นายสิริพงศ์ อังคสกุลเกียรติ โฆษกกระทรวงศึกษาธิการ เปิดเผยความห่วงใยของ พล.ต.อ.เพิ่มพูน ชิดชอบ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ ถึงผู้เรียน ครูและบุคลากรทางการศึกษา ไปจนถึงหน่วยงานในสังกัดทั่วประเทศ เรื่องการรับมืออากาศหนาวเย็นจัดในประเทศไทยรอบสัปดาห์นี้ พร้อมเน้นย้ำดูแลสุขภาพจากภัยฝุ่นพิษ PM2.5 ที่แผ่คลุมหลายพื้นที่ หากโรงเรียนใดเข้าขั้นวิกฤตต้องการปิดการเรียนการสอนเพื่อความปลอดภัยของผู้เรียน ให้พิจารณาจัดสอนรูปแบบ On-site/On-hand/Online ตามความเหมาะสม
โฆษก ศธ. กล่าวว่า จากประกาศกรมอุตุนิยมวิทยาที่พบว่าช่วงสัปดาห์นี้อากาศหนาวเย็นที่สุดในรอบปีและรอบหลายปีที่ผ่านมาโรงเรียนทุกพื้นที่ทั่วประเทศควรตั้งรับอากาศหนาวเป็นพิเศษโดยเฉพาะโซนพื้นที่สูงที่มีอุณหภูมิหนาวจัดหรือมีลมหนาวกำลังแรงที่จะส่งผลกระทบต่อสุขภาพของผู้เรียน ครูและบุคลากรทางการศึกษา เพราะในกลุ่มเด็กและเยาวชนมีภูมิคุ้มกันและการตอบสนองต่อการเปลี่ยนแปลงของอุณหภูมิไม่แข็งแรงเท่าผู้ใหญ่ การดูแลสุขภาพจึงเป็นเรื่องที่สำคัญอย่างยิ่ง โรงเรียนควรกำชับให้ผู้เรียนสวมเสื้อกันหนาว ถุงมือ ผ้าพันคอ และหมวก เพื่อช่วยให้ร่างกายรักษาความอบอุ่นได้ดีขึ้น
ในช่วงหน้าหนาวของทุกปีหลายพื้นที่ในประเทศไทยมักเผชิญกับปัญหาฝุ่น PM2.5 จนถึงขั้นรุนแรง สาเหตุเกิดจาก “การล้อมเกาะของอากาศ” ทำให้ฝุ่นและมลพิษที่สะสมอยู่ในอากาศไม่สามารถกระจายออกไปได้และอยู่ในพื้นที่จุดนั้นเป็นเวลานานปริมาณฝุ่นในอากาศจึงสูงขึ้น เกิดผลกระทบต่อสุขภาพโดยเฉพาะกลุ่มผู้เรียนที่เปราะบางต่อการเจ็บป่วยและโรคทางเดินหายใจ ทำให้เด็กมีอาการแสบแน่นจมูก แสบตา ตาแดง มีไข้ ตัวร้อน หากทิ้งอาการเหล่านี้ไว้นานเด็กจะนอนกรน หลับไม่ลึก สมองขาดออกซิเจนทำให้ง่วง ความจำไม่ดี ส่งผลต่อการเรียน สมาธิสั้น มีพัฒนาการช้าหรือร้ายแรงสุดคือเสียหายถาวร
สิ่งสำคัญที่ต้องการเน้นย้ำคือหลีกเลี่ยงกิจกรรมกลางแจ้งที่เด็กต้องเผชิญกับฝุ่นและควันพิษโดยตรง เช่น การเข้าแถวหน้าเสาธงตอนเช้า การออกกำลังกายในที่โล่งแจ้ง กิจกรรมวิชาลูกเสือ ครูควรให้เด็กอยู่ภายในอาคารให้มากที่สุด หรือหากมีความจำเป็นควรสวมหน้ากากอนามัยที่ป้องกันฝุ่นละอองขนาด PM2.5 และหากค่าฝุ่นสูงจนถึงขั้นวิกฤตให้สถานศึกษาพิจารณา เปิด-ปิดการเรียนการสอนตามที่เห็นสมควร ขึ้นอยู่กับสถานการณ์ฝุ่นในพื้นที่เพราะมีความเข้มข้นของปริมาณค่าฝุ่นไม่เท่ากัน หากพื้นที่ใดอยู่ในระดับที่เป็นอันตรายอาจเรียน On-site ปกติที่โรงเรียน นำส่งเอกสารแบบ On-hand ที่บ้านนักเรียน เรียน Online หรือเรียนแบบผสมผสานหลายรูปแบบแล้วแต่การวางมาตรการของสถานศึกษาเพื่อหลีกเลี่ยงการให้เด็กต้องอยู่กลางแจ้งในสภาพอากาศที่มีมลพิษสูง
ขณะเดียวกันขอชื่นชมโรงเรียนบางแห่งที่ได้เตรียมมาตรการ “ห้องเรียนปลอดฝุ่น” ซึ่งมีการวางแผนที่ดีด้านระบบกรองอากาศที่ได้มาตรฐาน มีห้องปิดมิดชิด เสริมความปลอดภัยให้ห้องเรียนด้วยการใช้พัดลมดูดอากาศฉีดละอองน้ำจับฝุ่น เปิดช่องระบายให้อากาศถ่ายเทเล็กๆ เพื่อให้ฝุ่นเข้าได้น้อยที่สุด รวมถึงมีการสื่อสารสร้างการรับรู้ให้ผู้เรียนตระหนักถึงปัญหาฝุ่นพิษ พร้อมวางแนวทางการป้องกันและติดตามผลกระทบด้านสุขภาพ เพื่อให้เด็กสามารถใช้ชีวิตในช่วงวิกฤตและเรียนรู้ในสภาพแวดล้อมที่ปลอดภัยได้อย่างมีประสิทธิภาพ
“กระทรวงศึกษาธิการ เข้าใจถึงผลกระทบของมลพิษทางอากาศต่อสุขภาพผู้เรียน ครูและบุคลากรทางการศึกษาทุกคนจึงได้วางมาตรการปกป้องดูแล และมอบอำนาจให้โรงเรียนทั่วประเทศตัดสินใจได้อย่างอิสระในการปรับเปลี่ยนรูปแบบการเรียนการสอน การรับมือกับฝุ่น PM2.5 และอากาศหนาวในปีนี้ ถือเป็นการทดสอบความยืดหยุ่นและการปรับตัวของทุกภาคส่วนโดยเฉพาะอย่างยิ่งในระบบการศึกษา ซึ่งเราได้เตรียมมาตรการที่ช่วยให้โรงเรียนสามารถดูแลนักเรียนได้อย่างมีประสิทธิภาพ แม้ในสถานการณ์ที่ท้าทายเช่นนี้” โฆษก ศธ. กล่าว
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี