เค้นสอบ‘จ่าเอ็ม’
เจ้าตัวยังปิดปาก
เอ่ยถึงผู้มีพระคุณ
คุมฝากขัง13ม.ค.
ตร.เค้นสอบ “จ่าเอ็ม” เจ้าตัวเครียดจัด ไม่ยอมเปิดปากถึงผู้มีพระคุณ-คนชี้เป้า พนักงานสอบสวนต้องเลิกสอบปากคำกลางดึก เหตุผู้ต้องหาสภาพร่างกายอิดโรย รอประเมินก่อนสอบอีกครั้งจ่าเอ็มไม่ขอพบแม่-ครอบครัว แจ้งทนายไม่ประสงค์ขอประกันตัว ด้านตำรวจพร้อมคุมตัวส่งฝากขังศาลอาญา 13 ม.ค.นี้
เมื่อวันที่ 12 มกราคม ผู้สื่อข่าวรายงานความคืบหน้ากรณีที่ทางการกัมพูชาส่งตัวนายเอกลักษณ์ หรือจ่าเอ็ม อายุ 41ปี อดีตทหารเรือ ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลอาญา ภายหลังก่อเหตุยิง นายลิมกิมยา อดีตส.ส.ฝ่ายค้าน กัมพูชา กลับมาดำเนินคดีในประเทศไทย โดยทาง พล.ต.ท.สมประสงค์ เย็นท้วม ผู้ช่วย ผบ.ตร. พล.ต.ท.สยาม บุญสม ผบช.น. พล.ต.ต.ธีรเดช ธรรมสุธีร์ ผบก.สส.บช.น.นำกำลัง เดินทางไปรับตัวถึงด่านชายแดน ต.คลองลึก อ.อรัญประเทศ จ.สระแก้ว ขึ้นเฮลิคอปเตอร์ กลับมายัง กทม.เพื่อคุมตัวไปสอบปากคำที่ สน.ชนะสงคราม เมื่อวันที่ 11 มกราคมที่ผ่านมา ว่า ภายหลังมีการคุมตัวจ่าเอ็ม ไปสอบสวน ทาง ผบช.น.ร่วมกับคณะพนักงานสอบสวนได้สอบปากคำจ่าเอ็ม ในหลายประเด็นซึ่งจะต้องมีการขยายผลทางคดี
ผู้สื่อข่าวรายงานด้วยว่า พ.ต.อ.สนอง แสงมณี ผกก.สน.ชนะสงคราม ได้สั่งการให้ พ.ต.ท.เอกภณ พุทธิกุล รองผกก.ป.สน.ชนะสงคราม จัดกำลังเจ้าหน้าที่ฝ่ายปราบปราม คอยดูแลรักษาความปลอดภัยอย่างเข้มงวด และคอยเฝ้าระวังจับตาดูความเคลื่อนไหวของจ่าเอ็ม ภายในห้องขัง พร้อมกับไม่ให้ผู้ที่ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องหรือบุคคลภายนอกขึ้นไปในบริเวณชั้น 2 ห้องควบคุมผู้ต้องหาของ สน.ชนะสงคราม
ทั้งนี้ จากการสอบถามเจ้าหน้าที่ตำรวจผู้ดูแลห้องควบคุมผู้ต้องหา ทราบว่าจ่าเอ็ม มีอาการเคร่งเครียดอย่างเห็นได้ชัด ได้ขอบุหรี่สูบแทบทั้งคืน แต่รับประทานอาหารพอได้และนอนหลับได้บ้าง
ด้าน พล.ต.ต.อัฏธพร วงศ์ศิริปรีดา ผบก.น.1 เปิดเผยว่า พนักงานสอบสวนได้สอบปากคำจ่าเอ็ม
ในช่วงคืนที่ผ่านมา ซึ่งจ่าเอ็มมีท่าทีเคร่งเครียด แต่ให้การที่เป็นประโยชน์ต่อรูปคดี และได้แจกแจงรายละเอียดพฤติการณ์สามารถทำคำรับสารภาพประกอบวิดีโอที่เล่าพฤติการณ์ในทางคดีได้ครบถ้วน
อย่างไรก็ตาม จ่าเอ็มยืนยันว่าเป็นบุคคลตามกล้องวงจรปิดที่จับภาพได้ทั้งหมด แต่เมื่อสอบปากคำเชิงลึกถึงข้อมูลเกี่ยวกับบุคคลอื่น เช่น ผู้มีพระคุณหรือบุคคลผู้ชี้เป้า จ่าเอ็ม กลับไม่ได้ให้การที่เป็นประโยชน์ในประเด็นดังกล่าว โดยไม่ยอมตอบคำถามและต้องการสูบบุหรี่ แม้ว่าชุดคลี่คลายคดีจะพยายามใช้หลักจิตวิทยาในการพูดคุย แต่จ่าเอ็ม ก็ปฏิเสธที่จะให้ข้อมูลในเชิงลึกรวมทั้งยังมีอาการสับสนมึนงงว่าทำอะไรลงไปและมีท่าทีวิตกกังวลกลัวว่าบุคคลอื่นที่กล่าวถึงนั้นจะเดือดร้อน ทำให้พนักงานสอบสวนต้องประเมินอาการร่วมกับทนายความและแพทย์ ก่อนลงความเห็นว่าจ่าเอ็ม ยังมีอาการอ่อนเพลีย อิดโรย และเคร่งเครียด เนื่องจากภาวะพักผ่อนน้อย จึงไม่พร้อมให้ปากคำ ทางพนักงานสอบสวนจึงหยุดการสอบปากคำในเวลา 22.00 น.คืนที่ผ่านมา ก่อนจะให้เข้าห้องควบคุมตัว
สำหรับการควบคุมจ่าเอ็ม ได้มีเจ้าหน้าที่ทั้งฝ่ายสืบสวนและปราบปราม เฝ้าอยู่บริเวณหน้าห้องขังตลอดทั้งคืน มีการจัดหาผ้าห่มให้เนื่องจากสภาพอากาศหนาวเย็น ทั้งนี้ เจ้าหน้าที่ได้คอยเฝ้าสังเกตุผ่านกล้องวงจรปิด พบว่าจ่าเอ็ม นอนหลับได้ตามปกติ ไม่มีทีท่าว่าจะทำร้ายตัวเอง ก่อนที่ช่วงเช้า ทางเจ้าหน้าที่ได้นำโจ๊กมาให้เป็นอาหารเช้า ซึ่งเจ้าตัวสามารถรับประทานได้เป็นปกติ
ต่อมา จ่าเอ็ม แจ้งต่อเจ้าหน้าที่ว่า ยังมีความวิตกกังวล และไม่พร้อมที่จะพบมารดาและญาติ เพราะไม่อยากให้มารดาต้องเสียใจและเมื่อรู้ว่ามารดาได้ออกตามหาถึง จ.สระแก้ว ก็ยิ่งทำให้จ่าเอ็มมีอาการเครียดอย่างมากส่วนเหตุการณ์ช่วงคืนที่ผ่านมา ที่มารดาและครอบครัว ไม่สามารถพบจ่าเอ็ม ได้นั้น ทางเจ้าหน้าที่ยืนยันว่าเป็นความต้องการของจ่าเอ็ม ไม่ได้มีการกีดกันจากเจ้าหน้าที่ และได้ให้จ่าเอ็ม ต่อสายพูดคุยกับมารดาทางโทรศัพท์ ทางจ่าเอ็มได้บอกกับมารดา ว่าขณะนี้ยังไม่พร้อมที่จะเจอและสำนึกผิดในสิ่งที่ทำลงไปจะขอรับโทษ เมื่อมารดาได้คุยแล้วก็ยอมเดินทางกลับ จากนั้นจ่าเอ็ม ยังแจ้งกับทนายความด้วยว่าจะไม่ขอยื่นประกันตัว พร้อมจะเข้าเรือนจำ
ส่วนความคืบหน้าในการสอบสวนเพื่อขยายผลทางคดี ทางเจ้าหน้าที่จะประเมินอาการว่าจ่าเอ็ม มีความรู้สึกผ่อนคลายแล้วหรือไม่ จากนั้นในช่วงบ่าย หากจ่าเอ็ม พร้อมจะให้การ ทางพนักงานสอบสวนก็จะสอบปากคำอีกครั้ง อย่างไรก็ตาม สำหรับคำให้การรับสารภาพก่อนหน้านี้ถือเป็นหลักฐานที่ใช้ประกอบสำนวนคดีได้ แม่ว่าจ่าเอ็ม จะไม่ประสงค์ทำแผนประกอบคำรับสารภาพ
ผบก.น.1 กล่าวยืนยันว่า ทางตำรวจได้ทำคดีนี้ตามกรอบกฎหมายและเป็นไปตามรูปคดีอย่างชัดเจน ซึ่งหลังจากนี้ทั้งฝ่ายสืบสวนและสอบสวนจะทำเตรียมพยานหลักฐาน เพื่อสืบสวนหาบุคคลที่เป็นผู้มีพระคุณและอยู่เบื้องหลังจ่าเอ็ม โดยเฉพาะข้อมูลจากโทรศัพท์ของจ่าเอ็ม เมื่อสามารถพิสูจน์ทราบได้แล้วว่าเป็นใคร ก็จะเรียกบุคคลนั้นมาสอบปากคำต่อไป ขณะที่ในวันที่ 13 มกราคมนี้ พนักงานสอบสวน สน.ชนะสงคราม จะคุมตัวจ่าเอ็ม ไปขออำนาจศาลอาญา ฝากขัง โดยคัดค้านการประกันตัว เนื่องจากเกรงว่าผู้ต้องหาจะหลบหนี และเข้าไปยุ่งเหยิงกับพยานหลักฐาน แต่ก็ทราบว่าผู้ต้องหาไม่ประสงค์จะขอประกันตัวด้วย
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี