"ชัชชาติ"ชวนแยกขยะ ลดค่าธรรมเนียม Kick off เริ่มลงทะเบียน"บ้านนี้ไม่เทรวม" ตั้งเป้าลดขยะ 1 พันตัน/วัน มั่นใจประชาชนแยกแล้ว กทม.ไม่เก็บรวม
เมื่อวันที่ 14 มกราคม 2568 นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร พร้อม นายพรพรหม วิกิตเศรษฐ์ ที่ปรึกษาของผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร และผู้บริหารด้านความยั่งยืนของกรุงเทพมหานคร นางสาวรนุช สวยค้าข้าว รองผู้อำนวยการสำนักสิ่งแวดล้อม แถลงความพร้อมการลงทะเบียน "บ้านนี้ไม่เทรวม : ลดขยะลดค่าธรรมเนียม" ทางแอปพลิเคชัน BKK Waste Pay ระบบรองรับการจัดเก็บขยะจากประชาชนที่ร่วมคัดแยกขยะ ตามข้อบัญญัญัติกรุงเทพมหานคร เรื่อง ค่าธรรมเนียมฯ (ฉบับใหม่) ชวนคนกรุงเทพฯ ลงทะเบียนแจ้งเข้าร่วมโครงการฯล่วงหน้าทางแอปพลิเคชัน BKK Waste Pay ตั้งแต่วันที่ 14 มกราคม 2568 พร้อมสร้างความมั่นใจประชาชนแยกแล้ว กทม.ไม่เก็บรวม โดยมีคณะผู้บริหาร สำนักสิ่งแวดล้อม ภาคีเครือข่ายร่วมงานแถลง ณ ห้องรัตนโกสินทร์ ศาลาว่าการ กทม. (เสาชิงช้า)
ผู้ว่าฯ ชัชชาติ กล่าวว่า "เป็นครั้งแรกของ กทม.ที่จะมีการแยกขยะกันทุกบ้าน อย่าไปเน้นที่เรื่องค่าธรรมเนียม 20 บาท เป็น 60 บาท หลายคนอาจไม่ได้สนใจ แต่จริงๆ แล้วที่สำคัญกว่าคือเป็นการช่วยโลก ช่วยเมือง ช่วยสิ่งแวดล้อม เพราะการให้แยกขยะลดค่าธรรมเนียมเพื่อเป็นแรงจูงใจ ผลประโยชน์ที่ได้มากกว่า 40 บาท ที่ลดไปอย่างมหาศาล ปัจจุบันเราเสียค่าเก็บและจัดการขยะ 7,000 ล้านบาทต่อปี ขณะที่เราเก็บค่าขยะได้ 500 ล้านบาท/ปี หัวใจคือไม่ใช่เก็บเพิ่มค่าขยะให้ได้ 7,000 ล้าน แต่ต้องลดค่าใช้จ่ายในการจัดการให้เหลือ 500 ล้านให้ได้ ซึ่งถ้าเราสามารถลดตรงนี้ไปได้ก็จะนำไปทำเรื่องการศึกษาสาธารณสุขให้ดีขึ้น ที่ผ่านมาขยะในกรุงเทพฯ เรามีประมาณวันละ 1 หมื่นตัน เกือบ 50% เป็นเศษอาหาร ทิ้งรวมกับขยะอื่นที่รีไซเคิลได้ ต้องทำให้เกิดการแยกขยะตั้งแต่ครัวเรือน ให้เหลือขยะที่นำไปจัดการน้อยที่สุด โดยขยะจะมาจาก 2 ส่วน คือ ผู้ประกอบการรายใหญ่ ใน 2 ปีที่ผ่านมาเราได้เริ่มโครงการไม่เทรวมมีเข้าร่วมแล้วกว่า 4,600 ราย สามารถลดขยะไปได้ 10% ต่อไปก็จะเน้นที่ผู้ประกอบการรายย่อยรวมถึงประชาชนทั่วไป ตั้งเป้าลดขยะให้ได้อีก 1,000 ตัน/วัน ไม่ใช่เรื่องง่ายเป็นเรื่องของนิสัยที่เราเปลี่ยนได้ เราทุกคนสามารถเริ่มแยกขยะได้ทันที ขอให้พวกเราช่วยกันขยะจะลดลงได้"
นายพรพรหม กล่าวถึงการเตรียมระบบรองรับ ว่า กรุงเทพมหานคร โดยสำนักสิ่งแวดล้อม ได้เตรียมระบบรองรับการรับชำระค่าธรรมเนียมหลังจากที่ประชาชนคัดแยกขยะ เพื่ออำนวยความสะดวกแก่ประชาชนในการตรวจสอบและชำระค่าธรรมเนียมมูลฝอย รวมถึงเข้าร่วมโครงการ "บ้านนี้ไม่เทรวม : ลดขยะลดค่าธรรมเนียม" การลงทะเบียนแบ่งเป็น 2 รูปแบบ ตามประเภทของแหล่งกำเนิด คือ 1.การลงทะเบียนแบบเดี่ยว สำหรับบ้านพักอาศัยทั่วไปที่มีปริมาณขยะไม่เกิน 20 ลิตรต่อวัน หรือไม่เกิน 4 กิโลกรัม ประกอบด้วย บ้านพักอาศัย หมู่บ้านจัดสรรและคอนโดมิเนียม/แฟลตที่ไม่มีนินิติบุคคล โดยเจ้าของบ้านหรือผู้เช่าที่ประสงค์เข้าร่วมโครงการฯ ลงทะเบียนด้วยตนเองทางแอปพลิเคชันและเว็บไซต์ BKK Waste Pay กรณีไม่มีสมาร์ทโฟนสามารถลงทะเบียนกับเจ้าหน้าที่ที่จัดเก็บค่าธรรมเนียมหรือลงทะเบียนที่สำนักงานเขตที่บ้านเรือนตั้งอยู่ เริ่มลงทะเบียนล่วงหน้าตั้งแต่วันที่ 14 มกราคม 2568 และระบบจะแจ้งเตือนให้ส่งภาพหลักฐานการคัดแยกขยะตั้งแต่วันที่ 1 สิงหาคม 2568 และเริ่มจัดเก็บค่าธรรมเนียมอัตราใหม่เมื่อข้อบัญญัติตีมีผลบังคับใช้ บ้านเรือนที่ลงทะเบียนจะได้รับถุงใส่ขยะเศษอาหารสำหรับ 1 ปีแรก ทั้งนี้ ระบบจะมีการสุ่มตรวจการคัดแยกขยะทุกๆ 3 เดือน สามารถดาวน์โหลดเพื่อใช้งานได้แล้ววันนี้ทั้งโนระบบ IOS : https://apps.apple.com/th/app/bkk-waste-pay/id1574454798 และระบบ Android : https://play.google.com/store/apps/details/id-com.wingplus.bkkpersonalap8ocampampaignid-web share
2.การลงทะเบียนแบบกลุ่ม สำหรับหมู่บ้านจัดสรร อาคารชุดพักอาศัย ที่มีนิติบุคคล และชุมชนตามระเบียบ กทม.ที่มีปริมาณขยะไม่เกิน 20 ลิตรต่อวันต่อหลังหรือต่อห้อง กลุ่มนี้จะเริ่มลงทะเบียนตั้งแต่วันที่ 1 สิงหาคม 2568 และเริ่มจัดเก็บค่าธรรมเนียมอัตราใหม่เมื่อข้อบัญญัติมีผลบังคับใช้ โดยสำนักงานเขตพื้นที่จะเชิญนิติบุคคลมาประชุมเพื่อแจ้งรายละเอียดและแนวทางการจัดที่พักรวมมูลฝอยที่คัดแยก 4 ประเภท รวมถึงขั้นตอนและวิธีการลงทะเบียน หลักฐานที่ต้องแนบ เช่น รายงานการประชุมลูกบ้านที่มีมติ รหัสประจำบ้าน (House ID) 11 หลัก และหลักฐานการใช้ประโยชน์ขยะ
ทั้งนี้ กรุงเทพมหานคร ได้จัดระบบรองรับขยะที่ประชาชนคัดแยก 1.ขยะเศษอาหาร ให้นำไปใช้ประโยชน์ ทำน้ำหมักชีวภาพ ปุ๋ยหมัก หรือเป็นอาหารสัตว์ หรือใส่ถุงสีเขียวมัดปากถุงให้แน่นทิ้งในถังเขียวหรือจุดทิ้งที่เขตกำหนด เพื่อรอสำนักงานเขตเข้าไปจัดเก็บตามรอบเวลา 2.ขยะรีไซเคิล เช่น ขวดพลาสติก ขวดแก้ว สามารถนำไปขายหรือแยกทิ้งให้กับสำนักงานเขต โดยฝากไปกับรถขยะของ กทม.หรือกิจกรรมเก็บขยะชิ้นใหญ่ทุกวันอาทิตย์ จัดตลาดนัดรีไซเคิลในชุมชน นอกจากนี้ ได้ประสานกับแอปพลิเคชันรับซื้อหรือรับบริจาคขยะ มารับขยะถึงหน้าบ้าน หรือสามารถขายให้กับร้านหรือรถรับซื้อของเก่า 3.ขยะอันตราย เช่น ถ่านไฟฉาย หลอดไฟ กระป๋องแก๊ส/กระป๋องสเปรย์ และยาหมดอายุ รวมใส่ถุงใสหรือถุงที่มองเห็นขยะด้านใน หรือเขียนข้อความติดที่ป้าย นำไปทิ้งในจุดทิ้งขยะอันตราย (ถังสีส้ม) ในชุมชน หมู่บ้าน สำนักงานเขต หรือฝากไปกับรถขยะของ กทม. หรือกิจกรรมเก็บขยะชิ้นใหญ่ทุกวันอาทิตย์ และ 4. ขยะทั่วไป เช่น ซองขนม เศษผ้า แก้ว กล่องโฟม ถุงพลาสติก ให้รวบรวมใส่ถุงใสหรือถุงที่มองเห็น มัดปากถุง ทิ้งลงถังขยะทั่วไปสีน้ำเงิน ในชุมชน/หมู่บ้าน รอการจัดเก็บตามที่สำนักงานเขตกำหนด
สำหรับข้อบัญญัติกรุงเทพมหานครว่าด้วยค่าธรรมเนียมการให้บริการในการจัดการสิ่งปฏิกูลหรือมูลฝอย (ฉบับใหม่) นี้ สภากรุงเทพมหานคร มีมติเห็นชอบร่างข้อบัญญัติฯ เมื่อวันที่ 30 ตุลาคม 2567 และจะมีผลบังคับใช้ภายหลังจากประกาศในราชกิจจานเษก 180 วัน ประมาณปลายปี 2568
- 006
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี