที่3 กล่าวว่า จากการสันนิษฐานเบื้อต้นเป็นไปได้ที่อาจจะเป็นโครงกระดูกของนายสุข แก้วโยธา อายุ 60 ปี อดีตผู้ช่วยสาธารณสุขอำเภอเสลภูมิ ซึ่งบวชแล้วจำพรรษาที่วัดวิมลแห่งนี้ จากนั้นพบภาพจากกล้องวงจรปิดว่าเดินออกจากวัดแล้วหายตัวไป ซึ่งยังค้นหาและตามตัวไม่พบ ขณะเดียวกัน หลังจากพบโครงกระดูกดังกล่าวก็ได้ประสานไปยังลูกสาวซึ่งอยู่ต่างจังหวัด (กทม.) ให้เดินทางมาตรวจสอบ ซึ่งลูกสาวฝากให้เจ้าหน้าที่ตำรวจและแพทย์นิติเวช นำชิ้นส่วนกระดูกส่งตรวจ DNA เพื่อความชัดเจน ก่อนที่จะเดินทางมาพิสูจน์ทราบด้วยตัวเอง
ทั้งนี้ เนื่องจากพระที่หายไป อยู่ในชุดสบงพระและผ้าเช็ดตัวสีเหลือง แต่การแช่ในน้ำนานอาจจะทำให้ผ้าเปื่อยยุ่ยสลายไปจนเหลือแต่โครงกระดูก ซึ่งต้องรอผลพิสูจน์ที่ชัด โดยพนักงานสอบสวนจะนำชิ้นส่วนกระดูกที่พบส่งตรวจ DNA ที่สถาบันนิติเวช เพื่อให้เกิดความชัดเจนต่อไปว่าใช่พระรูปดังกล่าวที่หายตัวไปหรือไม่ หรือหากไม่ใช่ก็จะสืบสวนสอบสวนหาที่มาให้แน่ชัดต่อไป
ล่าสุดสิบเอกธนกฤษณ์ พุฒป่า หัวหน้าหน่วยกู้ภัยอโสกร้อยเอ็ด เผยว่า ตนได้รับมอบหมายจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้องให้นำโครงกระดูก และหัวกะโหลกมนุษย์ที่ชาวบ้านพบในบ่อข้างวัดวิมลฯเดินทางไปที่สถาบันนิติเวชวิทยา โรงพยาบาลตำรวจ กรุงเทพมหานคร เพื่อให้ผู้เชี่ยวชาญตรวจพิสูจน์อัตลักษณ์บุคคล/DNA เดินทางจากร้อยเอ็ดตั้งแต่ตี 2 ที่ผ่านมา และจะทราบผลอย่างเร็ว 15 วัน อย่างช้า 45 วัน สิบเอกธนกฤษณ์ กล่าวไว้ในที่สุด
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี