บุกรวบคู่รัก"ทอมดี้"คารีสอร์ทขับเก๋งคัมรี่รับจ้างขนยาเคตามีน 320 กก.มูลค่า 80 ล้าน เค้นสอบยังปากแข็งไม่ยอมเผยชื่อผู้ว่าจ้าง แถมยังยิ้มหน้าระรื่นไม่สะทกสะท้านน อ้างเพิ่งทำครั้งแรก เผยถูกลับลอบขนข้ามฝั่งโขง ใช้ประเทศไทยเป็นทางผ่าน เพื่อส่งต่อไปยังประเทศที่สาม หรือสถานบันเทิงหรูของกลุ่มไฮโซ
วันที่ 17 มกราคม 2568 ที่หน้ากองร้อยตำรวจตระเวนชายแดนที่ 237 (ตชด.237) ต.ไชยบุรี อ.ท่าอุเทน จ.นครพนม นายปราชญา อุ่นเพชรวรากร ผวจ.นครพนม พล.ต.ต.ศักดิ์ชาย สาดมะเริง ผบก.ภ.จว.นครพนม พ.อ.ศิวดล ยาคล้าย ผู้บังคับการควบคุมที่ 1 กรมทหารราบที่ 3 กองกำลังสุรศักดิ์มนตรี (ผบ.บก.ควบคุมที่ 1(ร.3) กกล.ฯ) นายนายนันวิทย์ นาคแสง ปลัดจังหวัดนครพนม นายชินวัต ทองปรีชา นายอำเภอท่าอุเทน พ.ต.อ.วุทธยา สิงห์กิ้ง ผกก.ตชด.23 พ.ต.อ.หญิง จิรนันท์ ธนะสิงห์ ผกก.พิสูจน์หลักฐานนครพนม (พฐ.ฯ) พ.ต.ท.ธนพล ท้าวหนู รอง ผกก.ตชด.23 พ.ต.ท.เรวัฒ จำปาน ผบ.ร้อย ตชด.237 และ ร.อ.ธนากร บึงเหล็ก ผบ.ร้อย ฉก.ทพ.2103 ร่วมแถลงข่าวการจับกุมผู้ต้องหา จำนวน 2 ราย พร้อมของกลางยาเคตามีน 320 ก้อน/กก. รถยนต์เก๋งยี่ห้อโตโยต้า รุ่นคัมรี่ (CAMRY) สีดำ ทะเบียน 3 กธ 9546 กทม. โทรศัพท์มือถือไอโฟน 16 สีทอง 1 เครื่อง โดยควบคุมตัวได้ในรีสอร์ทแห่งหนึ่ง พื้นที่ อ.ศรีสงคราม จ.นครพนม เมื่อเวลาประมาณเที่ยงคืนเศษของวันเดียวกัน
ทั้งนี้ จากการสืบสวนสอบสวนของหน่วยงานความมั่นคง ที่บูรณาการร่วมกันในการสกัดกั้น ตรวจค้น จับกุม ผู้กระทำผิดเกี่ยวกับยาเสพติดในพื้นที่ ได้รับข้อมูลจากชุดลาดตระเวน ว่า พบรถยนต์เก๋งโตโยต้า รุ่นคัมรี่ สีดำ มีพิรุธต้องสงสัย เนื่องจากตั้งแต่ช่วงหัวค่ำของวันที่ 16 มกราคม ได้ขับวนไปมาหลายรอบบนถนนทางหลวงแผ่นดินหมายเลข 2032 สายศรีสงคราม-ท่าดอกแก้ว จึงวางกำลังเฝ้าสังเกตการณ์ พร้อมตรวจเช็คภาพจากกล้องวงจรปิด ก่อนจะหลุดออกจากกล้องหายไปในช่วงเวลาประมาณสองทุ่มเศษ
กระทั่งเวลาประมาณ 4 ทุ่มเศษๆ รถยนต์เก๋งต้องสงสัยก็วิ่งผ่านกล้องวงจรปิด บริเวณสามแยกบ้านปฏิรูป ต.ศรีสงคราม เจ้าหน้าที่จึงขับรถยนต์ตามไปห่างๆ จึงพบว่ารถได้วิ่งเข้าไปจอดในรีสอร์ทแห่งหนึ่ง เขตชุมชนคุ้มโคราช เทศบาลตำบลศรีสงคราม มีคนสองคนออกจากรถลักษณะคล้ายผู้หญิงทั้งคู่ และเพื่อความมั่นใจชุดปฏิบัติได้ตรวจเช็คอย่างถี่ถ้วน เพราะอาจไม่ใช่ขบวนการค้ายาเสพติด โดยทำทีเป็นผู้ดูแลรีสอร์ทเข้าไปตรวจความเรียบร้อยรอบบริเวณ พร้อมใช้ไฟฉายส่องเข้าไปดูภายในเก๋ง พบกระสอบสี่เหลี่ยมพลาสติกสีดำวางอยู่เบาะด้านหลัง สันนิษฐานว่าน่าจะเป็นสิ่งผิดกฎหมาย จึงเรียกผู้พักอยู่ในห้องออกมา ใช้เวลาอยู่พักใหญ่ก่อนที่คนทั้งสองจะเปิดประตูออกมา ด้วยสีหน้าเรียบเฉย ทราบว่าทั้งคู่เป็นคู่รักทอมดี้กัน พร้อมยินยอมให้ตรวจค้นภายในรถ
พบกระสอบอยู่ภายในห้องโดยสาร 4 กระสอบ และท้ายรถอีก 4 กระสอบรวมเป็น 8 กระสอบ โดยถูกพันด้วยเทปกาวอย่างแน่นหนา จึงทำการเปิดออกมาดูเป็นถุงใส่ใบชาสีเขียว แต่ภายในห่อเป็นถุงพลาสติกใสซีลสุญญากาศ ทราบภายหลังว่าเป็นยาเคตามีน จำนวน 320 ถุง/กิโลกรัม จึงควบคุมตัวผู้ต้องหาทั้งสองคนไปสอบสวนขยายผล ชื่อ น.ส.อรสา ชื่อเล่นสาว อายุ 37 ปี เป็นคน อ.สะเดา จ.สงขลา และ น.ส.พิมชนก ชื่อเล่นนัด อายุ 31 ปี ชาว อ.บางละมุง จ.ชลบุรี โดยยอมรับว่าได้ร่วมกันขนยาเคเพื่อไปส่งผู้ว่าจ้างใน กทม. แต่ไม่ยอมบอกว่าเป็นใคร และได้ค่าจ้างเท่าไหร่ อ้างเพิ่งทำเป็นครั้งแรก
จากการตรวจสอบประวัติพบว่าสาวทอม มีอาชีพขับรถแท็กซี่อยู่ใน กทม. ส่วนน้องนัดคนเป็นดี้ ไม่ได้ประกอบอาชีพเป็นหลักแหล่ง โดยพักอาศัยอยู่ด้วยกันที่คอนโด แม้ทั้งสองจะไม่ยอมปริปากบอกถึงผู้ว่าจ้าง แต่จากการสอบสวนย้อนหลังจากกล้องวงจรปิด พบว่าเมื่อวันที่ 10 มกราคมที่ผ่านมา ตรวจพบรถยนต์เก๋งคันดังกล่าว ได้วิ่งเข้ามาในพื้นที่ อ.ศรีสงคราม และเปิดห้องพักที่เดียวกับที่ถูกจับกุม ซึ่งทั้งคู่อ้างได้รับการว่าจ้างจากนายทุนให้มารับยาเคที่นครพนม แต่ไม่ยอมบอกว่าให้มารับตรงบริเวณไหน แต่ไม่ได้ของจึงขับกลับ กทม. ก่อนที่นายทุนจะสั่งให้กลับไปรับใหม่เมื่อวันที่ 16 มกราคม จึงมาเปิดห้องพักนอนได้เพียง 2 ชั่วโมง ก็พากันออกไปรับของ แต่คนส่งยังไม่สะดวก จึงขับรถวนไปวนมากลายเป็นที่ผิดสังเกตของเจ้าหน้าที่ กระทั่งถูกจับกุมดังกล่าว
ทางด้าน นายปราชญา อุ่นเพชรวรากร ผวจ.นครพนม กล่าวว่า ตามที่รัฐบาล กองทัพบกโดยกองทัพภาคที่ 2 สำนักงานตำรวจแห่งชาติ โดยกองบัญชาการตำรวจตระเวนชายแดน มีนโยบายเร่งด่วนในการป้องกัน ปราบปราม การลักลอบลำเลียงยาเสพติดเข้าประเทศตามแนวชายแดนทั่วประเทศ และ จ.นครพนมเป็น 1 ใน 10 จังหวัดนำร่องพื้นที่ต้นแบบ ในการแก้ไขปัญหายาเสพติด จึงได้บูรณาการกับหน่วยงานความมั่นคงในพื้นที่ สืบสวนหาข่าว ลาดตระเวนตามช่องทางต่างๆ และตั้งจุดตรวจสกัดตามจุดเสี่ยง ซึ่งผลปฏิบัติครั้งสามารถจับกุมของกลางยาเคตามีน 320 กิโลกรัม ซึ่งราคาประเมินจาก ปปส. มีมูลค่ากว่า 80 ล้านบาท
ผู้สื่อข่าวรายงานเพิ่มเติมว่า ได้เข้าไปสอบถามผู้ต้องหาทั้งสองคน ซึ่งทั้งคู่มีท่าทีเรียบเฉย ไม่มีความวิตกกังวล พอรู้ว่าเป็นนักข่าวก็โบกมือไม่ขอให้รายละเอียดใดๆ ในขณะที่น้องนัดนั่งหัวเราะอย่างไม่สะทกสะท้านต่อเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น สำหรับยาเคตามีนของกลางล็อตนี้ คาดใช้ประเทศไทยเป็นทางผ่าน เพื่อส่งต่อไปยังประเทศที่สาม หรือสถานบันเทิงหรู นิยมใช้ในกลุ่มไฮโซ นำไปสูดดมหรือผสมน้ำ ราคาต้นทางประมาณกิโลกรัมหรือถุงละ 2-2.5 แสนบาท เมื่อไปถึงปลายทางราคาจะขยับขึ้น 2-3 เท่าตัว
-001
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี