นายกฯ“อิ๊งค์”โดนเอง แก๊งคอลเซ็นเตอร์ แผนสูง ใช้ AI ปลอมเสียงผู้นำ หลอกให้โอนเงินบริจาคแต่ไหวตัวทัน ไม่ตกเป็นเหยื่อ สั่ง“ประเสริฐ” จัดการต่อ เตือน ปชช.อย่าถูกหลอก “จิราพร”พร้อมถกหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง หาช่องทาง
ดำเนินคดีผู้ผลิตสมาร์ทโฟนยัดไส้แอปฯ กู้เงิน ยัน สคบ.พร้อมดูแลผู้เสียหาย เผย มีแจ้งมาแล้ว 9 ราย ‘ประเสริฐ’ เผย ถึงเวลากำหนดมาตรการลงแอปในโทรศัพท์ เผยถาม ธปท.แล้ว ยังไม่ได้ขออนุญาตปล่อยเงินกู้
เมื่อเวลา 10.40 น. วันที่ 15 มกราคม 2568 ที่เมืองทองธานี น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์ภายหลังพิธีเปิดการประชุมสัมมนาและมอบนโยบายการจัดทำงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2569 ซึ่งนายกฯระบุในเวทีดังกล่าวว่าแม้เป็นนายกฯยังถูกแก๊งค์คอลเซ็นเตอร์สวมรอยว่าเป็นผู้นำบางประเทศโทรมาหลอกให้บริจาคเงิน ว่า โดนสวมรอยแยบยลและเนียนมาก โดยใช้เสียงเหมือนผู้นำ เป็นเสียงAI ซึ่งคอลเซ็นเตอร์ปกติที่เคยเจอจะเป็นแนวที่ใช้เบอร์โทรแปลกๆโทรมา ซึ่งนั่นทำให้เราทราบว่าเป็นคอลเซ็นเตอร์ แต่ครั้งนี้ที่โดนเป็นการใช้ AIไปเอาเสียง ของผู้นำประเทศมา โดยส่งคลิปมาก่อน เพื่อพูดคุยสอบถามว่าเป็นอย่างไรบ้าง และอยากทำงานร่วมกัน ซึ่งตนได้พิมพ์ตอบกลับไปโดยไม่ได้ส่งเสียง สักพักได้หายไปโดยระบุว่าจะติดต่อกลับมา จากนั้นได้โทรกลับมา แต่โชคดีที่โทรมาตอน 23.00 น. ซึ่งตนหลับไปแล้วจึงไม่ได้รับสาย พอมาเห็นตอนเช้ารู้สึกตกใจมากและส่งข้อความกลับไปว่าขอโทษที่ไม่ได้รับโทรศัพท์ และนัดเวลาว่าจะโทรหากี่โมง
จากนั้นคนร้ายก็ส่งคลิปมาอีกครั้งว่าขอให้บริจาค และย้ำว่าไทยเป็นประเทศในอาเซียนที่ยังไม่ได้บริจาคเลย ทำให้รู้สึกว่าไม่ใช่แล้ว เพราะมาเห็นบัญชีที่ส่งมาให้โอนเงินเป็นของอีกประเทศหนึ่ง จึงมั่นใจว่าเป็นคอลเซ็นเตอร์ จึงฝากนายประเสริฐ จันทรรวงทอง รองนายกรัฐมนตรีและรมว.ดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม ให้ช่วยดูต่อ เพราะการส่งมาเป็นแอปต่างประเทศไม่ใช่ไลน์ แต่ไม่แน่ใจว่าจะดูได้แค่ไหน
ผู้สื่อข่าวถามว่า ได้แจ้งไปถึงผู้นำประเทศนั้นหรือไม่ว่าโดนแอบอ้าง นายกฯ กล่าวว่า เรื่องนี้มีรายละเอียดที่มากกว่านั้น ที่จริงไม่ใช่อยู่ๆจะได้คอนแทคติดต่อกับตน แต่มีอีกคนที่โดนหลอกมาก่อน แต่คนก่อเหตุรู้ว่าคนที่โดนหลอกมีคอนเน็คชันกันกับตนก็เลยติดต่อมา สรุปคือคอลเซ็นเตอร์ได้คอนแทคมาจากคนอื่นอีกทอด เพราะหลอกมาหลายคนและแจ๊กพ็อตมาเจอที่ตน ทั้งนี้ขอเตือนภัยประชาชนว่าบางทีที่มีการแอบอ้างให้ระวัง เพราะเคยเจอสมัยที่ นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ยังไม่กลับมาที่ประเทศไทยและมีคนส่งมาว่า นายทักษิณแจกเงิน โดยมีเสียงของนายทักษิณพูดประกอบ ทั้งที่ตัวเองไม่ได้รับบริจาค มีเส้น หรือรับเงินอะไรทั้งสิ้น ดังนั้นอย่าให้ถูกหลอก ยืนยันว่าตนไม่มีไปรับตังค์อะไรทั้งสิ้นอย่าถูกหลอก เพราะเรื่องนี้ทำให้รู้สึกกังวลใจมาก
ด้าน นายประเสริฐ จันทรรวงทอง รองนายกรัฐมนตรีและรมว.ดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม กล่าวถึงกรณีดังกล่าวว่า เดิมไม่มีมาตรการกำกับดูแลตรงนี้ ฉะนั้นถึงเวลาที่ต้องกำหนดมาตรการ ในเรื่องการลงซอฟต์แวร์ หรือลงแอปพลิเคชันในโทรศัพท์มือถือหรือไอแพดต่างๆ ผู้สื่อข่าวถามว่าแสดงว่าตอนนี้ยังไม่สามารถที่จะเอาผิดบริษัททั้ง 2 ค่ายนี้ได้ใช่หรือไม่ นายประเสริฐ กล่าวว่า อยู่ระหว่างการตั้งข้อสังเกตของทั้ง2ค่ายนี้ คือเรื่องการขออนุญาตในเรื่องการกู้ยืมเงิน ซึ่งต้องขออนุญาตจาก ธปท. โดยการตรวจสอบเบื้องต้น ธปท. ยืนยันมาแล้วว่าไม่ได้ขอ และเรื่องของ พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ อาจจะต้องดูเข้าค่ายผิดข้อใดหรือไม่ และพ.ร.บ.คุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลด้วย
เมื่อถามว่ากฎระเบียบใหม่ที่จะออกมาจะเป็นรูปแบบไหน จะห้ามใส่แอปพลิเคชันที่ไม่จำเป็นเข้ามาในมือถือที่ซื้อมาใหม่ใช่หรือไม่ นายประเสริฐ กล่าวว่า แอปฯบางอย่างต้องได้รับการอนุญาตจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้องก่อน ตรงนี้จำเป็นต้องทำให้ถูกต้อง แต่ก็ยังมีแอปฯกูเกิล เสิร์ชที่เราหาข้อมูล ซึ่งติดมาแล้วไม่มีใครว่าอะไร ซึ่งก็มีหลายประเภท
เมื่อถามว่า จะต้องตรวจสอบมือถือรุ่นอื่นๆหรือไม่ นายประเสริฐ กล่าวว่า ต้องตรวจสอบ เมื่อถามว่ากรณีผู้ที่ได้รับความเสียหายไปแล้วจะช่วยเหลืออย่างไรได้บ้าง นายประเสริฐ กล่าวว่า ความเสียหายที่เกิดขึ้นตอนนี้ยังไม่มีผู้ใดมาแจ้งว่าเสียหายเป็นมูลค่าเท่าไหร่ เพียงแต่เป็นลักษณะก่อให้เกิดความรำคาญ และยังไม่สามารถปิดได้เท่านั้นเอง ยังไม่มีการแจ้งความดำเนินคดี เท่าที่เราทราบข้อมูลจากตำรวจ ฉะนั้นก็ต้องดู แต่อย่างไรก็ตาม ก็ต้องหาวิธีป้องกันในอนาคต
เมื่อถามว่าการที่ไม่ได้ขออนุญาตอย่างถูกต้องจะดำเนินการอย่างไร นายประเสริฐ กล่าวว่า ต้องดูเขามีธุรกรรมทางการเงินหรือยัง ตรงนี้เอามาประกอบ แต่ถ้าดูจากข่าวเหมือนกับว่ามีคนไปกู้แล้วทำนองนี้ ฉะนั้นถ้ามีแล้วก็ต้องเป็นหน้าที่ของหน่วยงานที่เกี่ยวข้องดำเนินการต่อไป เพราะเรื่องการกู้ยืมเงินต้องขออนุญาตจาก ธปท.ก่อน ซึ่งจากการตรวจสอบโดย ดีอี ได้สอบถามไปยัง ธปท. ได้รับการชี้แจงว่าแอปฯสินเชื่อความสุขยังไม่ได้ขออนุญาต
ที่เมืองทองธานี น.ส.จิราพร สินธุไพร รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์ว่า กรณีนี้ได้รับรายงานว่ามีข้อกฎหมายที่เกี่ยวข้องกับหลายหน่วยงาน อาทิ พ.ร.บ. ของ กสทช. กระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม (ดีอี) และธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) และในส่วนของ สคบ. ได้ประสานตำรวจกองบังคับการปราบปรามการกระทำผิดเกี่ยวกับการคุ้มครองผู้บริโภค (ปคบ.) หากมีผู้ร้องเรียนเข้ามา ก็จะดำเนินการแทนประชาชน ส่วนผู้ที่ร้องเรียนเข้ามาขณะนี้มี 9 ราย ขอแจ้งว่าหากใครถูกละเมิดสิทธิ์ หรือได้รับผลกระทบ ก็สามารถแจ้งมาทาง สคบ.ได้ ยินดีจะประสานหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง
เมื่อถามว่า ทั้ง 2 บริษัทต้องถูกดำเนินคดีอะไรหรือไม่ น.ส.จิราพร กล่าวว่า เบื้องต้นทราบว่าแอปฯ ทางการเงินต้องมีการจดทะเบียนกับธปท. เบื้องต้นตามที่นายประเสริฐ จันทรวงทอง รองนายกรัฐมนตรี และรมว.ดีอี ได้สอบสวนก็ยังไม่ได้จดทะเบียน ดังนั้น หากผิดก็ว่าไปตามผิด ส่วนอีกประเด็นคือ เรื่อง พ.ร.บ. คอมพิวเตอร์ ต้องดูข้อเท็จจริงว่าเป็นการละเมิดสิทธิส่วนบุคคลหรือไม่ เจ้าตัวได้ยินยอมให้มีการเผยแพร่ข้อมูลหรือไม่
เมื่อถามว่า ขณะนี้ยังไม่เริ่มดำเนินคดีใช่หรือไม่ น.ส.จิราพร กล่าวว่า เรื่องนี้เกี่ยวข้องกับหลายหน่วยงาน และหลายข้อกฎหมาย จึงต้องเชิญหน่วยงานมาสรุปข้อเท็จจริงก่อน รวมถึงจะพูดคุยเรื่องมาตรการในการป้องกันเพื่อไม่ให้เกิดเหตุซ้ำอีก เมื่อถามว่า มีผู้ที่ได้รับความเสียหายจากการกู้เงิน และได้รับผลกระทบจะดูแลอย่างไร น.ส.จิราพร กล่าวว่า สามารถเข้ามาร้องเรียนได้ หาก สคบ. ใช้กฎหมายของตัวเองได้ ก็จะดำเนินการให้ แต่หากไปถึงหน่วยงานอื่น ก็จะช่วยประสาน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี