33จว.อ่วมฝุ่นพุ่ง

กทม.51จุดสีส้ม

หนองแขมแชมป์

รบ.สั่งลุยสู้PM2.5

ศกพ.รายงานสถานการณ์ฝุ่นจิ๋ว 33 จังหวัดอ่วมเกินมาตรฐาน เช่นเดียวกับ กทม. PM2.5 พุ่งระดับสีส้ม 51 พื้นที่ “หนองแขม” แชมป์ ด้านนายกฯสั่งทุกกระทรวงสู้ PM2.5 บังคับใช้กฎหมายเข้มงวดจริงจัง จี้คมนาคม-ตำรวจจับตารถควันดำเกินมาตรฐานห้ามวิ่ง ไม่เว้นรถขสมก.พบควันดำเกิน 30% สั่งปรับทันที

เมื่อวันที่ 10 มกราคม 2568 ศูนย์สื่อสารการแก้ไขปัญหามลพิษทางอากาศ (ศกพ.)รายงานการติดตามตรวจสอบคุณภาพอากาศ ประจำวันช่วงเวลา 07.00 น.สรุปภาพรวมปริมาณฝุ่นละอองขนาดเล็กหรือ PM 2.5 ทั่วประเทศ พบเกินค่ามาตรฐาน 33 จังหวัด ได้แก่

33จว.อ่วมฝุ่นเกินมาตรฐาน

จ.ปทุมธานี กรุงเทพฯ จ.นนทบุรี จ.นครปฐม จ.สมุทรสาคร จ.สมุทรปราการ จ.เชียงราย จ.น่าน จ.พะเยา จ.เชียงใหม่ จ.ลำพูน จ.ลำปาง จ.แพร่ จ.อุตรดิตถ์ จ.สุโขทัย จ.พิษณุโลก จ.ตาก จ.กำแพงเพชร จ.พิจิตร จ.เพชรบูรณ์ จ.นครสวรรค์ จ.อุทัยธานี จ.ชัยนาท จ.สิงห์บุรี จ.สระบุรี จ.พระนครศรีอยุธยา จ.กาญจนบุรี จ.ราชบุรี จ.สมุทรสงคราม จ.เพชรบุรี จ.ชลบุรี จ.ระยอง และจ.ชุมพร

ภาคเหนือ เกินค่ามาตรฐานเป็นส่วนใหญ่ตรวจวัดได้ 12.2 - 71.6 ไมโครกรัม/ลูกบาศก์เมตร (มคก./ลบ.ม.) ภาคกลางและตะวันตก เกินค่ามาตรฐานเป็นส่วนใหญ่วัดได้ 32.5 - 70.4 มคก./ลบ.ม. ภาคตะวันออกเกินค่ามาตรฐาน 7 พื้นที่วัดได้ 22.1 - 68.3 มคก./ลบ.ม. ภาคใต้เกินค่ามาตรฐาน 1 พื้นที่ตรวจวัดได้ 19.8 - 44.9 มคก./ลบ.ม. กรุงเทพมหานครและปริมณฑลเกินค่ามาตรฐานเป็นส่วนใหญ่วัดได้ 24.0 - 65.3มคก./ลบ.ม. ภาคตะวันออกเฉียงเหนือภาพรวมอยู่ในเกณฑ์ดีวัดได้ 14.3 - 34.9 มคก./ลบ.ม. พร้อมกันนี้ ยังมีคำแนะนำทางสุขภาพประชาชนควรระวังสุขภาพ ลดเวลาทำกิจกรรมกลางแจ้ง หรือใช้อุปกรณ์ป้องกันตัว

