‘ปูอัด’แฉจีนเทา

ลวงเด็กไปเขมร

ไล่บี้รบ.แก้ปัญหา

ดันวาระแห่งชาติ

สส.“ปูอัด” แฉแก๊งคอลเซ็นเตอร์จีนเทาลามหนัก ลวงเด็กในพื้นที่บางขุนเทียน-จอมทอง วาดฝันให้ไปเป็นนักฟุตบอล พาขึ้นรถตู้ไปยังอรัญประเทศ จ.สระแก้ว ก่อนข้ามไปฝั่งปอยเปต บี้รัฐบาล เร่งแก้ปัญหาเป็นวาระแห่งชาติ ลั่นขอลงพื้นที่ไม่กลัวตาย เผยวีดีโอคอลคุยกับเหยื่อ แจ้งพิกัดตึก 18 ชั้น ชี้มีคนไทยอีกอื้อ

เมื่อวันที่ 10 มกราคม 2568 ที่รัฐสภา นายไชยามพวาน มั่นเพียรจิตต์ สส.กทม.พรรคไทยก้าวหน้า แถลงว่า ปฏิเสธไม่ได้ว่าแก๊งคอลเซ็นเตอร์ เข้ามาอยู่พื้นที่แล้ว โดยมีการหลอกเด็กจากพื้นที่เขตบางขุนเทียน เขตจอมทอง ไปอยู่ที่ปอยเปต ประเทศกัมพูชา และบังเอิญเมื่อวันที่ 9 มกราคมที่ผ่านมา ตนได้ไปที่ สน.บางมด ซึ่งพ่อแม่ของเด็ก ได้ไปแจ้งความว่าลูกถูกหลอกมาแล้ว 2 วัน ในจังหวะนั้นเด็กคนดังกล่าว สมมติชื่อ “น้องเอ” ได้แอบวีดีโอคอล เข้ามาหาพ่อแม่ ซึ่งตนได้พูดคุยกับน้องเอ ด้วย เนื่องจากเป็นเด็กที่อยู่ในพื้นที่ของตน ซึ่งจากการพูดคุยพบว่าการหลอกของแก๊งจีนเทา มีการพัฒนาไปมาก

นายไชยามพวาน กล่าวต่อว่า น้องเอ ถูกชักจูงจากคนใกล้ชิดว่าถ้าไปเป็นนักฟุตบอลจะได้เงิน ซึ่งแก๊งจีนเทา สามารถรู้ว่าผู้เสียหายอยากเป็นอะไรในอนาคต โดยจะหลอกเด็กอายุ 20 ปีขึ้นไป ถ้าอายุต่ำกว่านี้จะกลายเป็นเรื่องการค้ามนุษย์ที่ผิดกฎหมาย ซึ่งน้องเอ มีอายุ 21 ปีอยากเป็นนักฟุตบอล ซึ่งแก๊งจีนเทา รู้ว่าน้องอยากเป็นนักฟุตบอล จึงให้คนใกล้ชิดพูดหว่านล้อม ว่าถ้าไปเป็นนักฟุตบอลจะได้เงินเท่านี้ ไปต่างประเทศจะได้เงินเท่านี้ เป็นการสร้างแรงจูงใจให้หลงเชื่อ

“เหตุการณ์นี้เหยียบจมูกผมมากเพราะมีการนำรถตู้มารับถึงซอยสุขสวัสดิ์ 14 ซึ่งไม่ใช่แค่น้องเอ คนเดียว ยังมีเด็กคนอื่นๆ อีก 4 คนรวม 5 คน โดยน้องเอ เล่าให้ฟังว่า วันแรกที่ถูกรับไปเขาให้ไปซ้อมฟุตบอลที่จังหวัดหนึ่ง ซึ่งเป็นทางผ่านไปปอยเปต พอวันรุ่งขึ้นเขาให้ขึ้นรถแล้วเดินทางต่อ ซึ่งน้องไม่ทราบว่าไปไหน มารู้ตัวอีกทีก็อยู่ที่ปอยเปต แล้ว จากนั้นเขาบอกว่าให้เตรียมตัว เดี๋ยววันที่...จะพาออกไปเปิดบัญชี ให้ขยันทำงาน แต่น้องพยายามอ้างว่ามีญาติผู้ใหญ่ป่วยอยู่ที่ไทย ขอกลับบ้านได้หรือไม่ ทางนั้นเหมือนจะใจดี โดยบอกว่าวันที่ 11 มกราคม จะพากลับ ซึ่งผมไม่รู้ว่าจะเกิดขึ้นหรือไม่ ผมได้บอกกับน้องเอ ว่าให้สับขาหลอกให้เก่ง อยู่ให้เป็น เหมือนกับที่เราเล่นฟุตบอล อย่างไรพี่จะพาตัวกลับมาให้ได้” นายไชยามพวาน กล่าว

นายไชยามพวาน กล่าวอีกว่า ขณะนี้เรารู้พิกัดแล้ว เพราะน้องบอกว่าอยู่ในตึก 18 ชั้น ซึ่งน้องพยายามถ่ายภาพให้เห็นในตัวอาคาร และยังมีคนไทยอีกหลายคน ซึ่งมีทั้งคนที่สมัครใจและถูกหลอกมาทำงาน ซึ่งตนได้ประสานงาน สน.บางมด รวมทั้งประสานกับ ตม.อรัญประเทศ จ.สระแก้ว รวมทั้งฝั่งปอยเปต โดยพยายามประสานทุกทาง เพื่อหาวิธีพาน้องเอ กลับบ้าน อย่างไรก็ตาม อยากฝากถึงพ่อแม่อย่าโทษเด็ก เพราะเขาแค่อยากหาเงินเลี้ยงดูตัวเอง แต่ด้วยกลไกของจีนเทาที่มีมากขึ้นทวีคูณ และอยากจะบอกกับน้องๆ ว่าไม่มีอะไรได้เงินมาฟรีและเร็วขนาดนั้น นอกจากเป็นสีเทาๆ และอย่าพึ่งเชื่อใจใครว่าไปทำงานต่างประเทศแล้วจะปลอดภัย ขอให้ถามทางหน่วยงานราชการก่อน ว่าปลอดภัยจริงหรือไม่ เพราะต่อจากนี้เราไม่รู้ว่าจะมีเด็กกี่คนจะต้องขึ้นรถตู้แบบน้องเอ ไป

“ผมตั้งใจว่าจะไปดูเอง โดยวันที่ 13 มกราคมนี้ จะไปนั่งเฝ้าที่ อ.อรัญประเทศ เพื่อจะนำหลักฐานมาให้นายกฯ และอยากรู้ว่าที่ให้เปิดบัญชีธนาคารในตลาดโรงเกลือ เปิดได้อย่างไร ผมอยากเห็นหน้าจีนเทา ที่นำเด็กมา ถ้ามันจะยิงผม ก็ยิงตรงนั้นเลย และขอเรียกร้องให้นายกฯ นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกฯ และรมว.กลาโหม รวมทั้ง รมว.ดีอี ว่าเรื่องนี้ควรเป็นวาระแห่งชาติ ถ้าไม่เกิดขึ้นกับตัวเองคงไม่เข้าใจ เพื่อเร่งแก้ปัญหาให้กับพี่น้องประชาชนโดยเร็ว” นายไชยามพวาน กล่าว

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายไชยามพวาน ได้เปิดคลิบที่น้องเอ วีดีโอคอลเข้ามาขอความช่วยเหลือ และแจ้งพิกัดว่าอยู่อาคารไหนที่ปอยเปต ประเทศกัมพูชา ให้สื่อมวลชนได้ดูด้วย