กัมพูชาส่งตัว
จ่าเอ็ม กองเรือ
สารภาพสิ้นไส้
ฆ่าอดีตสส.เขมร
ทางการกัมพูชาส่งตัว “จ่าเอ็ม กองเรือ”ให้ตำรวจไทยที่ด่านพรมแดนอรัญประเทศ เจ้าตัวสารภาพทุกข้อหายิงอดีต สส.ฝ่ายค้านกัมพูชา
เมื่อเวลา 11.30 น. วันที่ 11 มกราคม2568 พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ ผบ.ตร.ได้มอบหมายให้ พล.ต.ท.สมประสงค์เย็นท้วมผช.ผบ.ตร.พร้อมคณะฯบินด่วนมารับตัวนายเอกลักษณ์ แพน้อย หรือจ่าเอ็ม กองเรือ อายุ 41ปี อดีตทหารเรือ ผู้ต้องหาคนสำคัญ ที่ก่อเหตุยิงนายลิม คิมยา อายุ 73 ปี ชาวกัมพูชาสัญชาติฝรั่งเศส นักเคลื่อนไหวทางการเมือง และอดีต สส.ฝ่ายค้านกัมพูชา แล้วหลบหนีหมายจับออกไปประเทศกัมพูชา ณ บริเวณกลางสะพานมิตรภาพไทย-กัมพูชา จุดผ่านแดนถาวรบ้านคลองลึก อ.อรัญประเทศ จ.สระแก้ว
ซึ่งหลังก่อเหตุ พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ ผบ.ตร.ได้ทำหนังสือประสานทางการทูตไปทางกัมพูชาขอตัวนายเอกลักษณ์ แพน้อย หรือจ่าเอ็ม กองเรือ เพื่อนำกลับมาสอบสวนขยายผลหาตัวผู้ร่วมขบวนการอย่างเร่งด่วน เนื่องจากเป็นคดีอุกฉกรรจ์สำคัญ ซึ่งต่อมาทางการกัมพูชาตกลงที่จะส่งตัวผู้ต้องหารายนี้ให้กับตำรวจไทย บริเวณจุดผ่านแดนถาวรบ้านคลองลึก อ.อรัญประเทศ จ.สระแก้ว โดยมี พล.ต.ต.ออมสิน บุญญานุสนธ์ ผบก.ภ.จว.สระแก้ว,พ.ต.อ.จตุรภัทร สิงหัษฐิต รอง ผบก.ภ.จว.สระแก้ว,พ.ต.อ.อโณทัย จินดามณี ผกก.สภ.คลองลึกฯ,พ.ต.อ.ณภัทรพงศ สุภาพร ผกก.ตม.จว.สระแก้ว และ พ.อ.เมธี คำเต็ม ผบ.ชค.ทพ.12ฉก.อรัญประเทศฯจัดกำลังมาร่วมดูแลรักษาความปลอดภัยบริเวณด่านพรมแดนคลองลึกฯอย่างเข้มงวด
จากนั้นเวลา 11.45 น.พล.ต.อ.วัน วีระ รอง ผบ.ตร.กัมพูชา พร้อมคณะฯได้นำตัว”จ่าเอ็ม กองเรือ”ผู้ต้องหาคนสำคัญ ขึ้นรถยนต์จี๊ปกันกระสุน เดินทางจากกรุงพนมเปญ ประเทศกัมพูชา มาส่งให้ ตร.ไทยที่บริเวณกลางสะพานมิตรภาพไทย-กัมพูชา จุดผ่านแดนถาวรบ้านคลองลึกฯโดยมีกำลัง จนท.ฝ่ายความมั่นคงกัมพูชา รปภ.อย่างเข้มงวด
โดย พ.ต.ท.สมประสงค์ เย็นท้วม ผช.ผบ.ตร.ได้กล่าวขอบคุณ พล.ต.อ.วัน วีระ รอง ผบ.ตร.กัมพูชา และรัฐบาลกัมพูชาที่ให้ความร่วมมือและส่งตัวผู้ต้องหาคนสำคัญกลับมาดำเนินคดีฝั่งไทย ซึ่งบรรยากาศเป็นไปอย่างชื่นมื่น
จากนั้น พ.ต.อ.ณภัทรพงศ สุภาพร ผกก.ตม.จว.สระแก้ว ได้นำจ่าเอ็ม กองเรือ ไปทำพิธีการตรวจคนเข้าเมือง ณ.ห้อง ศปก.ตม.จว.สระแก้ว จากนั้นจึงนำตัวจ่าเอ็ม กองเรือ ไปลงบันทึกประจำวันที่ สภ.คลองลึก อ.อรัญประเทศ จ.สระแก้ว ก่อนที่ พล.ต.ท.สมประสงค์ เย็นท้วมฯจะรับตัวจ่าเอ็ม กองเรือ เดินทางกลับไปดำเนินคดีที่ บชน.ต่อไป
เวลา 13.10 น. พล.ต.ท.สยาม บุญสม ผบช.น. ได้เดินทางมาถึงที่กองบินตำรวจ และเรียกฝ่ายสืบสวนสอบสวนทำการประชุมเตรียมความพร้อม ในการควบคุมตัวเคลื่อนย้ายนายเอกลักษณ์ หรือ “เอ็ม กองเรือ” อายุ 41 ปี ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลอาญา ข้อหา “ฆ่าผู้อื่นโดยไตร่ตรองไว้ก่อน พาอาวุธปืนไปในเมืองหมู่บ้านหรือทางสาธารณะโดยไม่มีเหตุอันสมควร ยิงปืนซึ่งใช้ดินระเบิดซึ่งใช่เหตุในเมือง”
โดยการประชุมครั้งนี้ ได้มีการเน้นย้ำกำชับไปยังที่หน่วยอรินทราช 26 ในฐานะเป็นกองกำลังที่จะรักษาความปลอดภัยตัวผู้ต้องหา และมีการซักซ้อมเตรียมแผนการเพื่อทำความเข้าใจ ในการที่จะส่งมอบตัวให้กับพนักงานสอบสวน สน.ชนะสงคราม ต่อไป
ต่อมาในเวลา 13.43 น. พล.ต.ท.สมประสงค์ เย็นท้วม ผู้ช่วย ผบ.ตร. พร้อมด้วย พล.ต.ต.ธีรเดช ธรรมสุธีร์ ผบก.สส.บช.น. พร้อมเจ้าหน้าที่ตำรวจได้นำตัวนายเอกลักษณ์มาถึงที่กองบินตำรวจ ขณะที่ลงจากเฮลิคอปเตอร์ นายเอกลักษณ์ได้สวมเสื้อยืดสีขาว และเสื้อเกราะกันกระสุน กางเกงสีน้ำตาล หมวกสีขาว พร้อมสวมแมสก์ จากนั้นเจ้าหน้าที่ตำรวจก็ได้มีการควบคุมตัวนายเอกลักษณ์ ขึ้นรถตู้ฮุนไดสีขาว โดยมีรถคุ้มกันของหน่วยอรินทราช 26 ทั้งหน้าและหลัง พร้อมกำลังพลของหน่วยอรินทราชพร้อมอาวุธครบมืออีกหลายนายคอยดูแลความเรียบร้อย
พล.ต.ท.สมประสงค์ เปิดเผยว่า จากการซักถามเบื้องต้นผู้ต้องหาให้การรับสารภาพทุกข้อกล่าวหา “ฆ่าผู้อื่นโดยไตร่ตรองไว้ก่อน พาอาวุธปืนไปในเมืองหมู่บ้านหรือทางสาธารณะโดยไม่มีเหตุอันสมควร ยิงปืนซึ่งใช้ดินระเบิดซึ่งใช่เหตุในเมือง“ ซึ่งในรายละเอียดต่างๆ ยังไม่ได้ข้อมูลอะไรชัดเจน เบื้องต้นตนมีหน้าที่ไปรับตัวผู้ต้องหาเพื่อนำมาส่งต่อให้กับทาง พล.ต.ท.สยาม ได้ดำเนินการนำตัวไปสอบสวนต่อ
สำหรับในประเด็นอื่นไม่ว่าจะเป็นในเรื่องของคนสั่งการหรือไม่ หลบหนีไปยังประเทศกัมพูชามีผู้ใดให้การช่วยเหลือหรือไม่ และเรื่องเส้นเงิน 60,000 บาทที่เข้ามายังบัญชีตัวผู้ร้าย และสาเหตุแรงจูงใจในการก่อเหตุว่าจะเกี่ยวพันการเมืองหรือไม่ รวมไปถึงตัวผู้ชี้เป้าและผู้ที่เกี่ยวข้องอื่นๆ นั้น ยังไม่ทราบรายละเอียดเนื่องจากว่าในวันนี้เพียงแค่ไปรับตัวมา ซึ่งหลังจากนำตัวส่งให้กับทาง บช.น. แล้วกระบวนการสอบสวนถึงจะเริ่มขึ้น
เบื้องต้นจากที่ตนสังเกตสีหน้าของผู้ต้องหานั้นก็ดูเครียด แต่นิ่ง ไม่ได้พูดอะไร เมื่อผู้สื่อข่าวถามว่าจากการไปรับตัวผู้ต้องหามา มีข้อแลกเปลี่ยนอะไรกับประเทศกัมพูชาหรือไม่ พล.ต.ท.สมประสงค์ ยืนยันว่าไม่มี
ด้าน พล.ต.ท.สยาม กล่าวว่า สำหรับการออกหมายจับบุคคลที่เกี่ยวข้องนั้น จะต้องสอบปากคำตัวผู้ต้องหาและขยายผลเพิ่มเติมก่อนว่ามีผู้ใดบ้าง หากพบว่ามีผู้ใดที่เกี่ยวข้องก็จะมีการดำเนินคดีอย่างแน่นอน ทั้งตัวน้องสาวและตัวคนชี้เป้า และสำหรับข้อมูลของคนชี้เป้านั้น ยังไม่สามารถเปิดเผยข้อมูลในส่วนนี้ได้ เบื้องต้นทราบว่าเป็นคนประเทศกัมพูชา หากพบว่ามีส่วนเกี่ยวข้องอย่างชัดเจน จึงจะสามารถนำตัวของผู้ชี้เป้ามาดำเนินคดีได้ ส่วนเรื่องผลตรวจอาวุธปืนนั้น จะต้องรอข้อมูลจากสำนักงานพิสูจน์หลักฐานตำรวจก่อน
เบื้องต้นจากการซักถามภรรยาผู้เสียชีวิตนั้น ตัวภรรยาไม่รู้จักกับตัวผู้ต้องหาแต่อย่างใด ผู้เสียชีวิตและภรรยาเดินทางมาประเทศไทยเพื่อมาเที่ยวเท่านั้น
เมื่อผู้สื่อข่าวถามว่า เหตุการณ์ดังกล่าวคิดว่าเป็นเหตุซึ่งหน้าหรือมีการวางแผน พล.ต.ท.สยาม กล่าวว่า คิดว่าน่าจะเป็นการวางแผนเพราะมีการล็อกเป้าอย่างชัดเจน ถามต่อว่าในแชทของผู้ต้องหาที่ระบุถึงอดีตนายกรัฐมนตรีของประเทศไทย จะมีการตรวจสอบหรือไม่ พล.ต.ท.สยาม กล่าวว่า ตรงนี้จะต้องรอสอบสวนก่อน แต่เบื้องต้นตำรวจยังไม่ได้มีข้อมูลในเรื่องนี้
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี