เก๋งคาดหลับใน ข้ามเลนพุ่งชนประสานงากระบะ เสียชีวิคาที่ 2 ราย บาดเจ็บอีก 13 ราย รวมทั้งเด็กเล็กบาดเจ็บอีกด้วย เผยทั้งสองคันกำลังเดินทางไปร่วมงานแต่งงาน  

เมื่อเวลา 12.05 น.วันนี้ 9 ม.ค.68 พ.ต.ท.ชุมพล ด้วงคง สว.(สอบสวน) สภ.ปะเหลียน ได้รับแจ้งเหตุรถยนต์เก๋งพุ่งชนรถยนต์กระบะ มีผู้เสียชีวิตและบาดเจ็บ    รวมทั้งติดอยู่ภายในซากรถจำนวนหลายราย เหตุเกิดบนถนนสายตรัง-สตูล พื้นที่หมู่ 2 บ้านทุ่งปาหนัน ต.ลิพัง อ.ปะเหลียน จ.ตรัง หลังรับแจ้งจึงเดินทางไปที่เกิดเหตุ พร้อมด้วยทีมกู้ชีพ รพ.ปะเหลียน รพ.ย่านตาขาว รพ.หาดสำราญ หน่วยกู้ชีพสมาคมร่วมใจย่านตาขาว หน่วยกู้ภัยมูลนิธิกุศลสถานตรัง และหน่วยกู้ชีพ อบต.ลิพัง

ถึงที่เกิดเหตุพบรถยนต์กระบะ ยี่ห้อโตโยต้า รุ่นไทเกอร์ สีน้ำเงิน แบบแคป ทะเบียน บห 3895 สุราษฎร์ธานี จอดอยู่บนถนน ในสภาพหัวรถพังยับเยินข้าไปจนถึงห้องผู้โดยสาร ส่วนในคูน้ำข้างทาง พบรถยนต์เก๋ง ยี่ห้อโตโยต้า รุ่นวีออส สีบอร์นเงิน ทะเบียน กง 1626 สตูล เสียหายหัวรถด้านหน้าพังยับเยินเช่นเดียวกัน

ในที่เกิดพบผู้บาดเจ็บในคันรถยนต์เก๋งจำนวน 5 คน แบ่งเป็นเพศชาย 4 ราย หญิง 1 ราย มีผู้เสียชีวิตซึ่งเป็นผู้โดยสารในรถยนต์เก๋งจำนวน 2 คน ทราบชื่อคือ นายสุทธิภัทร หลงจิ อายุ 21 ปี ชาวหมู่ 10 ต.ฉลุง อ.เมือง จ.สตูล อีกรายคือ นางอามีนา หมาดหวัง อายุ 56 ปี

ส่วนรถยนต์กระบะโดยสารมา 10 คน ได้รับบาดเจ็บทั้งหมด เจ้าหน้าที่หน่วยกู้ชีพกู้ภัยได้กระจายนำส่งไปยัง รพ.ย่านตาขาว รพ.ปะเหลียน และ รพ.ตรัง ขณะเดียวกันทราบว่าในรถยนต์เก๋งและในรถยนต์กระบะ มีผู้โดยสารซึ่งเป็นเด็กอายุ 6 ขวบ จำนวน 2 ราย อายุ 5 ขวบ อายุ 9 ขวบ อายุ 12 ปี และ 13 ปีโดยสารมาด้วย รวมบาดเจ็บทั้งหมดขณะนี้จำนวน 13 ราย เสียชีวิต 2 ราย

ชาวบ้านรายหนึ่ง บอกว่า ช่วงพักเที่ยงตนกำลังจะกินข้าว ได้ยินเสียงรถชนกันดังสนั่นมาก หลังจากนั้นได้ยินเสียงเด็กร้อง จึงวิ่งออกมาดู เห็นรถชนกันสนั่น มีผู้บาดเจ็บนับ 10 รายเต็มถนน

จากการสอบสวนของเจ้าหน้าที่เบื้องต้น ทราบว่า รถยนต์กระบะเดินทางขับมาจาก อ.ขนอม จ.นครศรีธรรมราช เพื่อจะไปร่วมงานแต่งงาน ในพื้นที่ จ.สตูล ส่วนรถยนต์เก๋งขับเดินทางมาจาก จ.สตูล เพื่อไปงานแต่งงานในพื้นที่ ต.บ้านนา อ.ปะเหลียน จ.ตรัง มาถึงที่เกิดเหตุสันนิษฐานว่ารถยนต์เก๋งน่าจะข้ามเลนมาพุ่งชนประสานงานเข้ากับรถยนต์กระบะ จนมีผู้เสียชีวิตและบาดเจ็บดังกล่าว เบื้องต้นสันนิษฐานว่าผู้ขับขี่รถยนต์เก๋งน่าจะหลับใน แต่อย่างไรก็ตามทางเจ้าหน้าที่ตำรวจอยู่ในระหว่างการสืบสวนสอบสวนถึงสาเหตุที่แท้จริงต่อไป.