5เขตอ่วม- “หนองแขม”แชมป์

ขณะที่ศูนย์ข้อมูลคุณภาพอากาศกรุงเทพมหานคร รายงานสถานการณ์ฝุ่น PM 2.5 ประจำวันที่ 10 มกราคมช่วงเวลา 07.00 น.ค่าเฉลี่ยของฝุ่นในกรุงเทพมหานคร 43.4 มคก./ลบ.ม. ค่า PM2.5 มีแนวโน้มลดลง เกินมาตรฐานระดับสีส้ม เริ่มมีผลกระทบต่อสุขภาพ 51 พื้นที่ วัดค่าฝุ่นละออง PM2.5 ได้ 31.4-58.5 มคก./ลบ.ม. พบว่าเกินมาตรฐานอยู่ในระดับสีส้ม เริ่มมีผลกระทบต่อสุขภาพ โดยค่ามาตรฐานอยู่ที่ไม่เกิน 37.5 มคก./ลบ.ม.) โดยค่าฝุ่นวัดได้สูงสุด 5 อันดับ อันดับ 1 เขตหนองแขม 61.5 มคก./ลบ.ม. อันดับ 2 เขตทวีวัฒนา 57.3 มคก./ลบ.ม. อันดับ 3 เขตธนบุรี 54.4 มคก./ลบ.ม. อันดับ 4 เขตบางบอน 54.2 มคก./ลบ.ม. และอันดับ 5 เขตภาษีเจริญ 53.6 มคก./ลบ.ม.

คนกรุงสำลักฝุ่นเกินมาตรฐาน51จุด

สำหรับ 51 พื้นที่ที่ค่าฝุ่นเกินมาตรฐษน ได้แก่ 1.เขตหนองแขม สามแยกข้างป้อมตำรวจ ถนนมาเจริญ เพชรเกษม 81 วัดได้ 58.5 มคก./ลบ.ม. 2.สวนทวีวนารมย์ เขตทวีวัฒนา วัดได้ 56.4 มคก./ลบ.ม. 3.เขตทวีวัฒนามีค่าเท่ากับ 54.5 มคก./ลบ.ม. 4.เขตประเวศ ด้านหน้าห้างสรรพสินค้าซีคอน สแควร์วัดได้ 52.8 มคก./ลบ.ม. 5.เขตภาษีเจริญ หน้ามหาวิทยาลัยสยามวัดได้ 51.9 มคก./ลบ.ม. 6.เขตบางกอกน้อยหน้าสถานีตำรวจรถไฟบางกอกน้อยวัดได้ 51.2 มคก./ลบ.ม. 7.เขตธนบุรี 51.1 มคก./ลบ.ม. 8.เขตบางบอน 50.7 มคก./ลบ.ม. 9.เขตหลักสี่ 49.4 มคก./ลบ.ม. 10.เขตบางขุนเทียน ในสำนักงานเขตบางขุนเทียนวัดได้ 48.7 มคก./ลบ.ม.

11.สวนรมณีย์ทุ่งสีกัน เขตดอนเมือง : มีค่าเท่ากับ 48.4 มคก./ลบ.ม. 12.เขตพญาไท หน้าแฟลตทหารบกใกล้โรงพยาบาลวิชัยยุทธ ตรงข้ามกระทรวงการคลัง : มีค่าเท่ากับ 48.2 มคก./ลบ.ม. 13.เขตป้อมปราบศัตรูพ่าย ด้านหน้าสำนักงานคณะกรรมการพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ : มีค่าเท่ากับ 47.6 มคก./ลบ.ม. 14.เขตลาดกระบัง ด้านหน้าโรงพยาบาลลาดกระบังข้างป้อมตำรวจ : มีค่าเท่ากับ 47.3 มคก./ลบ.ม. 15.เขตบางซื่อ ภายในสำนักงานเขตบางซื่อ : มีค่าเท่ากับ 46.8 มคก./ลบ.ม. 16.เขตคลองสามวา ภายในสำนักงานเขตคลองสามวา : มีค่าเท่ากับ 46.6 มคก./ลบ.ม. 17.เขตพระโขนง ภายในสำนักงานเขตพระโขนง : มีค่าเท่ากับ 46.5 มคก./ลบ.ม. 18.เขตบางพลัด ภายในสำนักงานเขตบางพลัด : มีค่าเท่ากับ 46.4 มคก./ลบ.ม. 19.เขตบางเขน ภายในสำนักงานเขตบางเขน : มีค่าเท่ากับ 46.4 มคก./ลบ.ม. 20.เขตตลิ่งชัน ถนนพุทธมณฑลสาย 1 ตัดกับถนนบรมราชชนนี : มีค่าเท่ากับ 45.5 มคก./ลบ.ม.

21.เขตสายไหม ป้ายรถเมล์ด้านหน้าสำนักงานเขตสายไหม : มีค่าเท่ากับ 45.5 มคก./ลบ.ม. 22.เขตดอนเมือง ด้านข้างสำนักงานเขตดอนเมือง : มีค่าเท่ากับ 44.3 มคก./ลบ.ม. 23.สวนธนบุรีรมย์ เขตทุ่งครุ : มีค่าเท่ากับ 44.0 มคก./ลบ.ม. 24.เขตบางรัก ข้างป้อมตำรวจหน้าลานบางรักเลิฟลี่ พลาซ่า : มีค่าเท่ากับ 43.8 มคก./ลบ.ม. 25.เขตหนองจอก บริเวณหน้าสำนักงานเขตหนองจอก : มีค่าเท่ากับ 43.8 มคก./ลบ.ม. 26.เขตบางกอกใหญ่ บริเวณสี่แยกท่าพระ แขวงวัดท่าพระ : มีค่าเท่ากับ 43.5 มคก./ลบ.ม. 27.เขตวังทองหลาง ด้านหน้าปั๊มน้ำมัน เอสโซ่ ซ.ลาดพร้าว 95 : มีค่าเท่ากับ 42.8 มคก./ลบ.ม. 28.เขตพระนคร ภายในสำนักงานเขตพระนคร : มีค่าเท่ากับ 42.6 มคก./ลบ.ม. 29.เขตบางนา บริเวณหน้าห้าง สรรพสินค้าบิ๊กซี บางนา : มีค่าเท่ากับ 42.5 มคก./ลบ.ม. 30.เขตคันนายาว บริเวณปากทางถนนสวนสยามตัดกับถนนรามอินทรา : มีค่าเท่ากับ 42.3 มคก./ลบ.ม.

31.สวนเฉลิมพระเกียรติ 80 พรรษา เขตบางกอกน้อย : มีค่าเท่ากับ 42.2 มคก./ลบ.ม. 32.สวนเสรีไทย เขตบึงกุ่ม : มีค่าเท่ากับ 41.9 มคก./ลบ.ม. 33.เขตจตุจักร บริเวณด้านหน้ามหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ : มีค่าเท่ากับ 41.9 มคก./ลบ.ม. 34.เขตคลองสาน บริเวณหน้าห้องสมุดใต้สะพานสมเด็จพระเจ้าตากสิน : มีค่าเท่ากับ 41.8 มคก./ลบ.ม. 35.สวนบางแคภิรมย์ เขตบางแค : มีค่าเท่ากับ 41.1 มคก./ลบ.ม. 36.สวนหลวงพระราม 8 เขตบางพลัด : มีค่าเท่ากับ 41.1 มคก./ลบ.ม. 37.เขตคลองเตย ภายในสำนักงานเขตคลองเตย : มีค่าเท่ากับ 40.9 มคก./ลบ.ม. 38.เขตราษฎร์บูรณะ ภายในสำนักงานเขตราษฎร์บูรณะ : มีค่าเท่ากับ 40.6 มคก./ลบ.ม. 39.เขตบึงกุ่ม ภายในสำนักงานเขตบึงกุ่ม : มีค่าเท่ากับ 40.5 มคก./ลบ.ม. 40.สวนกีฬารามอินทรา เขตบางเขน : มีค่าเท่ากับ 40.3 มคก./ลบ.ม.

41.เขตสัมพันธวงศ์ บริเวณหน้าหัวมุม ซุ้มประตูเฉลิมพระเกียรติ (วงเวียนโอเดียน) : มีค่าเท่ากับ 39.8 มคก./ลบ.ม. 42.เขตบางแค ภายในสำนักงานเขตบางแค : มีค่าเท่ากับ 39.7 มคก./ลบ.ม. 43.เขตดุสิต ริมสวนหย่อมตรงข้ามสำนักงานเขตดุสิต : มีค่าเท่ากับ 39.6 มคก./ลบ.ม. 44.เขตมีนบุรี สวนเฉลิมพระเกียรติ ร.9 ตรงข้ามสำนักงานเขตมีนบุรี : มีค่าเท่ากับ 39.4 มคก./ลบ.ม. 45.สวน 60 พรรษาสมเด็จพระนางเจ้าพระบรมราชินีนาถ เขตลาดกระบัง : มีค่าเท่ากับ 39.1 มคก./ลบ.ม. 46.เขตจอมทอง ภายในสำนักงานเขตจอมทอง : มีค่าเท่ากับ 38.9 มคก./ลบ.ม. 47.เขตลาดพร้าว ภายในสำนักงานเขตลาดพร้าว : มีค่าเท่ากับ 38.6 มคก./ลบ.ม. 48.เขตสวนหลวง ด้านหน้าสำนักงานเขตสวนหลวง : มีค่าเท่ากับ 38.2 มคก./ลบ.ม. 49.เขตสาทร สี่แยกหน้าสำนักงานเขตสาทร ซอย ถนนเซนต์หลุยส์ : มีค่าเท่ากับ 38.0 มคก./ลบ.ม. 50.เขตทุ่งครุ หน้ามหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้าธนบุรี : มีค่าเท่ากับ 37.9 มคก./ลบ.ม. 51.เขตดินแดง ริมถนนวิภาวดีรังสิต : มีค่าเท่ากับ 37.6 มคก./ลบ.ม.

เตือนใส่แมสเลี่ยงกิจกรรมกลางแจ้ง

ศูนย์ข้อมูลคุณภาพอากาศกทม.ระบุด้วยว่า ช่วงวันที่ 10 - 17 มกราคม การระบายอากาศอยู่ในเกณฑ์ ไม่ดี-อ่อน-ดี ขณะที่มีการเกิดอินเวอร์ชั่นใกล้ผิวพื้น ทำให้มลพิษทางอากาศแพร่กระจายได้อย่างจำกัด ส่งผลให้ความเข้มข้นของฝุ่นละอองแนวโน้มเพิ่มขึ้นช่วง 1-2 วัน จากนั้นความเข้มข้นของฝุ่นแนวโน้มลดลงระยะสั้นก่อนเพิ่มขึ้นอีกครั้ง คาดการณ์วันนี้อากาศเย็น ลมแรง ไม่พบจุดความร้อนในกทม.

นอกจากนี้ ยังมีข้อแนะนำสุขภาพ คุณภาพอากาศระดับสีส้ม เริ่มมีผลกระทบต่อสุขภาพ ประชาชนต้องใช้อุปกรณ์ป้องกันตนเอง เช่น หน้ากากป้องกัน PM2.5 ทุกครั้งที่ออกนอกอาคาร จำกัดเวลาทำกิจกรรมหรือการออกกำลังกายกลางแจ้งที่ใช้แรงมาก ส่วนกลุ่มเสี่ยง ควรเลี่ยงทำกิจกรรมหรือการออกกำลังกายกลางแจ้งที่ใช้แรงมาก

นายกฯสั่งทุกกระทรวงเข้มแก้PM2.5

ด้านนางสาวศศิกานต์ วัฒนะจันทร์ รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า นายกรัฐมนตรีสั่งการในที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) เรื่องมาตรการป้องกันและแก้ปัญหา PM2.5 โดยเฉพาะมาตรการเกี่ยวกับพืชผลการเกษตรที่มีการเผา โดยให้กระทรวงอุตสาหกรรม เร่งกำหนดมาตรการเพิ่มเติมเพื่อให้ผู้ประกอบการงดรับซื้ออ้อยไฟไหม้ และสั่งกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม บังคับใช้กฎหมายส่งเสริมและรักษาคุณภาพสิ่งแวดล้อมอย่างเข้มงวดกับผู้เผาป่า เผาตอซังข้าว ข้าวโพด อ้อย และพืชอื่น รวมทั้งประกาศกำหนดเขตควบคุมมลพิษ และให้กระทรวงพาณิชย์ กระทรวงเกษตรและสหกรณ์กำหนดมาตรการห้ามนำเข้าอ้อยไฟไหม้ รวมทั้งพืชเกษตรอื่นที่ผ่านการเผา ให้หน่วยงานความมั่นคงตรวจสอบการลักลอบการนำเข้าพืชที่ผ่านการเผาทุกชนิด ตามแนวชายแดนต่างๆอย่างเข้มงวด

จากนั้นนายกรัฐมนตรียังสั่งการให้กระทรวงคมนาคม และ สตช.ตรวจสอบและห้ามใช้ยานพาหนะที่ปล่อยควันดำเกินมาตรฐานอย่างจริงจัง โดยเฉพาะรถปิคอัพ รถโดยสาร รถบรรทุกขนาดใหญ่ ที่ปล่อยควันดำรวมทั้งรถขนส่งมวลชนของ ขสมก. และรถร่วมบริการเส้นทางต่างๆ ที่อยู่ในความดูแลของรัฐ อีกทั้ง ยังมีมาตรการการแก้ปัญหาฝุ่น PM 2.5 จากการเผาอ้อยในอุตสาหกรรมอ้อยและน้ำตาลทราย ทั้งระยะเร่งด่วนและระยะยาว จากข้อมูลติดตามสถานการณ์ฝุ่น PM 2.5 ตั้งแต่วันที่ 11 ตุลาคม 2567 - 9 มกราคม ภาพรวมพบจังหวัดที่มีค่าฝุ่นเกินมาตรฐาน 37.5 มคก./ลบ.ม. หรือระดับสีส้ม 53 จังหวัด

รุกตรวจรถควันดำเกิน30%ปรับ5พัน

นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รองนายกรัฐมนตรีและ รมว.คมนาคม เปิดเผยว่า จากสถานการณ์ฝุ่น PM2.5 ของประเทศไทยในปัจจุบันที่มีปริมาณเพิ่มสูงขึ้น ซึ่งส่งผลต่อสุขภาพอนามัยของประชาชน โดยเฉพาะในพื้นที่กรุงเทพฯ และปริมณฑล จึงย้ำให้ทุกหน่วยงานในสังกัดดำเนินงานตามมาตรการภายใต้แผนปฏิบัติการแก้ไขปัญหาฝุ่น PM2.5 ของภาคคมนาคมในกรุงเทพฯ และปริมณฑล พร้อมบูรณาการร่วมกันระหว่างหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเพื่อยกระดับการแก้ไขปัญหาฝุ่น PM2.5 ในภาคคมนาคมขนส่งให้เกิดผลในทางปฏิบัติอย่างเป็นรูปธรรมโดยเร็วที่สุด ขณะเดียวกันให้กรมการขนส่งทางบกออกตรวจควันดำรถบรรทุกและรถโดยสารในเขตกรุงเทพฯ และปริมณฑล รวมทั้งตั้งจุดตรวจบนถนนสายหลักและสายรองทั่วประเทศ หากพบค่าควันดำเกินกว่า 30% จะมีความผิดตามมาตรา 71 ฐานนำรถที่มีสภาพไม่มั่นคงแข็งแรงมาใช้งาน ถูกพ่นห้ามใช้รถและปรับ 5,000 บาท ทุกราย