ระทึก! ผู้ต้องหายาเสพติด ขับรถ
ก่อนหนีจนมุมที่ นครนายก
สืบนครบาล ร่วมกับ ปส. ตำรวจทางหลวง สภ.องครักษ์ สกัดจับผู้ต้องหายาเสพติด ตัวการในคดียาบ้า 1 ล้านเม็ด 4 หมายจับหลบประเทศเพื่อนบ้าน เพิ่งกลับไทยได้ขับรถหลบหนีวิ่งชนตำรวจและประชาชน จนมุมนครนายก
เมื่อวันที่ 14 มกราคม 2568 เจ้าหน้าที่ กก.สส.3 บก.สส.บช.น. ร่วมกับ ตำรวจ บช.ปส. ตำรวจทางหลวงปราจีนุรี และ สภ.องครักษ์ ได้จับกุมตัว นายธวรรณชัย อายุ 35 ปี บุคคลตามหมายจับ 4 หมายจับ ดังนี้ 1. ศาลอาญาที่ 433/2562 ลงวันที่ 18 กันยายน 2562 ซึ่งต้องหาว่ากระทำคามผิดฐาน “ร่วมกันมียาเสพติดให้โทษประเภท 1 (ไอซ์,ยาบ้า,เฮโรอีน) ไว้ในครอบครองเพื่อจำหน่ายโดยไม่ได้รับอนุญาต,ร่วมกันมีวัตถุออกฤทธิ์ต่อจิตและประสาทประเภท 2 (คีตามีน) ไว้ในครอบครองเพื่อขายโดยไม่ได้รับอนุญาต,สมคบโดยการตกลงกันตั้งแต่สองคนขึ้นไปกระทำความผิดเกี่ยวกับยาเสพติด และได้กระทำความผิดเกี่ยวกับยาเสพติดเพราะเหตุทำการสมคบกันแล้ว” 2. ศาลอาญาที่ 435/2562 ลงวันที่ 19 กันยายน 2562 ซึ่งกระทำความผิดฐาน “ร่วมกันมียาเสพติดให้โทษประเภท 1 (ยาไอซ์หรือเมทแอมเฟตามีน) ไว้ในครอบครองเพื่อจำหน่ายไม่ได้รับอนุญาตและสมคบโดยตกลงกันตั้งแต่สองคนขึ้นไปเพื่อการกระทำความผิดเกี่ยวกับยาเสพติดและได้มีการกระทำความผิดเกี่ยวกับยาเสพติดเพราะเหตุที่ได้มีการสมคบกัน 3. ศาลอาญาที่ 139/2563 ลงวันที่ 13 เมษายน 2563 ซึ่งกระทำความผิดฐาน “ร่วมกันมียาเสพติดให้โทษประเภท1(เมทแอมเฟตามีน)โดยผิดกฎหมาย สมคบกันกระทำความผิดเกี่ยวกับยาเสพติดและได้มีการกระทำความผิดเกี่ยวกับยาเสพติดเพราะเหตุได้มีการสมคบ 4. ศาลอาญาธนบุรีที่ 310/2566 ลงวันที่ 3 พฤษภาคม 2566 ซึ่งกระทำความผิดฐาน “สมคบกันโดยตกลงกันตั้งแต่สองคนขึ้นไป เพื่อกระทำความผิดร้ายแรงเกี่ยวกับยาเสพติดและได้กระทำความผิดร้ายแรงเกี่ยวกับยาเสพติดเพราะเหตุที่ได้มีการสมคบกัน ร่วมกันครอบครองยาเสพติดให้โทษชนิดร้ายแรงประเภท 1 (เมทแอมเฟตามีนหรือยาบ้า) เพื่อการค้าโดยไม่ได้รับอนุญาต และเป็นการทำให้เกิดผลกระทบต่อความปลอดภัยของประชาชนทั่วไป” จับกุม บริเวณแยกองครักษ์ ต.องครักษ์ อ.องครักษ์ จ.นครนายก
พฤติการณ์ในคดี ก่อนเกิดเหตุในคดีนี้ เจ้าหน้าที่ตำรวจได้จับกุม ผู้ต้องหารายหนึ่ง ที่ซอยสุขสวัสดิ์ 47 อ.พระประแดง จ.สมุทรปราการ พร้อมด้วยของกลางประมาณ 1 ล้านกว่าเม็ด ต่อมาจากการสืบสวนขยายผล ทราบว่า ผู้เป็นเจ้าของยาเสพติดและเป็นผู้สั่งการให้ส่งยาเสพติด คือ นายธวรรณชัย (ผู้ต้องหานี้) ซึ่งพฤติการณ์ของเครือข่ายนี้ คือ หากมีการติดต่อซื้อขายยาเสพติด นายธวรรณชัย จะแจ้งยอดปริมาณยาเสพติดให้ลูกน้องทราบ จากนั้นจะให้ผู้เก็บรักษายาเสพติด นำยาเสพติดไปวางหรือไปส่งตามสถานที่ที่ได้นัดหมายกับผู้รับ
หลังจาก นายธวรรณชัย ได้ทราบว่า เครือข่ายลูกน้องของตนได้ถูกจับกุม จึงได้หลบหนีไปอยู่ที่ประเทศพม่า ต่อมาหลังปีใหม่ 2568 ได้แอบกลับเข้ามาประเทศไทย เจ้าหน้าที่ตำรวจได้สืบสวนทราบว่า นายธวรรณชัยฯ ได้หลบหนีไปซ่อนตัวอยู่ที่ ต.คลองสาม อ.คลองหลวง จ.ปทุมธานี จึงได้วางแผนเข้าทำการจับกุม
ต่อมาวันที่ 14 มกราคม 2568 เวลาประมาณ 15.20 น. เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดจับกุม พบนายธวรรณชัย บุคคลตามหมายจับ ขับรถอยู่บริเวณ ต.คลองสาม อ.คลองหลวง จ.ปทุมธานี เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงได้แสดงตัวเป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจ แต่ปรากฎว่านายธวรรณชัยฯ ได้ขับขี่รถยนต์หลบหนีจะพุ่งชนตำรวจ และประชาชน เจ้าหน้าที่จึงยิงสกัดที่ยางเพื่อให้รถหยุด จากนั้นคนร้ายหลบหนีขึ้นรถแท็กซี่ มุ่งหน้าจังหวัดนครนายก เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงไล่ติดตามและจับกุมตัวได้ ได้บริเวณแยกองครักษ์ ต.องครักษ์ อ.องครักษ์ จ.นครนายก จากนั้นควบคุมตัวนำส่ง พนักงานสอบสวน บช.ปส ดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
พล.ต.ต.ธีรเดช ธรรมสุธีร์ กล่าวว่า ผู้ต้องหายาเสพติด ตัวการในคดียาบ้า 1 ล้านเม็ด หลังได้ขับรถหลบหนีไล่ชนเจ้าหน้าที่ตำรวจและประชาชน จนต้องยิงยางสกัดเพื่อหยุดยั้ง และจับกุม และเพื่อความปลอดภัยของประชาชน แต่คนร้ายวิ่งหนีขึ้นแท็กซี่หลบหนี จนกระทั่งจับกุม ตัวได้ที่นครนายก เพราะผู้ต้องหาเป็นที่ต้องการตัวของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ เป็นตัวการค้ายาเสพติดรายสำคัญที่เราได้เฝ้าติดตามมานาน ขอเตือนให้ทุกคน อย่าเข้าไปยุ่งเกี่ยวยาเสพติด ชีวิตจะเปลี่ยนไปในทางเลวร้ายแน่นอน ถูกออกหมายจับต้องหนีซ่อนตัวไปตลอดชีวิต เงินที่ได้มาก็ถูกยึดทั้งหมด ส่งผลกระทบต่อครอบครัวแน่นอน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี