"ต้นอ้อ"เป็นหนึ่ง พร้อมด้วย พมจ.บ้านพักเด็กฯรุดช่วยหญิงชาวไทยถูกสามีชาวพม่าซ้อมปางตาย แถมขู่หากแจ้งตำรวจจะฆ่าลูก 2 คน ล่าสุดแม่ได้รับการรักษาที่ รพ.พร้อมดูแลทั้งร่างกายและจิตใจ ส่วนสามีถูกจับกุมดำเนินคดีฐานทำร้ายร่างกาย ด้าน"ต้นอ้อ"เผยรับไม่ได้มาอยู่ในแผ่นดินไทยแต่กลับทำร้ายศักดิ์ศรีหญิงไทย
จากกรณีมีคนเอาคลิปหญิงรายหนึ่ง ที่มีร่องรอยฟกช้ำเต็มแผ่นหลัง พร้อมระบุข้อความว่า” #กันจอมพลัง ยังอยู่ไหม????ใครได้ดูคลิปนี้แล้วช่วยแชร์ต่อ เหตุเกิดเมื่อวาน ใครได้ดูคลิปนี้แล้วช่วยแชร์ต่อ เหตุเกิดเมื่อวาน เมียซึ่งเป็นชาวไทย โดนสามีเป็นชาวพม่าทำร้ายร่างกายบาดเจ็บสาหัส ไม่สามารถออกมาแจ้งความได้ เนื่องจากสามีซึ่งเป็นชาวพม่าเฝ้าอยู่ตลอด จึงแอบส่งคลิปให้ดิฉันซึ่งเป็นเมียน้อยของชายคนนี้ ถ่ายโดยลูกสาวและลูกชายของผู้เจ็บ มาขอความช่วยเหลือดิฉันต้องจำใจทำ เพราะในอนาคตก็อาจจะเป็นดิฉันที่โดนเหมือนเขา ตอนนี้คนเจ็บนอนเจ็บอยู่ในบ้านจัดสรรหลังร้านเป็ดย่างคูเมือง ผู้เจ็บเป็นชาวจังหวัดชัยภูมิไม่มีใครกล้าไปช่วยเนื่องจากคิดว่าเป็นเรื่องของผัวเมีย เมื่อเดือนที่แล้วก็เตะซี่โครงหัก แต่เมียไม่ยอมเอาเรื่อง เรื่องถึงโรงพักหลายครั้งแล้วแต่ผู้ต้องหาก็ยังลอยนวลอยู่เหมือนเดิม ผู้ต้องหามีอาชีพเป็นคนฆ่าวัวควายนำเนื้อส่งขายตามตลาดทั่วไป เขาคงคิดว่าคนไทยเป็นวัวเป็นควายหรือยังไงก็ไม่รู้ มาหากินในประเทศไทยแต่กลับทำร้ายคนบนแผ่นดินไทย แล้วคนไทยจะร้องเพลงชาติไทยให้ใครฟัง พม่าดันไม่เจียมตัว
หลังจากคลิปดังกล่าว ถูกแชร์ต่อเป็นวงกว้าง และเมื่อน.ส.ชลิดา พะละมาตย์ หรือต้นอ้อ ประธานมูลนิธิเป็นหนึ่ง ทราบเรื่องก็ได้ประสานทาง พ.ต.อ.สมชัย โสภณปัญญาภรณ์ ผกก.สภ.คูเมือง จ.บุรีรัมย์ เพื่อให้ความช่วยเหลือ ต่อมาผู้กำกับการ สภ.คูเมือง ก็ได้สั่งการให้ชุดสืบสวน เข้าควบคุมตัวนายอาตุฮาน อายุ 35 ปี สามีชาวพม่ารายดังกล่าว ที่บ้านพักหลังหนึ่งใน อ.คูเมือง มาสอบสวน ซึ่งจากการตรวจค้นห้องพักก็พบไม้กวาดที่แตกหัก คาดว่าเป็นอุปกรณ์ที่ใช้ทำร้ายภรรยา และปืน 1 กระบอก แต่ตรวจสอบแล้วเป็นปืนเด็กเล่น แต่ได้ตรวจยึดไว้เป็นหลักฐาน ส่วน น.ส.เอ ภรรยา ชาวไทย ที่ถูกสามีซ้อมปางตายก็ได้รับการช่วยเหลือนำส่ง รพ.เพื่อทำการรักษาแล้ว และลูก 2 คน ก็อยู่กับแม่ที่ รพ.
เบื้องต้นจากการสอบถามนาย อาตุฮาน ชาวพม่า ก็ให้การรับว่า ได้ทำร้ายภรรยาจริง ด้วยการใช้ไม้กวาดตีประมาณ 5-6 ครั้งเท่านั้น แถมยังบอกด้วยว่าเป็นเรื่องธรรมดาของผัวเมียที่ต้องทะเลาะกันบ้าง ซึ่งพนักงานสอบสวนก็ได้ตั้งข้อกล่าวหาสามีชาวพม่า “ทำร้ายร่างกาย เป็นเหตุให้ผู้อื่นได้รับอันตรายแก่กายและจิตใจ”
ล่าสุด น.ส.ชลิดา พะละมาตย์ หรือ ต้นอ้อ เป็นหนึ่ง ประธานมูลนิธิเป็นหนึ่ง พร้อมด้วยพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ จ.บุรีรัมย์ บ้านพักเด็กและครอบครัว จ.บุรีรัมย์ จัดหางานจังหวัดและฝ่ายปกครอง ก็ได้ลงพื้นที่หาแนวทางช่วยเหลือหญิงที่ถูกสามีพม่าทำร้าย รวมถึงลูกทั้ง 2 คนด้วย โดยจะต้องดูแลทั้งบาดแผลทางร่างกาย และสภาพจิตใจควบคู่กัน
จากการลงพื้นที่เยี่ยมที่ รพ.พบว่า อาการดีขึ้น แต่สภาพจิตใจยังไม่พร้อมที่พูดคุยกับใคร ส่วนเรื่องคดีทางพนักงานสอบสวนก็จะรวบรวมพยานหลักฐานและดำเนินคดีตามกฎหมาย ประธานมูลนิธิเป็นหนึ่ง บอกว่า หลังทราบเรื่องที่เกิดขึ้นก็ประสานทั้ง พมจ. บ้านพักเด็ก และตำรวจให้ความช่วยเหลือในเบื้องต้นเพราะดูจากคลิปรอยช้ำที่เกิดขึ้นค่อนข้างน่าห่วงเกรงว่าจะช้ำใน ทั้งเป็นห่วงลูก 2 คนด้วย ซึ่งทางตำรวจก็ได้ประสาน รพ.เข้าไปช่วยเหลือนำตัวแม่มารักษา และควบคุมตัวสามีชาวพม่ามาสอบปากคำทันทีเพราะเหตุการณ์เกิดตั้งแต่วันที่ 14 ม.ค.68 หลังจากคนเป็นแม่ที่ถูกสามีทำร้ายอาการดีขึ้น ทางยายก็จะมารับทั้งตัวแม่และหลานๆ กลับไปอยู่ที่ จ.ชัยภูมิ
กรณีดังกล่าวไม่อยากให้มองว่าเป็นเรื่องภายในครอบครัวเพราะแม้จะเป็นสามีก็ไม่มีสิทธิ์จะทำร้ายภรรยาตัวเอง และที่น่าห่วงคือมีการข่มขู่ว่าหากแจ้งตำรวจจะฆ่าลูก และภรรยา จนทำให้ภรรยาไม่กล้าเอาเรื่อง ไม่อยากให้คนที่เห็นความรุนแรงแบบนี้แล้วปล่อยผ่าน และที่รับไม่ได้คือผู้ชายเป็นชาวต่างชาติมาอยู่ในแผ่นดินไทย แต่กลับมาทำร้ายคนไทย ดูหมิ่นศักดิ์ศรีหญิงไทยก็ไม่ถูกต้อง
ด้านนางกันตา ดีเติม พมจ.บุรีรัมย์ กล่าวว่า หลังจากทราบเรื่องก็ได้มีการบูรณาการร่วมกันหลายหน่วยงาน ลงพื้นที่ให้ความช่วยเหลือกรณีดังกล่าว โดยทางตำรวจก็ได้ดำเนินการเรื่องจับกุมดำเนินคดีกับผู้ก่อเหตุ ส่วนผู้ถูกกระทำก็อยู่ในความดูแลของแพทย์อย่างใกล้ชิด ทั้งนี้ก็จะมีนักจิตวิทยาเข้าไปดูแลเรื่องสภาพจิตใจควบคู่ด้วย พร้อมกันนี้ ยังได้ให้คำแนะนำเรื่องสิทธิตามกฎหมายเกี่ยวกับ พ.ร.บ.การใช้ความรุนแรงในครอบครัวด้วย ส่วนเรื่องการศึกษาของลูกผู้เสียหายก็มีทางศึกษาธิการจังหวัดเข้ามาร่วมดูแลด้วย.
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี