วันที่ 17 มกราคม 2568 ปฏิบัติการระดมปิดล้อมตรวจค้นเครือข่ายยาเสพติดรายสำคัญ กองบัญชาการตำรวจนครบาล ตามข้อสั่งการนายกรัฐมนตรี เรื่องการแก้ไขปัญหายาเสพติดให้ทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง บูรณาการร่วมกันแก้ไขปัญหายาเสพติดอย่างเร่งด่วน และจัดการปัญหายาเสพติดอย่างเด็ดขาดใน ทุกระดับ ทั้งการปราบปรามเครือข่ายการค้ายาเสพติดรายสำคัญ ผู้ค้ายาเสพติดรายย่อยในชุมชน การขยายผลยึด และอายัดทรัพย์สิน การนำผู้เสพ/ผู้ติดยาเสพติดเข้าสู่กระบวนการบำบัดรักษาและการดำเนินการต่อเบาะแสร้องเรียนยาเสพติด เพื่อสร้างความเชื่อมั่น ความพึงพอใจของประชาชนให้สูงขึ้น
พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พันธ์ุเพ็ชร์ ผบ.ตร. พร้อม พล.ต.อ.ไกรบุญ ทรวดทรง รอง ผบ.ตร. ผอ.ศอ.ปส.ตร., พล.ต.ท.สำราญ นวลมา ผู้ช่วย ผบ.ตร./รอง ผอ.ศอ.ปส.ตร., พล.ต.ท.อัคราเดช พิมลศรี ผู้ช่วย ผบ.ตร./รอง ผอ.ศอ.ปส.ตร. และ พล.ต.ท.สรายุทธ สงวนโภคัย ผู้ช่วย ผบ.ตร./รอง ผอ.ศอ.ปส.ตร. จึงกำหนดให้เปิดปฏิบัติการระดมปิดล้อมตรวจค้นเป้าหมายยาเสพติดพร้อมกันทั่วประเทศ โดยให้ทุกหน่วยดำเนินการปิดล้อมตรวจค้นเป้าหมายผู้ถูกซัดทอดตามข้อมูลการซักถามขยายผล ยาเสพติด ในระบบฐานข้อมูลของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ เป็นเป้าหมายสำคัญแรก และดำเนินการปิดล้อมตรวจค้นเป้าหมายเครือข่ายยาเสพติดอื่น ที่หน่วยกำลังดำเนินการสืบสวนอยู่เพื่อปราบปรามเครือข่ายผู้ค้ารายย่อยและรายใหญ่ในพื้นที่ไปพร้อมกัน กองบัญชาการตำรวจนครบาล ภายใต้การอำนวยการของ พล.ต.ท.สยาม บุญสม ผบช.น., พล.ต.ต.นพศิลป์ พูลสวัสดิ์ รอง ผบช.น., พล.ต.ต.วสันต์ เตชะอัครเกษม รอง ผบช.น., พล.ต.ต.พัลลภ แอร่มหล้า รอง ผบช.น., และ พล.ต.ต.ธีรเดช ธรรมสุธีร์ รรท.รอง ผบช.น. ร่วมกับสำนักงานป้องกันและปราบปรามยาเสพติดกรุงเทพมหานคร (ปปส.กทม.) ภายใต้การอำนวยการของ นายอำนาจ เหล่ากอที ผอ.ปปส.กทม. และ นายอดิเรก อ่อนละมูล ผอ.ส่วนอำนวยการบังคับใช้กฎหมาย จึงสั่งการให้ทุกหน่วยในสังกัด ปฏิบัติการระดมปิดล้อมตรวจค้นยาเสพติดในห้วงระหว่างวันที่ 10 – 17 ม.ค.68 โดยมีผลการปฏิบัติ ดังนี้
กองบัญชาการตำรวจนครบาล ได้เข้าปฏิบัติการปิดล้อมตรวจค้นชุมชนแพร่ระบาด ยาเสพติด จำนวน 215 เป้าหมาย จำนวนเครือข่ายยาเสพติดที่เข้าดำเนินการปราบปราม จำนวน 71 เครือข่าย โดยมีผลการจับกุมดังนี้
ผลจับกุมรวมทุกข้อหา จำนวน 277 คดี จับกุมตามหมายจับ 57 คดี ผลจับกุมข้อหาร้ายแรง จำนวน 127 คดี สมคบ,สนับสนุนฯ 2 คดี จำหน่ายฯ 35 คดี ครอบครองฯ 90 คดี ผลจับกุมข้อหาไม่ร้ายแรง จำนวน 150 คดี
ครอบครองเพื่อเสพ 131 คดี เสพ 19 คดี ตรวจยึดของกลางยาเสพติด ยาบ้า จำนวน 9,098 เม็ด ไอซ์จำนวน 197 กิโลกรัม ยาอี จำนวน 130 เม็ด เฮโรอีน จำนวน 1.3กิโลกรัม ตรวจยึดทรัพย์สินเกี่ยวเนื่องกับการกระทำความผิดเกี่ยวกับยาเสพติด มูลค่ารวมจำนวน 11,231,199 บาท
โดยมีผลปฏิบัติการต่อเป้าหมายรายสำคัญของ บก.น.2 และ บก.น.6 ดังนี้
บก.น.2
ภายใต้การอำนวยการของ พ.ต.อ.เจษฎา สวยสม รรท.ผบก.น.2, พ.ต.อ.ชูศักดิ์ ศรีวงษ์ชัย รอง ผบก.น.2, พ.ต.อ.อัครพล โทยะ ผกก.สส.บก.น.2 ได้สั่งการให้เจ้าหน้าที่ตำรวจประกอบด้วย พ.ต.ท.เข็มกล้า มั่นพลับ รอง ผกก.(สอบสวน) สน.บางเขน, พ.ต.ท.ประเทือง อ้นทอง สว.(สอบสวน) สน.บางเขน,พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดจับกุม ได้ร่วมกันจับกุมตัวนายณรงค์ หรือปู อายุ 38 ปี พร้อมของกลาง ประกอบด้วย 1. ยาไอซ์ ลักษณะเป็นเกล็ดสีขาว บรรจุอยู่ในถุงพลาสติกสีน้ำเงิน ข้างถุงมีรูป NUMBER 1 ติดอยู่ ใส่ไว้ในกระสอบสีรุ้ง จำนวน 1 กระสอบ กระสอบละ 25 ถุง (1 ถุงมีน้ำหนักประมาณ 1 กิโลกรัม) อยู่บริเวณเบาะหลังคนขับ และอยู่บริเวณช่องเก็บของกระโปรงท้ายรถ จำนวน 3 กระสอบ กระสอบละ 25 ถุง (น้ำหนักถุงละประมาณ 1 กิโลกรัม) และใส่ไว้ในถุงพลาสติก สีเขียวจำนวน 5 ถุง ถุงละประมาณ 1 กิโลกรัม ( รวมน้ำหนักยาไอซ์ ทั้งหมดประมาณ 105 กิโลกรัม )
2. ยาไอซ์ ลักษณะเป็นเกล็ดสีขาวบรรจุอยู่ในถุงพลาสติกใสแบบปากถุงเลื่อนเปิด-กดปิด จำนวน 1 ถุงชั่งน้ำหนัก พร้อมถุงที่บรรจุอยู่มีน้ำหนักประมาณ 4.12 กรัม
3. ยาบ้าเม็ดสีแดง กลมแบนมีตัวอักษร WY ประทับอยู่ด้านหนึ่ง บรรจุอยู่ในถุงพลาสติกใสแบบปากถุงเลื่อนเปิด - กดปิด จำนวน 30 เม็ด
4. ถุงพลาสติกใสแบบปากถุงเลื่อนเปิด-กดปิด จำนวน 1 แพ็ค (สำหรับใส่แบ่งยาไอซ์)
5. หลอดพลาสติกสีแดง ตัดเป็นรูปปากฉลาม จำนวน 1 อัน (สำหรับตักยาไอซ์)
6. เครื่องชั่งน้ำหนักสีส้มขนาดใหญ่ จำนวน 1 เครื่อง
7. เครื่องชั่งน้ำหนักดิจิตอลสีเงิน จำนวน 1 เครื่อง
8. ขวดแก้วที่บรรจุน้ำโดยมีหลอดพลาสติกอีกหลอดหนึ่งต่อเชื่อมมาจากขวดใส่น้ำ และมีหลอดแก้วอีกหลอดต่อออกมา (เป็นอุปกรณ์การเสพยาไอซ์)
9. กระสอบเปล่า สีรุ้ง จำนวน 1 ใบ
10. อาวุธปืนสั้น แบบไทยประดิษฐ์ ขนาด .22 มม. พร้อมแม็กกาซีน จำนวน ๑ กระบอก
11. อาวุธปืนสั้น ลูกโม่ ยี่ห้อ COLT ขนาด .32 จำนวน 1 กระบอก
12. ลูกกระสุนปืนขนาด .38 จำนวน 33 นัด
13. ลูกกระสุนปืนขนาด .32 จำนวน 28 นัด
14. ลูกกระสุนปืนขนาด .380 จำนวน 35 นัด
15. โทรศัพท์มือถือยี่ห้อ Samsung รุ่น Galaxy เอ 15 5G สีน้ำเงินดำ หมายเลขโทรศัพท์ 0941452XXX เครือข่ายทรู อีมี่หนึ่ง 351250091744777 อีมี่สอง 356410351744777 จำนวน 1 เครื่อง
16.รถยนต์เก๋ง ยี่ห้อนิสสัน สีเทา คันหมายเลขทะเบียน 5 ขว 79XX กรุงเทพมหานคร จำนวน 1 คัน ( เป็นรถคันที่ นายณรงค์ฯ นำยาไอซ์ เก็บซุกซ่อนไว้ )
17.กุญแจรถยนต์ จำนวน 1 ดอก
โดยแจ้งข้อกล่าวหาว่า จำหน่ายยาเสพติดให้โทษประเภท 1 (เมทแอมเฟตามีนหรือยาไอซ์, ยาบ้า) โดยการมีไว้เพื่อจำหน่าย อันเป็นการกระทำเพื่อการค้าและก่อให้เกิดการแพร่กระจ่ายในกลุ่มประชาชน, เสพยาเสพติดให้โทษประเภท 1 (เมทแอมเฟตามีนหรือยาไอซ์) โดยผิดกฎหมาย และมีอาวุธปืนและเครื่องกระสุนปืนไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต
ก่อนการจับกุมใคดีนี้ เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดปฏิบัติการปราบปรามยาเสพติด บก.น.2 ได้ทำการสืบสวน และขยายผลผู้ค้ายาเสพติด จากเครือข่ายยาเสพติดรายสำคัญในเขตพื้นที่เตาปูน จนสามารถสืบสวนพิสูจน์ทราบว่า “นายณรงค์ หรือปู” มีพฤติการณ์ลักลอบจำหน่ายยาเสพติดและเก็บซุกซ่อนยาเสพติดไว้ภายในห้องพักเพื่อรอส่งให้กับลูกค้า จึงรายงานให้ผู้บังคับบัญชาทราบ
ต่อมาวันที่ 16 มกราคม 2568 ได้ยื่นคำร้องขอหมายค้นต่อศาลอาญา เพื่อเข้าทำการตรวจค้นห้องพักภายในแมนชั่น แขวงบางซื่อ เขตบางซื่อ กรุงเทพฯ ซึ่งศาลอนุญาตให้ตรวจค้นในวันที่ 16 มกราคม 2568
จากนั้นจึงได้นำหมายค้นไปทำการตรวจค้น เมื่อไปถึงพบ นายณรงค์ หรือปู จึงได้แสดงหมายค้น ผลการตรวจค้นพบยาไอซ์ จำนวน 1 ถุงเล็ก พบยาบ้าจำนวน 30 เม็ด พบอาวุธปืนแบบไทยประดิษฐ์ ขนาด .22 มม.จำนวน 1 กระบอก พบอาวุธปืนลูกโม่ ยี่ห้อ COLT ขนาด.32 จำนวน 1 กระบอก และพบลูกกระสุนปืน จำนวน 96 นัด นอกจากนั้นยังได้นำตัวมาตรวจค้นรถเก๋ง ยี่ห้อนิสสัน หมายเลขทะเบียน 5 ขว 79XX กรุงเทพฯ ซึ่งจอดอยู่ลานจอดรถใต้อาคาร พบยาไอซ์ อยู่ในกระสอบ สีรุ้ง จำนวน 4 กระสอบ มียาไอซ์ จำนวน 105 กิโลกรัม อยู่ฝากระโปรงท้ายรถ
จากการสืบสวนขยายผล ทราบข้อมูลเพิ่มเติมว่า นายณรงค์ฯ มีหน้าที่ไปรับยาเสพติดตามจุดต่างๆ แล้วนำมาพักคอย เพื่อส่งให้กับลูกค้าตามคำสั่งของผู้ว่าจ้าง โดยได้รับเงินค่าจ้าง กิโลกรัมละ 1,000 บาท และรับว่าทำมาแล้วหลายครั้ง ยาเสพติดที่ถูกจับก่อนหน้าเมื่อ 2-3 วันที่แล้วนั้น ได้ไปรับมาจากเขต จ.สุพรรณบุรี จำนวน 6 กระสอบ (ประมาณกระสอบละ 25 กก. รวมประมาณ 150 กก.) และได้ส่งให้กับลูกค้าไปก่อนหน้านี้แล้วบางส่วน คงเหลือยาเสพติดอยู่เท่าที่ถูกจับกุมตรวจยึดทรัพย์สินได้ทรัพย์สินเพิ่มเติม 1.รถยนต์ ยี่ห้อ โตโยต้า รุ่น วีออส จำนวน 1 คัน 2.รถจักรยานยนต์ จำนวน 2 คัน
บก.น.6
กก.สส.บก.น.6 ภายใต้การอำนวยการของ พล.ต.ต สามารถ พรหมชาติ ผบก.น.6 พ.ต.อ.นริศ ปรารถนาพร รอง ผบก.น.6 ,พ.ต.อ.เชิดศักดิ์ รอดเข็ม ผกก.สส.บก.น.6, พ.ต.ท.วิสิทธิ์ สายบัวทอง รอง ผกก.สส.บก.น.6 สั่งการให้ พ.ต.ต. ปัณณวัชร์ จิรัฐธรรมฤทธิ์ สว.กก.สส.บก.น.6 พร้อมด้วย ร.ต.อ.ชัชวาล กิตติภัทรสกุล,ร.ต.อ.กฤตกร รอดทุกข์,ร.ต.ท.คณิตศักดิ์ ลาภทวีสมสิทธิ์ พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่ตำรวจ กก.สส.บก.น.6 และ ชปส.บก.น.6, เจ้าหน้าที่ ปปส. ภาค1 เข้าตรวจค้นเป้าหมายจำนวน 2 เป้าหมาย ดังนี้ 1. บ้านพัก ต.เชียงรากน้อย อ.บางปะอิน จ.พระนครศรีอยุธยา ตามหมายค้นศาลจังหวัดอยุธยา ที่ 3/2568 ลงวันที่ 16 มกราคม 2568 2. บ้านพัก ต.เชียงรากน้อย อ.บางปะอิน จ.พระนครศรีอยุธยา ตามหมายค้นศาลจังหวัดพระนครศรีอยุธยา ที่ 2/2568 ลงวันที่ 16 มกราคม 2568
โดยมีผู้พักอาศัยภายในบ้านนำการตรวจค้นด้วยความยินยอมและสมัครใจ โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อค้นหา ยาเสพติดหรือสิ่งผิดกฎหมาย และเพื่อขยายผลยึดทรัพย์สิน ที่เกี่ยวเนื่องกับยาเสพติด ผลการตรวจค้น ไม่พบยาเสพติดหรือ สิ่งผิดกฎหมาย และได้ตรวจยึดสิ่งทรัพย์สินจำนวน 6 รายการ ประกอบด้วย
- สมุดเงินฝากบัญชีธนาคารกสิกร
- สมุดเงินฝากบัญชีธนาคาร อาคารสงเคราะห์
- รถจักรยานยนต์ หมายเลขทะเบียน อทน 98X กทม. ราคาประมาณ 50,000 บาท
- รถจักรยานยนต์ หมายเลขทะเบียน 4กฆ 73XX กทม. ราคาประมาณ 40,000 บาท
- รถยนต์ toyota vios หมายเลขทะเบียน กม 13XX พระนครศรีอยุธยา ราคาประมาณ 400,000 บาท
- ที่ดินพร้อมสิ่งปลูกสร้าง ต.เชียงรากน้อย อ.บางปะอิน จ.พระนครศรีอยุธยา มูลค่าประมาณ 2,000,000 บาท
รวมมูลค่าทรัพย์สินที่ตรวจยึด ประมาณ 2,490,000 บาท
กองบัญชาการตำรวจนครบาล มุ่งมั่นแก้ไขปัญหายาเสพติดให้ประชาชนอย่างจริงจัง เพื่อนำไปสู่การแก้ไขปัญหาความเดือดร้อนของพี่น้องประชาชนที่เกิดจากปัญหาการแพร่ระบาดของยาเสพติดในชุมชน สร้างความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สิน ตลอดจนเพิ่มความเชื่อมั่นของประชาชนที่มีต่อภาครัฐในการแก้ไขปัญหายาเสพติดให้สูงขึ้นตามลำดับต่อไป
ทั้งนี้หากประชาชนท่านใด พบเห็น หรือมีเบาะแส เกี่ยวกับการกระทำความผิดเกี่ยวกับการจำหน่ายยาเสพติดหรือสิ่งของผิดกฎหมายหรือพบการมั่วสุม สามารถแจ้งเบาะแสได้ ที่ศูนย์อำนวยการป้องกันและปราบปรามยาเสพติด กองบัญชาการตำรวจนครบาล หรือโทรศัพท์สายด่วน 191
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี