เตรียมตั้งคณะกรรมการแห่งชาติดูแล
ลุยพนัน‘ออนไลน์’
ยกร่างก.ม.ใหม่-คัดเจ้ามือ-เพิ่มโทษ
อดีตสว.สมชายปลุกคนไทย
แสดงจุดยืนต่อต้าน‘กาสิโน’
มท.1 แจงดันพนันออนไลน์ขึ้นบนดิน ต้องยกเครื่องกฎหมายใหม่ โดยจับมือกับกระทรวงดิจิทัลฯดำเนินการ และต้องตั้ง “คณะกรรมการพนันแห่งชาติกำกับดูแล”กำหนดคุณสมบัติเจ้ามือต้องโปรไฟล์ดีทุนหนาฮึ่มทำแล้วยังมีใต้ดินอีก เจอโทษหนัก ด้านโฆษกรัฐบาลโต้ฝ่ายค้าน ไล่กลับไปดูนโยบายที่พูดไว้ตอนหาเสียงเกี่ยวกับการเปิดบ่อนเสรีอ้างข้อมูลความมั่นคงมีฝ่ายจ้องล้อมกม.เอ็นเตอร์เมนท์คอมเพล็กซ์ ส่วนอดีต สว.สมชายปลุกคนไทยแสดงจุดยืนไม่เอากาสิโน ลงชื่อส่งเสียงถึงรบ.
เมื่อวันที่ 16 มกราคม ที่กระทรวงมหาดไทยนายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และรมว.มหาดไทย กล่าวถึงกรณีนายประเสริฐ จันทรรวงทอง รองนายกรัฐมนตรีและรมว.ดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม(ดีอี) ออกมาระบุจะจับมือกับกระทรวงมหาดไทยผลักดันแก้ปัญหาพนันออนไลน์ให้ได้ภายใน 2 เดือนว่า กฎหมายพื้นฐานอยู่ที่กระทรวงมหาดไทยหมดแล้ว เราสองกระทรวงหารือกันแล้ว หากส่วนไหนเกี่ยวข้องกับกระทรวงดีอี ก็ให้ไปยกร่างกฎหมายมา ส่วนที่เกี่ยวกับกระทรวงมหาดไทยเช่นการขออนุญาตต่างๆ หรือการกำหนดเรื่องการพนัน ประเภท ก ประเภท ข เป็นหน้าที่กระทรวงมหาดไทยเป็นผู้ยกร่าง จากนั้นก็จะมาประกอบกันในคณะกรรมการ
ผู้สื่อข่าวถามว่า รูปแบบจะออกมาเป็นอย่างไร นายอนุทินกล่าวว่า เป็นการเอาใต้ดินขึ้นมาบนดิน เราไม่ได้สนับสนุนการพนันแต่ทุกวันนี้มีเต็มไปหมดอยู่แล้ว แต่เราต้องเอาที่อยู่ใต้ดินมาบนดินซึ่งก่อให้เกิดอาชญากรรม เกิดการข่มเหง จะมีแพล็ตฟอร์มออนไลน์ที่ต้องเล่นผ่าน ซึ่งกระทรวงดีอีจะไปพิจารณาดูว่าเป็นการติดแบบงอมแงมหรือไม่ เพื่อส่งคนไปบำบัดหรือดูแล้วว่าคนนี้เริ่มมีหนี้สินก็จะส่งสัญญาณไปยังเจ้าหนี้ ไม่ให้กู้เงินอีกจะมีระบบควบคุม
“ผมให้นโยบายไปแล้วว่า หากทำพนันบนดินแล้ว ยังมีผู้จัดใต้ดินอยู่ ก็ต้องโดนลงโทษโดนยึดทรัพย์และถูกดำเนินคดีทางอาญา”นายอนุทินกล่าวและย้ำว่า ต้องมีผู้จัดการพนันส่วนคนที่เล่นกันเองเล่นๆเช่นตีกอล์ฟ ไม่ต้องกังวล
ถามว่ารูปแบบออนไลน์ถูกกฎหมายใครจะเป็นเจ้ามือ นายอนุทินกล่าวว่า ต้องกำหนดคุณสมบัติ ต้องมีสถานภาพทางการเงินแข็งแรง มีทุน ต้องไม่โดนเยอะแล้วปิดหนี และคิดว่าต้องมีคณะกรรมการพนันแห่งชาติที่ต้องกำกับดูแล
ถามว่าหากใช้กฎหมายระดับรองจะเอาอยู่หรือไม่นายอนุทินกล่าวว่า กฎหมายเอาอยู่ๆแล้วแต่ทุกอย่างขึ้นอยู่กับสภา เพราะตอนนี้ขั้นตอนอยู่ที่กระทรวงมหาดไทยกำลังยกร่าง และยังไม่แน่ใจจะออกเป็นพ.ร.ก. หรือพ.ร.บ. แต่ต้องออกเป็นกฎหมายใหม่ ที่ต้องผ่านการรับรองจากสภาให้เรียบร้อย
ด้านนายจิรายุ ห่วงทรัพย์ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรีกล่าวถึงกรณีฝ่ายค้านแสดงท่าทีคัดค้านการแก้ปัญหาพนันออนไลน์ต่างทั้งในและรอบประเทศว่า ไปย้อนดูนโยบายพรรคการเมือง ที่เคยหาเสียงไว้หลายพรรคที่เป็นฝ่ายค้านปัจจุบัน เคยมีนโยบายหาเสียงจะเปิดสถานบริการการพนันหรือบ่อนเสรี โดยหลายนโยบายยังกำหนดให้สามารถมีทุกจังหวัด จึงเรียกร้องให้พรรคฝ่ายค้านกลับไปดูนโยบายของพรรค และนำมาเทียบกับนโยบายรัฐบาลที่ออกมาและช่วยกันนำเรื่องจริงของสังคมไทยมาร่วมกันแก้ไขในชั้นรับหลักการ หรือช่วงแปรญัตติ หรือชั้นกรรมาธิการวิสามัญพิจารณารายมาตรา
นายจิรายุกล่าวต่อว่า การนำธุรกิจที่ผิดกฎหมาย และอยู่ใต้ดินให้ขึ้นมาอยู่บนดิน โดยกำกับควบคุมอย่างเข้มข้น เป็นทางออกที่จะควบคุมการดำเนินธุรกิจได้จริงจัง ปิดช่องการฟอกเงิน การค้ามนุษย์ รวมถึงการคุ้มครองแรงงานให้ได้รับการปฏิบัติอย่างเป็นธรรม และยังสร้างรายได้เข้ารัฐในรูปแบบภาษีและค่าธรรมเนียมใบอนุญาตได้อีกด้วย โดยบางพรรคเสนอให้มีกาสิโนถูกกฎหมาย จำกัดอายุผู้เล่นไม่ต่ำกว่า 20 ปี จำกัดฐานะของผู้เล่น กำหนดรายได้ขั้นต่ำของผู้ที่มีสิทธิเล่นได้ ให้ยึดตามรายได้ที่แจ้งต่อสรรพากรในปีภาษีก่อนหน้า จำกัดจำนวนกาสิโน ถ้าจังหวัดไหนจะมีกาสิโนได้ต้องออกเป็นพ.ร.ฎ.กำหนดพื้นที่และจำนวนกาสิโนที่จะออกใบอนุญาตได้ เป็นต้น
“วันนี้ถึงเวลาที่สังคมต้องช่วยกันต่อสู้กับธุรกิจสีเทา ที่ฝ่ายความมั่นคง เริ่มพบว่า มีการขยับที่จะทำทุกวิถีทาง โดยมีเป้าหมายต้องล้มพ.ร.บ.เอ็นเตอร์เทนเม้นท์คอมเพล็กซ์ เพื่อให้พวกเขายังคงธุรกิจสีเทาเหล่านี้ได้ต่อไป สุดท้ายสังคมไทยก็จะกลับเข้ามาวังวนเดิม”โฆษกรัฐบาลกล่าว และยืนยันว่าร่าง พ.ร.บ.ฉบับนี้ศึกษามาอย่างรอบด้าน ทั้งผลดีและผลกระทบของสังคมทุกมิติ หากมีกฎหมายควบคุมจะควบคุมกลไกต่างๆได้ อันมีคุณมากกว่าโทษ โดยเนื้อหาของร่างพ.ร.บ.ฉบับนี้จะตั้งคณะกรรมการขึ้นมาเพื่อกลั่นกรอง ติดตาม ตรวจสอบ เขียนระเบียบ กฎกติกาต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องผู้มาลงทุนเรื่อง เงินทุน จะสีดำหรือเทาก็เข้ามาไม่ได้หากมีกฎหมายฉบับนี้
นายจิรายุย้ำว่า สถานบันเทิงครบวงจรไม่ได้หมายถึง “กาสิโน” เพียงอย่างเดียวแต่เป็นการสร้างสถานที่ท่องเที่ยวระดับโลกที่จะเกิดขึ้นในประเทศไทย เช่น สวนสนุก สวนน้ำ สถานที่พักผ่อน โรงแรม ระดับหรู และ โรงละคร และ สถานที่จัดคอนเสิร์ตระดับโลก ซึ่งที่ผ่านมาหลายประเทศทั่วโลกทั้งใน เอเชีย และหลายทวีป ต่างพบว่า ธุรกิจที่อยู่บนดินควบคุมได้ ประชาชน และสังคมจะปลอดภัยทุกมิติมากกว่า
นพ.วรงค์ เดชกิจวิกรม ประธานพรรคไทยภักดี โพสต์เฟซบุ๊กหัวข้อ “เราไม่เอากาสิโน”`ระบุว่า เราไม่เอากาสิโน โดยมีเหตุผลที่ต้องการสื่อสารว่า1.การเมืองไทยใช้เงินเพื่อเลือกตั้งมหาศาล ในรูปแบบทั้งซื้อเสียงและซื้อสื่อ ซื้อคน การตั้งกาสิโนจะเป็นแหล่งหาผลประโยชน์ ให้นักการเมือง มากกว่าผลประโยชน์ประชาชน2.ตราบใดที่ประเทศยังมีทุจริตคอรัปชั่น ทุจริตต่อหน้าที่ ติดคุกทิพย์ ตำรวจยังรับส่วย มาตรฐานการศึกษาของประชาชนยังต่ำมาก การบังคับใช้กฎหมายยังแย่ ซื้อขายตำแหน่งข้าราชการ ประมูลงานต้องมีเปอร์เซนต์ ทุนสีเทาเกลื่อนเมือง กาสิโนจะเป็นแหล่งฟอกเงินชั้นดี 3.ชอบอ้างว่า เอาของใต้ดินมาอยู่บนดิน สังคมที่เละเทะแบบนี้ แน่ใจหรือว่า ของใต้ดินจะหมดไป ดูแนวโน้มแล้วของใต้ดินจะยิ่งมีมากขึ้น
4.ชอบอ้างเรื่องดึงดูดท่องเที่ยว การลงทุน การจ้างงาน พวกท่านไม่รู้หรือว่า ประเทศไทยมีเสน่ห์ ดึงดูดการท่องเที่ยวเหนือกว่าการมีบ่อนกาสิโนอยู่แล้ว ทั้งนิสัยคนไทย วัฒนธรรม อาหารการกิน ธรรมชาติที่สวยงามความจริงแล้วท่านต้องการ เอากาสิโนมาหากินในแหล่งที่มีนักท่องเที่ยวมากกว่ามาดึงดูด ถ้าจริงตามนั้นท่านต้องนำไปเปิด ในพื้นที่สามจังหวัดภาคใต้ ไม่ใช่ภูเก็ต เชียงใหม่ พัทยา หรือ กรุงเทพฯ
5.ตราบใดที่รัฐบาลชุดนี้ มีพ่อที่มีอำนาจเหนือกฎหมาย กระบวนการยุติธรรมของประเทศถูกทำลาย ถ้ามีกาสิโนประเทศจะยิ่งเละไปใหญ่ อย่ามาอ้างสิงคโปร์โมเดล เพราะต่างกันยิ่งกว่าฟ้ากับเหวถ้าคิดจะเปิดกาสิโนจริงๆต้องจัดการตำรวจเลิกรับส่วย กฎหมายเป็นกฎหมาย ใครบอกอยากเลี้ยงหลานต้องเลี้ยงหลาน ถ้าทำได้ ค่อยมาคิดเปิดกาสิโน
ขณะที่นายสมชาย แสวงการ อดีตสมาชิกวุฒิสภาและอดีตประธานคณะกรรมาธิการสิทธิมนุษยชน สิทธิเสรีภาพ และการคุ้มครองผู้บริโภค วุฒิสภา โพสต์เฟซบุ๊กว่า 4 อันดับประเทศที่ติดอันดับความยากจนสูงสุดในอาเซียนคือ เมียนมา ลาว กัมพูชา ฟิลิปปินส์ มีคาสิโน เอนเตอร์เทนเมนท์คอมเพล็กซ์ขนาดใหญ่มีมาเฟียทุนเทาทั้งในและต่างประเทศ เป็นเจ้าของทั้งสิ้น รัฐบาลแต่ละประเทศล้วนอ้างว่าจะได้ประโยชน์ในการลงทุน มีเม็ดเงินเข้าประเทศหลายแสนล้าน เก็บภาษีเพื่อดูแลคนให้พ้นความยากจน นโยบายเหล่านี้พิสูจน์แล้วว่า ไม่เป็นความจริง คนรวยมีเฉพาะกลุ่มการเมืองในครอบครัวและกลุ่มอิทธิพลที่ใกล้ชิด ประชาชนจนหนักกว่าเดิม ถ้ารัฐบาลคิดตื้นๆ เดินนโยบายสร้างบ่อนคาสิโนซ่อนรูปภายใต้เอ็นเตอร์เทนเม้นท์คอมเพล็กซ์ แบบลาว กัมพูชา เมียนมา ฟิลิปปินส์ 10 ปีข้างหน้า ประชาชนของไทย คงติดอันดับความยากจนสูงสุด 1 ใน 5 ของอาเซียนแบบเดียวกับประเทศเพื่อนบ้านกลุ่มนี้แน่นอน
“บันทึกไว้เพื่อร่วมคัดค้านนโยบายนักโกงเมือง ร่วมเป็น 1 เสียง แสดงจุดยืนว่า “เราไม่เอากาสิโน” จากการที่รัฐบาลประกาศเดินหน้าผลักดันพ.ร.บ.การประกอบธุรกิจสถานบันเทิงครบวงจร อันมีกาสิโนเป็นส่วนประกอบหลักเข้ารัฐสภา กฎหมายนี้จะเปิดช่องให้เปิดกาสิโนได้อย่างเสรี ก่อให้เกิดผลกระทบทางสังคมทั้งปัญหาอาชญากรรม ฟอกเงิน ทุจริตคอรัปชั่น การประกอบธุรกิจผิดกฎหมาย หากคุณคือคนไทยคนหนึ่งที่ไม่เห็นด้วยกับการมีกาสิโนถูกกฎหมายในประเทศไทย กรุณาร่วมกันส่งเสียงต่อรัฐบาลผ่านการลงชื่อแสดงจุดยืนว่า “เราไม่เอากาสิโน” ได้ที่ https://forms.gle/PBBBYki6Lbcb4HZh9” นายสมชายระบุ
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี