'ขวัญ ศุภพานี'เดินเคาะประตูบ้านหาเสียงนายก อบจ.นครพนม น้ำตาคลอถูกผู้ใหญ่พรรคใหญ่ประกาศบนเวทีขู่จะล้างบางครอบครัว

การเลือกตั้งนายก อบจ.นครพนม และ ส.อบจ.นครพนม เข้าสู่โค้งสุดท้ายแล้ว เหลือเพียง 2 สัปดาห์คือวันที่ 1 กุมภาพันธ์ 2568 ก็เป็นวันชี้ชะตาว่าใครจะเข้าวินเป็นผู้บริหารใน อบจ.นครพนม แต่ที่มาแรงกว่าทุกทีม ต้องยกให้ทีมของนายอนุชิต หงษาดี ผู้สมัครนายก อบจ.ที่ได้รับการผลักดัน สนับสนุนจากพรรคเพื่อไทย ถือเป็นลูกรักคนล่าสุดที่เนื้อหอมสุดๆ เนื่องจากมีคนดังในพรรค เดินทางมาหาเสียงช่วยอย่างเช่น น.ส.จิราพร สินธุไพร นายอดิศร เพียงเกษ นายสุทิน คลังแสง นายณัฐวุฒิ ไสยเกื้อ นายอนุสรณ์ เอี่ยมสะอาด รวมทั้ง น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี และ หัวหน้าพรรคเพื่อไทย ล่าสุดนายทักษิณ ชินวัตร ก็จะมาหาเสียงช่วยถึง 3 เวที 3 อำเภอในวันที่ 18 มกราคม นาทีนี้จึงถือว่านายอนุชิต มีแต้มต่อเหนือกว่าทุกทีม

สำหรับ น้องขวัญ-น.ส.ศุภพานี โพธิ์สุ ผู้สมัครนายก อบจ.นครพนม เบอร์ 2 ทีมนครพนมร่วมใจ ดีกรีปริญญาเอก ปรัชญาดุษฎีบัณฑิต สาขาวิชาการจัดการภาครัฐและเอกชน อดีตนายก อบจ.นครพนม สมัยที่ผ่านมา แม้จะถูกปรามาสว่าไม่มีนักการเมืองระดับชาติเป็นนั่งร้าน ก็ต้องยอมรับความจริงว่าครั้งที่ผ่านมา น้องขวัญก็ไม่เคยใช้ชื่อพรรคการเมืองใดมาเป็นนั่งร้านแต่แรกแล้ว และไม่เคยเปิดเวทีใหญ่ปราศรัยหาเสียงอีกด้วย ใช้กลยุทธ์เดินเท้าเข้าพบปะพี่น้องประชาชนถึงหัวบันไดบ้าน ใช้สถานที่ลานกว้างในชุมชน ศาลาการเปรียญ ลานวัด ศาลาหมู่บ้าน เป็นเวทีในการปราศรัยหาเสียง ก็ยังได้รับการเมตตาเกือบ 2 แสนคะแนนไว้วางใจกาเบอร์ 2 ให้เป็นนายก อบจ.นครพนม

เลือกตั้งครั้งนี้ น้องขวัญ ศุภพานี ก็ได้หมายเลข 2 เหมือนสมัยที่ผ่านมา เพิ่มเติมคือแผ่นพับขนาดกว้าง 15 เซนติเมตร ยาว 21 เซนติเมตร ถือเป็นอาวุธสำคัญเพราะมีเนื้อหากล่าวถึงประวัติการศึกษา และผลการทำงานตลอด 4 ปีรวม 9 โครงการ ดังนั้นแผ่นพับใบเดียวประชาชนสามารถตัดสินใจได้ทันทีว่า จะเลือกใครมาเป็นนายก อบจ.นครพนม

ล่าสุดที่โดมวิทยาลัยการอาชีพธาตุพนม อ.ธาตุพนม น้องขวัญ-ศุภพานี โพธิ์สุ ผู้สมัครนายก อบจ.นครพนม หมายเลข 2 ทีมนครพนมร่วมใจ ได้ปราศรัยหาเสียงช่วยนายประสงค์ กานิล ผู้สมัคร ส.อบจ.นครพนม หมายเลข 2 กับพี่น้องประชาชนชาวเขตชุมชนเทศบาลตำบลธาตุพนม ก็ได้เสียงตอบรับเป็นอย่างดี ซึ่งน้องขวัญได้กล่าวกับชาวบ้านว่า “ทีมนครพนมร่วมใจ ไม่มีพรรค มีแต่พวก และไม่ต้องการให้ใครครอบงำ ฯ”

ช่วงหาเสียงตอนหนึ่งน้องขวัญได้กล่าวจากความรู้สึก ด้วยเสียงสั่นเครือว่า “ที่เจ็บปวดหัวใจ มีผู้ใหญ่มาบอกบนเวทีวันที่ 12 มค. ว่าจะล้างแค้นเป็นครั้งที่ 2 จะทำให้ครอบครัวสูญพันธุ์ ฯ” ยอมรับว่าเสียใจกับการหาเสียงแบบใส่ร้าย สร้างความชิงชัง ทำให้ประชาชนเข้าใจผิด “พอมาเห็นพี่น้องประชาชนมาฟังวันนี้แล้วอบอุ่นใจ หลังมีคนมาปรามาสเดี๋ยวก็ถอดใจ จึงมาบอกมาครอบขอโอกาสไปทำงานต่อ” ทั้งนี้มีประชาชนมาให้กำลังใจมากกว่า500 คน จนเก้าอี้ที่จัดไม่พอ แต่ยอมที่จะต้องตีตั๋วยืน

ทั้งนี้ เป็นคำพูดของ สส.ฯคนหนึ่ง ซึ่งจากประวัติพบว่าเคยสังกัดพรรคไทยรักไทย พรรคพลังประชาชน และได้เป็น สส.บัญชีรายชื่อ จากการเลื่อนลำดับ ต่อมาพรรคพลังประชาชนถูกยุบ จึงย้ายไปอยู่พรรคภูมิใจไทย โดยมีตำแหน่ง สส.บัญชีรายชื่อติดไปด้วย ต่อมาได้ย้ายไปอยู่พรรคเสรีรวมไทย พรรคชาติไทยพัฒนา พรรคเพื่อชาติ พรรคพลังประชารัฐ และ พรรคเพื่อไทย นอกจากนี้ช่วงที่มีการชุมนุมขับไล่รัฐบาล น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร บุคคลผู้นี้ได้ไปร่วมเป่านกหวีดกับลุงกำนันด้วย - 003