กะเหรี่ยงย่ามใจข้ามชายแดนย้อนกลับมาขุดดินร่อนแร่ทองคำ กล้องวงจรปิดจับภาพส่งสัญญาณถึงเจ้าหน้าที่ อช.ทองผาภูมิ ก่อนนำกำลังบุกรวบได้ 2 ของกลางอุปกรณ์เพียบ
จากกรณีมีกลุ่มบุคคลแอบลักลอบเข้ามาแสวงหาประโยชน์ในพื้นที่อุทยานแห่งชาติ โดยแอบเข้าไปขุดดินร่อนแร่เพื่อหาธาตุทองคำในท้องที่ป่าบ้านปิล๊อกคี่ ช่องทางป่าหมาก-ยาพู ท้องที่หมู่ที่ 4 ต.ปิล๊อก อ.ทองผาภูมิ จ.กาญจนบุรี เจ้าหน้าที่อุทยานแห่งชาติทองผาภูมิ นำโดยนายยุทธพงค์ ดำศรีสุข หัวหน้าอุทยานแห่งชาติทองผาภูมิ ร่วมกับอุทยานแห่งชาติเขาแหลม รวมทั้งนายชาคริต ตันพิรุฬห์ นายอำเภอทองผาภูมิ เจ้าหน้าที่ตำรวจสภ.ปิล๊อก เจ้าหน้าที่ทหารหน่วยเฉพาะกิจลาดหญ้า กกล.สุรสีห์ โดย ร.ท.เสกสรรค์ กุตโลกุล หัวหน้าชุด ชป.เรือบ้านท่าแพ (หน่วยทหารการข่าว) เจ้าหน้าที่ตำรวจตระเวนชายแดนที่ 135 ได้สนธิกำลังแบบบูรณาการ ออกตรวจปราบปรามการกระทำผิดเกี่ยวกับการป่าไม้และกฎหมายที่เกี่ยวข้อง
ครั้งนั้นสามารถตรวจยึดพื้นที่บุกรุกป่าเขาบ้านปิล๊อกคี่ มีลักษณะขุดดินเป็นหลุม ตรวจยึดพื้นที่บุกรุก เนื้อที่จำนวน 14-0-1 ไร่ พร้อมอุปกรณ์ในการกระทำผิด จำนวน 4 รายการ จากนั้นจึงจัดทำบันทึกเรื่องราวนำส่งพนักงานสอบสวนสถานีตำรวจภูธรปิล๊อก อ.ทองผาภูมิ ซึ่งจุดเกิดเหตุดังกล่าวเป็นพื้นที่ความมั่นคงระหว่างประเทศ ในเขตอุทยานแห่งชาติทองผาภูมิซ้อนทับป่าสงวนแห่งชาติป่าเขาช้างเผือก ห่างจากแนวเขตชายแดนไทย-พม่า ประมาณ 4 กิโลเมตร เหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นช่วงเดือน พ.ย.2567 ตามที่ได้เสนอข่าวไปแล้วนั้น
ล่าสุดวันนี้ (16 ม.ค.68) นายยุทธพงค์ ดำศรีสุข หัวหน้าอุทยานแห่งชาติทองผาภูมิ ได้รายงานนายชุติเดช กมนณชนุตม์ ผู้อำนวยการสำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ที่ 3 (บ้านโป่ง) ให้ทราบว่า เวลา 13.00 น.วันที่ 15 ม.ค.ต่อเนื่องถึงวันที่ 16 ม.ค.68 คณะพนักงานเจ้าหน้าที่ตามคำสั่งอำเภอทองผาภูมิ ที่ 329/2567 ลงวันที่ 19 พฤศจิกายน 2567 เรื่อง แต่งตั้งคณะทำงานการป้องกันและแก้ไขปัญหาการลักลอบขุดดินเพื่อร่อนหาแร่ทองคำในพื้นที่อำเภอทองผาภูมิ ภายใต้การอำนวยการของนายชาคริต ตันพิรุฬห์ นายอำเภอทองผาภูมิ เจ้าหน้าที่อุทยานแห่งชาติแห่งชาติทองผาภูมิ นำโดยนายพงศ์กร สีมา พนักงานพิทักษ์ป่า หัวหน้าชุดฯ เจ้าหน้าที่ทหารหน่วยเฉพาะกิจลาดหญ้า กกล.สุรสีห์ เจ้าหน้าที่ตำรวจตะเวนชายแดนที่ 135 ได้ร่วมออกปราบปรามการกระทำผิดกฎหมายว่าด้วยการป่าไม้ ในพื้นที่ป่าเขาข้างต้นอีกครั้งหนึ่ง
เจ้าหน้าที่ได้ดำเนินการวางแผนจับกุมผู้กระทำความผิดที่แอบลักลอบเข้าไปบุกรุกพื้นที่ดังกล่าวโดยการติดตั้งกล้องวงจรปิด ซึ่งสามารถส่งสัญญาณแจ้งเตือนกรณีพบบุคคลเข้าไปในแปลงดังกล่าวได้ จนกระทั้งวันที่ 13 - 15 ม.ค.68 คณะพนักงานเจ้าหน้าที่ได้รับสัญญาณแจ้งเตือนผ่านกล้องวงจรปิด พบกลุ่มบุคคล 6 – 10 คนได้เข้าไปในพื้นที่แปลงบุกรุก และได้ดำเนินการขุดดิน โดยมีการกระทำทั้งในช่วงกลางวันและกลางคืน ซึ่งเจ้าหน้าที่ได้ดำเนินการติดตามการกระทำดังกล่าว จนพบว่าในช่วงเช้าและช่วงบ่ายของวันที่ 15 มกราคม 2567 กลุ่มคนดังกล่าวได้ขนดินที่ขุดได้จากพื้นที่บุกรุกโดยบรรจุใส่กระสอบและทยอยนำออกจากพื้นที่ซึ่งตามวันเวลาดังกล่าวเจ้าหน้าที่ได้สนธิกำลังเจ้าหน้าที่หน่วยงานที่เกี่ยวข้องออกลาดตระเวนโดยการเดินเท้าและชุดเคลื่อนที่เร็วโดยรถจักรยานยนต์ ออกจากท้ายหมู่บ้านปิล๊อกคี่ ไปตามเส้นทางทำไม้เก่าลัดเลาะไปตามร่องห้วยและไหล่เขา ซึ่งเป็นป่ารกทึบ ไม่มีหมู่บ้านผ่านพื้นที่อุทยานแห่งชาติเขาแหลม ไปทางทิศตะวันตกประมาณ 16 กิโลเมตร และเข้าสู่เขตอุทยานแห่งชาติทองผาภูมิ ประมาณ 1 กิโลเมตร
เมื่อไปถึงคณะเจ้าหน้าที่ได้เข้าตรวจสอบ โดยสามารถจับกุมผู้กระทำความผิดที่แอบเข้าไปลักลอบขุดดินเพื่อหาแร่ทองคำได้ จำนวน 2 คน คือนายต้น ไม่มีนามสกุล เป็นบุคคลที่ไม่มีสถานะทางทะเบียน อายุ 43 ปี ที่อยู่ 4/ช หมู่ 8 ต.ไทรโยค อ.ไทรโยค จ.กาญจนบุรี และนายแอม ไม่มีนามสกุล ชาวกะเหรี่ยง มาจากประเทศพม่า อายุ 39 ปี พร้อมตรวจยึดของกลางและอุปกรณ์ในการกระทำความผิด 11 รายการ
ประกอบด้วย 1. ไฟฉายคาดหัว จำนวน 2 อัน 2. ย่ามสะพายข้างสีดำ จำนวน 1 ใบ 3. สิ่ว จำนวน 1 อัน 4. เหล็กสกัด จำนวน 3 อัน 5. ค้อนจำนวน 1 อัน 6. เรียงร่อนแร่ทำจากไม้ จำนวน 1 อัน 7. กระสอบสะพายหลังบรรจุดิน น้ำหนัก 8.5 กิโลกรัม 8. กระสอบปุ๋ยบรรจุดิน น้ำหนัก 9.2 กิโลกรัม (พบอยู่ในหลุม) 9. กระสอบปุ๋ยสีขาวฟ้า จำนวน 1 ใบ 10. กระเป๋าเป้สะพายหลัง จำนวน 1 ใบ และ 11.ก้อนหิน 1 ก้อน น้ำหนัก 6 กรัม
หลังจากเจ้าหน้าที่จับกุมตัวพร้อมตรวจยึดของกลางเอาไว้ได้ จึงนำตัวส่งพนักงานสอบสวน สภ.ปิล๊อก อ.ทองผาภูมิ ดำเนินคดีในความผิด 5 ฐานความผิด ประกอบด้วย 1.ฐาน “ก่อสร้าง แผ้วถาง หรือกระทำด้วยประการใดๆ อันเป็นการทำลายป่า หรือเข้ายึดถือครอบครองป่า เพื่อตนเองหรือผู้อื่นโดยมิได้รับอนุญาตจากพนักงานเจ้าหน้าที่” ตามพระราชบัญญัติป่าไม้ พุทธศักราช 2484 มาตรา 54 และมาตรา 72 ตรี วรรคสอง ประกอบมาตรา 55
2. ฐาน “ยึดถือ ครอบครอง ทำประโยชน์หรืออยู่อาศัยในที่ดิน ก่นสร้าง แผ้วถาง หรือกระทำด้วยประการใดๆ อันเป็นการเสื่อมเสียแก่สภาพป่าสงวนแห่งชาติ โดยมิได้รับอนุญาตจากพนักงานเจ้าหน้าที่” ตามพระราชบัญญัติป่าสงวนแห่งชาติ พ.ศ. 2507 มาตรา 14 และมาตรา 31 วรรคสอง (3)
3 ฐาน “ยึดถือหรือครอบครองที่ดิน รวมตลอดก่อสร้าง แผ้วถาง เผาป่า หรือกระทำด้วยประการใดๆให้เสื่อมสภาพหรือเปลี่ยนแปลงสภาพพื้นที่ไปจากเดิม ภายในเขตอุทยานแห่งชาติ โดยไม่ได้รับอนุญาตจากพนักงานเจ้าหน้าที่ ตามความในมาตรา 19(1) ประกอบมาตรา 41 แห่งพระราชบัญญัติอุทยานแห่งชาติ พ.ศ. 2562
4. ฐาน “เก็บหา กระทำด้วยประการใดๆ ให้เป็นอันตราย หรือทำให้เสื่อมสภาพซึ่ง ดิน หิน กรวด ทราย แร่ หรือทรัพยากรอื่น หรือกระทำการอื่นใดอันส่งผลกระทบต่อระบบนิเวศ ความหลากหลายทางชีวภาพ และทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม โดยไม่ได้รับอนุญาตจากพนักงานเจ้าหน้าที่ตาม ความในมาตรา 19 (2) และมาตรา 42 แห่งพระราชบัญญัติอุทยานแห่งชาติ พ.ศ. 2562
และ 5. ฐาน “เข้าไปดำเนินกิจการใดๆ เพื่อหาผลประโยชน์ โดยไม่ได้รับอนุญาตจากพนักงานเจ้าหน้าที่ ตามความในมาตรา 19 (6) และมาตรา 44 แห่งพระราชบัญญัติอุทยานแห่งชาติ พ.ศ.2562 - 003
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี