กทม.เตรียมงัด “3 ยาแรง”สู้ปัญหาฝุ่นพิษ PM2.5 “ห้ามรถ-ห้ามเรียน-ห้ามทำงาน” หากคุณภาพอากาศอยู่ในขั้นเป็นอันตรายต่อสุขภาพประชาชน

เมื่อวันที่ 12 มกราคม 2568 เฟซบุ๊ก “กรุงเทพมหานคร”โพสต์ข้อความระบุว่า ฝุ่นPM2.5 ในพื้นที่กรุงเทพฯ มีสาเหตุมาจาก 3ปัจจัยหลัก ๆ คือ รถยนต์ การเผาในที่โล่ง และสภาพอากาศที่ปิดทำให้เหมือนเป็นฝาชีครอบไม่สามารถระบายฝุ่นได้ เมื่อ 3ปัจจัยเกิดขึ้นพร้อมกัน จะทำให้เกิดฝุ่น PM2.5 ในระดับที่ส่งผลกระทบต่อสุขภาพของประชาชน เมื่อค่าฝุ่นสูงอยู่ในขั้นวิกฤต กทม.จะดำเนินมาตรการเข้มข้น เพื่อแก้ไขปัญหาฝุ่น ดูแลสุขภาพประชาชน เพิ่มยาแรง ฝุ่นแรงเบอร์ไหนไปดูกัน 1.ค่าฝุ่นเป็นสีแดง 5เขต 2.พยากรณ์ฝุ่นล่วงหน้า 2วันพบว่า ค่าฝุ่นเป็นสีแดง อย่างน้อย 5เขต หรือเป็นสีส้ม อย่างน้อย 15เขต 3.อัตราการระบายอากาศน้อยกว่า 3,000ตารางเมตรต่อวินาที ฝุ่นมาเบอร์นี้ เจอ กทม.ป้าย3ยาแรงแน่นอน

โดสที่1.ห้ามรถ ห้ามรถตั้งแต่ 6 ล้อขึ้นไป ยกเว้นรถที่อยู่ใน บัญชีสีเขียว (รถที่มีการดูแลรักษาเครื่องยนต์ ได้แก่ เปลี่ยนน้ำมันเครื่องและไส้กรอง) ตามมาตรการ Low Emission Zone เข้ากรุงเทพฯ ชั้นในหรือวงแหวนรัชดาภิเษก โดสที่ 2.ห้ามเรียน กรุงเทพมหานคร จะประกาศปิดโรงเรียนสังกัด กทม.โดสที่3 ห้ามทำงาน ประกาศ Work From Home ขอความร่วมหน่วยงานภาคเอกชน ภาครัฐ ทำงานที่บ้าน ลดการเดินทาง ลดการปล่อย PM 2.5 หากเมื่อไหร่ที่ค่าฝุ่น PM2.5 เพิ่มอยู่ในขั้นวิกฤต กทม.พร้อมเดินหน้าป้าย 3 ยาแรงแน่นอน

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อช่วงเช้าวันที่ 12 มกราคม ศูนย์ข้อมูลคุณภาพอากาศกรุงเทพมหานคร รายงานสถานการณ์ฝุ่นละอองขนาดไม่เกิน 2.5 ไมครอน (PM2.5) ของสถานีตรวจวัดคุณภาพอากาศของกรุงเทพมหานคร ประจำวันที่ 12 ม.ค.68 เมื่อเวลา 07.00 น. พบว่า ค่าเฉลี่ย 24 ชั่วโมง ของฝุ่น PM2.5 อยู่ที่ 22.2 ไมโครกรัม/ลูกบาศก์เมตร โดยระบุว่า สถานการณ์ฝุ่น PM2.5 ของกรุงเทพฯ ในวันนี้ ส่วนใหญ่เป็นสีเขียว ไม่เกินค่ามาตรฐานทุกพื้นที่ ดัชนีคุณภาพอากาศของสถานีตรวจวัดของกรุงเทพมหานคร ส่วนใหญ่อยู่ในระดับคุณภาพอากาศดี