กองทุนเพื่อความเสมอภาคทางการศึกษา (กสศ.) นำตัวแทนเด็กๆ จากโครงการ Thailand Zero Dropout ที่ได้รับการช่วยเหลือให้กลับสู่เส้นทางการเรียนรู้ที่ยืดหยุ่น มีทางเลือก ตอบโจทย์ชีวิต เข้าพบนางสาวแพรทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ในงานวันเด็กแห่งชาติ 2568 ซึ่งจัดขึ้นที่ทำเนียบรัฐบาล
โดย นางสาวไลลา ไชยสุนทรี อายุ 15 ปี ตัวแทนเด็กๆ กล่าวขอบคุณนายกรัฐมนตรี ที่มีนโยบายช่วยเหลือเด็กนอกระบบทุกคนได้มีโอกาสเลือกเส้นทางการเรียนรู้ด้วยตัวเอง และกลับมามีเป้าหมายในชีวิตอีกครั้ง
และได้มอบตุ๊กตาครอบครัวนายกรัฐมนตรี ผลงานของเด็ก ๆ จากศูนย์การเรียนชุมชน จังหวัดบึงกาฬ เป็นของขวัญแทนคำขอบคุณจากเด็ก ๆ และ จดหมายของเด็กๆ ถึงนายกรัฐมนตรี ขอบคุณที่สร้างโอกาสการศึกษา เพื่อเด็กทุกคนได้กลับมาเรียน
ทั้งนี้ นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี เป็นประธานเปิดงานวันเด็กแห่งชาติประจำปี 2568 ณ ทำเนียบรัฐบาล ภายใต้ธีม “ร่วมคิด ร่วมสร้าง ร่วมวางอนาคต” พร้อมให้โอวาทแก่เด็กและเยาวชน ว่าวันเด็กปีนี้ได้มอบคำขวัญไว้ว่า “ทุกโอกาส คือ การเรียนรู้ พร้อมปรับตัวสู่อนาคตที่เลือกเอง” ขอให้เยาวชนมีสิทธิเลือกอนาคตของตนเอง โดยให้ผู้ใหญ่ที่มีประสบการณ์ คอยให้คำปรึกษา เลือกอนาคตที่เราชอบด้วยคุณค่าที่ตนเองมี
นายกฯ กล่าวว่า รัฐบาลมุ่งมั่นในการสร้างระบบหลักประกันโอกาสทางการศึกษาและพัฒนาทุนมนุษย์ที่มีคุณภาพ ซึ่งในขั้นแรกจะรื้อฟื้นและออกแบบการให้ทุน ODOS ในรูปแบบใหม่ โดยมุ่งกระจายโอกาสให้แก่นักเรียนที่มีฐานะยากจนและมีความสามารถด้านวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีในระดับมัธยมปลาย ปวช. ปวส. และมหาวิทยาลัย ทั้งในประเทศและต่างประเทศ จำนวนไม่ต่ำกว่า 1,000 ทุนต่อรุ่นทั่วประเทศ
ทั้งนี้ รัฐบาลจะเริ่มโครงการ “หนึ่งอำเภอหนึ่งทุนการศึกษาภาคฤดูร้อน” เพื่อเปิดโอกาสให้เยาวชนจากทุกอำเภอทั่วประเทศได้เข้าถึงการเรียนรู้กับมหาวิทยาลัยและบริษัทเทคโนโลยีชั้นนำระดับโลก โดยเชื่อว่าจะเป็นการเปิดโลกให้เด็ก ๆ ได้รู้เท่าทันกับการเปลี่ยนแปลงของโลกยุคใหม่
พร้อมผลักดันนโยบาย “Thailand Zero Dropout” ที่มุ่งเน้นให้เด็กทุกคนได้เรียน โดยจะขยายผลการค้นหาและช่วยเหลือเด็กและเยาวชนที่หลุดจากระบบการศึกษา ให้มีทางเลือกที่ตอบโจทย์ชีวิต และโอกาสพัฒนาเต็มศักยภาพ ควบคู่ไปกับการทำงานเพื่อมีรายได้เสริมในระหว่างการศึกษา เพื่อให้ประเทศไทยเป็นพื้นที่แห่งโอกาสสำหรับทุกคนอย่างเสมอภาคและเท่าเทียม
“โดยจะเดินหน้านโยบาย Thailand Zero Dropout เด็กทุกคนต้องได้เรียน ที่ริเริ่มโดย นายเศรษฐา ทวีสิน อดีตนายกรัฐมนตรี อย่างต่อเนื่อง โดยในปี 2568 นี้ รัฐบาลได้ขยายผลการค้นหาและช่วยเหลือเด็กและเยาวชน ที่หลุดจากระบบการศึกษา จาก 25 จังหวัด ในปี 2567 เป็น 77 จังหวัดทั่วประเทศ ให้สมกับที่ประเทศไทยเป็นพื้นที่แห่งโอกาสของทุกคนอย่างเสมอภาคและเท่าเทียมอย่างแท้จริง” นายกรัฐมนตรี กล่าว
ทั้งนี้ โดยปัจจุบันรัฐบาลได้ช่วยเหลือเด็กและเยาวชนนอกระบบการศึกษา กลับมาเรียนจำนวน 304,083 คน
ด้าน ด.ช.เมธา โสดาวงษ์ นักเรียนระบบ Mobile School ศูนย์การเรียน CYF กล่าวว่า ตนเองออกจากโรงเรียนตอน ม.ต้น เนื่องจากปัญหาครอบครัว ทำให้ต้องหยุดเรียนไป 2 ปี ระหว่างนั้น ไปรับจ้างทำเกษตรเพื่อช่วยเหลือครอบครัว และพยายามเรียนรู้การเป็นช่างซ่อมมอเตอร์ไซต์ จนได้รับการช่วยเหลือแนะนำให้กลับมาเรียน Mobile School ห้องเรียนเติมฝัน เป็นหลักสูตรที่ใช้ประสบการณ์การทำงาน การเรียนรู้ในชีวิตประจำวัน และเรียนออนไลน์กับคุณครูอาทิตย์ละ 3 วัน ทำให้ตนกำลังจะเรียนจบม.3 ในเดือนเมษายนนี้ ตั้งใจว่า จะเรียนสายอาชีพในสาขาช่าง
“โอกาสที่ได้กลับมาเรียนครั้งนี้ ทำให้ผมมองเห็นอนาคตของตัวเอง ผมขอพูดเพื่อเพื่อนๆ พี่ๆน้องๆ เด็กที่หลุดจากระบบการศึกษาทุกคน พวกเราทุกคนมีศักยภาพ มีความฝัน ขอให้รัฐบาลช่วยเหลือพวกเราทุกคนให้ได้มีโอกาสเหมือนที่ผมได้รับครับ”
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี