จ.บุรีรัมย์ สถานการณ์ฝุ่น PM 2.5 เริ่มมีผลกระทบกับอากาศและต่อสุขภาพของประชาชน ติดต่อกันหลายวันอย่างต่อเนื่อง และมีแนวโน้มความรุนแรงมากขึ้น ขณะผู้ว่าฯ บุรีรัมย์ เต้น สั่งนายอำเภอทุกอำเภอ คุมเข้มปัญหามลพิษหมอกควันและไฟป่า ห้ามเผาโดยเด็ดขาดในทุกพื้นที่ หากพบฝ่าฝืนดำเนินการตาม กม.ทันที มีโทษทั้งจำและปรับ

14 ม.ค.68 นายปิยะ ปิจนำ ผู้ว่าราชการจังหวัดบุรีรัมย์ ได้ออกประกาศจังหวัดบุรีรัมย์ ลงวันที่ 13 มกราคม 2568 เรื่อง ห้ามเผาโดยเด็ดขาดในทุกพื้นที่จังหวัดบุรีรัมย์ ประจำปี 2568 ระบุว่า ด้วยสถานการณ์ฝุ่นละอองขนาดเล็ก (PM2.5) จังหวัดบุรีรัมย์ เริ่มมีผลกระทบต่อสุขภาพ ทำให้ส่งผลกระทบกับอากาศ และสุขภาพของประชาชน ติดต่อกันหลายวันอย่างต่อเนื่อง และมีแนวโน้มความรุนแรงมากขึ้นจะส่งผลกระทบที่เป็นอันตรายต่อสุขภาพของประชาชน อันมีสาเหตุมาจากการเผาในพื้นที่ป่าไม้ ป่าสงวนแห่งชาติ ป่าอนุรักษ์ ป่าชุมชน ที่สาธารณะ การเผาในพื้นที่เกษตรกรรม การเผาขยะในพื้นที่ชุมชน/เมือง พื้นที่ริมทาง ตลอดจนแหล่งกำเนิดมลพิษต่างๆ ในภาคอุตสาหกรรม และควันดำจากยานพาหนะ

ดังนั้นเพื่อเป็นการป้องกันและแก้ไขปัญหาไฟป่า หมอกควัน และฝุ่นละอองขนาดเล็ก(PM2.5) ไม่ให้มีผลกระทบต่อการดำรงชีวิตของประชาชน และมีคุณภาพอากาศที่ดี จังหวัดบุรีรัมย์จึงประกาศห้ามเผาโดยเด็ดขาดในทุกพื้นที่จังหวัดบุรีรัมย์ ประจำปี 2568 ภายใต้กฎหมายที่เกี่ยวข้อง และให้พนักงานเจ้าหน้าที่ บังคับใช้กฎหมายดำเนินคดีกับผู้ฝ่าฝืนซึ่งจะต้องได้รับโทษตามกฎหมายอย่างเด็ดขาด โดยให้หน่วยงานที่มีหน้าที่ควบคุมดูแลพื้นที่ในการกำกับดูแลทุกประเภท นายอำเภอทุกอำเภอ ผู้บริหาร และสมาชิกองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ผู้นำท้องที่ ให้ถือเป็นหน้าที่ที่ต้องสอดส่องดูแลเอาใจใส่ และร่วมชี้แจงให้ประชาชนในพื้นที่ปฏิบัติตามประกาศฉบับนี้อย่างเคร่งครัด รวมทั้งประสานพนักงานสอบสวน ดำเนินการตามกฎหมายที่เกี่ยวข้องกับผู้ฝ่าฝืนกระทำความผิดอย่างเคร่งครัดต่อไป

ทั้งนี้ ตั้งแต่บัดนี้เป็นต้นไป จนกว่าสถานการณ์ไฟป่า หมอกควัน และฝุ่นละอองขนาดเล็ก (PM2.5) จะเข้าสู่ภาวะปกติ

“หากผู้ใดยังฝ่าฝืนจุดไฟเผาหรือปล่อยให้ลุกลามไปในเขตอุทยานแห่งชาติ เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่า และเขตป่าสงวนแห่งชาติ จะมีความผิดตามกฎหมายว่าด้วยการป่าไม้ โทษจำคุกตั้งแต่ 2-15 ปี ปรับตั้งแต่ 20,000-150,000 บาท หรือผู้ใดกระทำให้เกิดไฟไหม้แก่วัตถุใดๆ แม้จะเป็นของตัวเอง จนน่าจะเป็นอันตรายแก่บุคคลอื่น ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 7 ปี ปรับไม่เกิน 14,000 บาท หากพบมีผู้ฝ่าฝืนก็จะดำเนินการตามกฎหมายอย่างเด็ดขาด”