กรมอุตุฯ เผยทั่วไทยอากาศหนาวถึงหนาวจัด อุณหภูมิลดลงอีก โดยที่อุทยานแห่งชาติภูเรือ จ.เลย อุณหภูมิในช่วงเช้าลดต่ำสุดเหลือเพียง 0 องศาฯ ส่วน กทม.ต่ำสุด 16 องศาฯ ด้านฝุ่น PM2.5 เมืองกรุง พุ่งไม่หยุด 5 เขตอ่วมหนัก ‘คลองสามวา’ ครองแชมป์ นายกฯ ย้ำเร่งแก้ปัญหาต่อเนื่อง

เมื่อวันที่ 13 มกราคม กรมอุตุนิยมวิทยา พยากรณ์อากาศว่า ประเทศไทยมีอากาศเย็นถึงหนาว โดยประเทศไทยตอนบนและภาคใต้ตอนบน จะมีอุณหภูมิลดลง กับมีลมแรง สำหรับบริเวณยอดดอยและยอดภูมีอากาศหนาวถึงหนาวจัด โดยยังส่งผลกระทบถึงวันที่ 27 มกราคมนี้ ขอให้ประชาชนบริเวณดังกล่าวดูแลรักษาสุขภาพเนื่องจากสภาพอากาศที่หนาวเย็นลง และระวังอันตรายจากอัคคีภัยที่อาจจะเกิดขึ้นเนื่องจากอากาศแห้งและลมแรง ทั้งนี้ เนื่องจากบริเวณความกดอากาศสูงหรือมวลอากาศเย็นกำลังแรง ได้แผ่ลงมาปกคลุมประเทศไทย

สำหรับมรสุมตะวันออกเฉียงเหนือกำลังแรงพัดปกคลุมอ่าวไทย ภาคใต้ และทะเลอันดามัน ทำให้ภาคใต้ ยังคงมีฝนฟ้าคะนองบางแห่ง สำหรับคลื่นลมบริเวณอ่าวไทยและทะเลอันดามันมีกำลังแรง โดยอ่าวไทยมีคลื่นสูงประมาณ 2-4 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงกว่า 4 เมตร ส่วนทะเลอันดามันมีคลื่นสูง 1-2 เมตร ห่างฝั่งคลื่นสูง 2-3 เมตร และบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงกว่า 3 เมตร ขอให้ประชาชนที่อาศัยอยู่บริเวณชายฝั่งภาคใต้ฝั่งตะวันออก ระวังอันตรายจากคลื่นที่ซัดเข้าหาฝั่ง ชาวเรือควรเดินเรือด้วยความระมัดระวังและหลีกเลี่ยงการเดินเรือในบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนอง สำหรับชาวเรือบริเวณอ่าวไทยและทะเลอันดามันควรงดออกจากฝั่ง

ส่วนสภาวะอากาศที่มีผลต่อการสะสมฝุ่นละอองในระยะนี้ ประเทศไทยตอนบนมีการสะสมฝุ่นละออง/หมอกควันอยู่ในเกณฑ์ดีถึงปานกลาง เนื่องจากมีลมแรง ทำให้การระบายอากาศดีขึ้น

พยากรณ์อากาศสำหรับประเทศไทย ภาคเหนือ อากาศหนาวถึงหนาวจัด และอุณหภูมิจะลดลงอีก 1-2 องศาเซลเซียส อุณหภูมิต่ำสุด 7-14 องศาฯ บริเวณยอดดอยอากาศหนาวถึงหนาวจัด และมีน้ำค้างแข็งบางแห่ง อุณหภูมิต่ำสุด 2-7 องศาฯ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ อากาศหนาวถึงหนาวจัดกับมีลมแรง และอุณหภูมิจะลดลงอีกเล็กน้อย อุณหภูมิต่ำสุด 6-13 องศาฯ บริเวณยอดภูอากาศหนาวถึงหนาวจัด อุณหภูมิต่ำสุด 2-7 องศาฯ ภาคกลาง อากาศเย็นกับมีลมแรง และอุณหภูมิจะลดลงอีกเล็กน้อย อุณหภูมิต่ำสุด 14-17 องศาฯ ภาคตะวันออก อากาศเย็นกับมีลมแรง และอุณหภูมิจะลดลงอีกเล็กน้อย อุณหภูมิต่ำสุด 14-19 องศาฯ ทะเลมีคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร ห่างฝั่งคลื่นสูงกว่า 2 เมตร

ภาคใต้ (ฝั่งตะวันออก) ทางตอนบนของภาค อากาศเย็นกับมีลมแรง และอุณหภูมิจะลดลงอีกเล็กน้อย ส่วนทางตอนล่างของภาค มีฝนฟ้าคะนองร้อยละ 20 ของพื้นที่ ส่วนมากบริเวณ จ.สงขลา ปัตตานี ยะลา และนราธิวาส อุณหภูมิต่ำสุด 18-25 องศาฯ ตั้งแต่ จ.สุราษฎร์ธานี ขึ้นมา ลมตะวันออกเฉียงเหนือ ความเร็ว 20-40 กม./ชม.ทะเลมีคลื่นสูง 2-3 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงกว่า 3 เมตร ตั้งแต่ จ.นครศรีธรรมราช ลงไป ลมตะวันออกเฉียงเหนือ ความเร็ว 20-45 กม./ชม.ทะเลมีคลื่นสูง 2-4 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงกว่า 4 เมตร ภาคใต้ (ฝั่งตะวันตก) มีฝนฟ้าคะนองร้อยละ 10 ของพื้นที่ ส่วนมากบริเวณ จ.ตรัง และสตูล อุณหภูมิต่ำสุด 22-25 องศาฯ ลมตะวันออกเฉียงเหนือ ความเร็ว 20-40 กม./ชม.ทะเลมีคลื่นสูง 1-2 เมตร ห่างฝั่งคลื่นสูง 2-3 เมตร และบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงกว่า 3 เมตร

ขณะที่ กทม.และปริมณฑล อากาศเย็นกับมีลมแรง และอุณหภูมิจะลดลงอีกเล็กน้อย อุณหภูมิต่ำสุด 16-19 องศาฯ ลมตะวันออกเฉียงเหนือ ความเร็ว 10-30 กม./ชม.

ที่ จ.พะเยา วันเดียวกัน ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สภาพอากาศหนาวเย็นจัด อุณหภูมิต่ำสุดอยู่ที่ 8-10 องศาฯ ติดต่อกันเป็นวันที่ 2 ทำให้ชาวบ้านต้องพากันผิงไฟ สวมใส่เสื้อกันหนาว

ส่วนที่ จ.บุรีรัมย์ อากาศหนาวเย็นต่อเนื่อง และมีลมแรง อุณหภูมิเฉลี่ยอยู่ที่ 11 องศาฯ ในช่วงเช้าตรู่และช่วงค่ำ ซึ่งกระทบกับชาวบ้านโดยเฉพาะผู้สูงอายุในพื้นที่บ้านขามป้อม หมู่ 1 ต.บ้านดู่ อ.นาโพธิ์ จ.บุรีรัมย์ บุตรหลานต้องช่วยกันก่อไฟผิง ซึ่งคาดว่าอากาศจะหนาวเย็นลงอีกจนถึงช่วงปลายเดือนมกราคมนี้

ที่ จ.อำนาจเจริญ กระแสลมหนาวพัดเข้าพื้นที่อย่างรุนแรงติดต่อกันหลายวัน ส่งผลให้บ้านเรือนชาวบ้านได้รับความเสียหายหลายหลังคาเรือน ในพื้นที่ อ.เมือง อ.ชานุมาน อ.ปทุมราชวงศา อ.พนา และ อ.เสนางคนิคม ทั้งนี้ นายณรงค์ เทพเสนา ผวจ.อำนาจเจริญ ได้สั่งการให้เร่งสำรวจความเสียหาย เพื่อให้ความช่วยเหลือชาวบ้านที่ได้รับผลกระทบ พร้อมกับประสานหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เพื่อซ่อมแซมบ้านเรือนให้ชาวบ้าน และเคลียร์สิ่งกีดขวางในพื้นที่ประสบภัยด้วย

สำหรับสภาพอากาศโดยทั่วไปยังคงหนาวเย็น อุณหภูมิอยู่ที่ 14-15 องศาฯ ขณะที่ยอดภูสิงห์-ภูผาผึ้ง เขตวนอุทยานฯ ซึ่งเป็นจุดที่สูงที่สุดใน จ.อำนาจเจริญ ตรวจวัดอุณหภูมิได้ 7 องศาฯ มีนักท่องเที่ยวพากันมามาสัมผัสอากาศหนาว ขึ้นไปกางเต็นท์นอนดูดาวยามค่ำ ชมทะเลหมอกรับตะวันในยามเช้า อย่างคึกคัก

ด้าน จ.เลย ผู้สื่อข่าวรายงานว่า บรรดาพ่อค้าแม่ค้า ที่ตลาดเช้าเทศบาลเมืองเลย ต่างพากันนำเสื้อกันหนาวมาสวมใส่ เนื่องจาก 2 วันที่ผ่านมา สภาพอากาศหนาวจัด อุณหภูมิลดลง โดยพื้นที่ราบในเขตเทศบาลเมืองเลย ตรวจวัดอุณหภูมิได้ประมาณ 6-7 องศาฯ ซึ่งเป็นสภาพอากาศที่หนาวที่สุดในรอบ 30 ปี

ขณะเดียวกัน น.ส.เนตรนภา งามเนตร หัวหน้าอุทยานแห่งชาติภูเรือ จ.เลย เปิดเผยถึงสภาพอากาศในพื้นที่ว่า ยังคงหนาวต่อเนื่อง โดยเช้าวันเดียวกันนี้ นักท่องเที่ยวต่างตื่นเต้นกับอุณหภูมิที่ลดต่ำสุดเหลือเพียง 0 องศาฯ ต่อเนื่องเป็นวันที่ 2 ส่งผลให้หนาวเหน็บแบบสะใจ ถูกใจนักท่องเที่ยวที่มาเยือนอุทยานแห่งชิตภูเรือ ซึ่งมีนักท่องเที่ยวกว่า 500 คน และคาดว่าอากาศจะหนาวต่อเนื่องในช่วง 4-5 วันจากนี้

วันเดียวกัน เพจเฟซบุ๊กศูนย์ข้อมูลคุณภาพอากาศกรุงเทพมหานคร รายงานสถานการณ์ฝุ่นละอองขนาดไม่เกิน 2.5 ไมครอน (PM 2.5) ใน กทม.ค่าเฉลี่ยอยู่ที่ 38.6 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร (มคก./ลบ.ม.) 5 อันดับเขตของ กทม.ที่มีค่าฝุ่น PM2.5 สูงสุด ได้แก่ 1.เขตคลองสามวา 49.9 มคก./ลบ.ม. 2.เขตมีนบุรี 46.5 มคก./ลบ.ม. 3.เขตคันนายาว 45.5 มคก./ลบ.ม. 4.เขตหนองจอก 45 มคก./ลบ.ม. และ 5.เขตหนองแขม 44.9 มคก./ลบ.ม.สำหรับคุณภาพอากาศอยู่ในระดับสีส้ม เริ่มมีผลกระทบต่อสุขภาพ

ส่วนข้อแนะนำทางสุขภาพ ประชาชนทั่วไป ให้ใช้อุปกรณ์ป้องกันตนเอง เช่น หน้ากากป้องกัน PM2.5 ทุกครั้งที่ออกนอกอาคาร จำกัดระยะเวลาในการทำกิจกรรมหรือการออกกำลังกายกลางแจ้งที่ใช้แรงมาก ควรสังเกตอาการผิดปกติ เช่น ไอ หายใจลำบาก ระคายเคืองตา ประชาชนกลุ่มเสี่ยง ใช้อุปกรณ์ป้องกันตนเอง เช่น หน้ากากป้องกัน PM2.5 ทุกครั้งที่ออกนอกอาคาร เลี่ยงการทำกิจกรรมหรือการออกกำลังกายกลางแจ้งที่ใช้แรงมาก ให้ปฏิบัติตามคำแนะนำของแพทย์ หากมีอาการผิดปกติให้รีบไปพบแพทย์

ขณะที่เว็บไซต์ IQAir รายงานสภาพอากาศใน กทม.มีผลกระทบต่อผู้ป่วย หรือผู้ที่มีร่างกายอ่อนแอ โดย กทม.มีภาพรวมค่าฝุ่นอยู่ที่ 148 AQI อยู่อันดับ 19 ของโลก

ที่ทำเนียบรัฐบาล น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี แถลงภายหลังประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ว่าได้เน้นย้ำในที่ประชุมถึงเรื่องฝุ่น PM2.5 โดยให้ทุกกระทรวง กำชับให้ดำเนินการตามที่สั่งการในที่ประชุม ครม.ในสัปดาห์ที่ผ่านมา โดยขอให้ทำอย่างจริงจังและต่อเนื่อง