ตำรวจไซเบอร์รวบสาวแสบ หลอกพรีออเดอร์ตุ๊กตาเกาหลีออนไลน์ โอนแล้วบล๊อกหนี พบเหยื่อแล้วกว่า 39 ราย
ตามนโยบาย นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ได้กำหนดนโยบายในการเร่งแก้ปัญหาอาชญากรรมออนไลน์เพื่อปกป้องผลประโยชน์ของประชาชน โดย พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ ผบ.ตร., พล.ต.อ.ธนา ชูวงศ์ รอง ผบ.ตร. และ พล.ต.อ.ธัชชัย ปิตะนีละบุตร จตช. ในฐานะ ผอ.ศปอส.ตร. ได้ขับเคลื่อนนโยบายผ่าน พล.ต.ท.อัคราเดช พิมลศรี ผู้ช่วย ผบ.ตร. ในฐานะผู้รับผิดชอบควบคุมสั่งการ บช.สอท. และ พล.ต.ท.อิทธิพล อัจฉริยะประดิษฐ์ ผู้ช่วย ผบ.ตร. ในฐานะ รอง ผอ.ศปอส.ตร. ได้สั่งการให้ พล.ต.ท.ไตรรงค์ ผิวพรรณ ผบช.สอท. นำเจ้าหน้าที่ตำรวจในสังกัดสืบสวนจับกุมผู้ต้องหาที่กระทำผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมออนไลน์และดำเนินคดีให้ถึงที่สุด จนนำมาสู่ปฏิบัติการดังกล่าว
วันที่ 10 ม.ค.68 เวลา 11.00 น. ณ บริเวณชั้น 1 อาคารเฉลิมพระเกียรติฯ บช.สอท. (เมืองทองธานี) นำโดย พล.ต.ท.ไตรรงค์ ผิวพรรณ ผบช.สอท., พล.ต.ต.วิวัฒน์ คำชำนาญ รอง ผบช.สอท., พล.ต.ต.นิพล บุญเกิด ผบก.สอท.2 พร้อมเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง ร่วมแถลงข่าว ตำรวจไซเบอร์รวบสาวแสบ หลอกพรีออเดอร์ตุ๊กตาเกาหลีออนไลน์ โอนแล้วบล๊อกหนี พบเหยื่อแล้วกว่า 39 ราย
สืบเนื่องจาก ผบช.สอท. ได้มีนโยบายให้จัดสายตรวจไซเบอร์ คอยตรวจสอบอาชญากรรมที่เกิดขึ้นผ่านโซเชียลมีเดียและแพลตฟอร์มออนไลน์ต่างๆ กระทั่งเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ตรวจสอบพบว่า ได้มีมิจฉาชีพเปิดบัญชี X (Twitter) ชื่อบัญชี “butterbbgirl” ได้หลอกลวงผู้เสียหายให้สั่งซื้อสินค้าประเภทตุ๊กตาเกาหลีแบบพรีออเดอร์ แต่หลังจากที่ผู้เสียหายโอนเงินแล้ว กลับไม่สามารถติดต่อผู้ขายได้อีกเลย และไม่ได้รับสินค้าที่โอนเงินสั่งซื้อไป
ต่อมาเจ้าหน้าที่ตำรวจกก.วิเคราะห์ข่าวและเครื่องมือพิเศษ บก.สอท.2 ได้สืบสวนจนพบข้อมูลว่า ตั้งแต่ช่วง ส.ค.-พ.ย.67 บัญชีธนาคารที่คนร้ายใช้ มีการแจ้งความออนไลน์แล้วจำนวน 39 คดี มีผู้เสียหาย 39 ราย มูลค่าความเสียหายรวม 56,100 บาท จึงทำการสืบสวนสอบสวนรวบรวมพยานหลักฐานเรื่อยมา จนนำไปสู่การออกหมายจับผู้ต้องหาได้ในที่สุด
กระทั่งวันพฤหัสบดีที่ 9 ม.ค.68 ตำรวจไซเบอร์ได้นำกำลังเข้าจับกุม น.ส.วนิดา อายุ 23 ปี เจ้าของบัญชี X ดังกล่าว ในความผิดฐาน “ฉ้อโกงประชาชน และโดยทุจริต หรือโดยหลอกลวง นำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์ที่บิดเบือน หรือปลอม ไม่ว่าทั้งหมดหรือบางส่วน หรือข้อมูลคอมพิวเตอร์อันเป็นเท็จ โดยประการที่น่าจะเกิดความเสียหายแก่ประชาชน” จากการตรวจสอบบัญชีธนาคารของผู้ต้องหาตั้งแต่ช่วง ก.ค.67 – พ.ย.67 พบเงินหมุนเวียนกว่า 320,000 บาท
นอกจากนี้ เจ้าหน้าที่ตำรวจเชื่อว่ายังมีผู้สมรู้ร่วมคิดในขบวนดังกล่าวเพิ่มเติมอีก โดยขณะนี้อยู่ระหว่างการสืบสวนขยายผลเพื่อนำตัวผู้เกี่ยวข้องมาดำเนินคดีตามกฎหมายเพิ่มเติมต่อไป
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี