เร่งดับไฟป่า‘เขากระทิง’
ป้องกันลุกลามเข้าสู่ชุมชน
เกิดเหตุไฟไหม้ป่าเขากระทิง บางเสร่จ.ชลบุรี เจ้าหน้าที่เร่งสกัดเพลิงหวั่นลามเข้าบ้านประชาชน ผบ.ทร. ส่งเฮลิคอปเตอร์ รถดับเพลิงคุมสถานการณ์ เร่งตรวจสอบต้นเพลิงกระทรวงเกษตรฯ จัดเฮลิคอปเตอร์ เร่งช่วยดับไฟ
เมื่อเวลา 19.30 น. ของวันที่ 17 มกราคม 2568 เกิดเหตุเพลิงไหม้ป่าบริเวณแนวเขากระทิง หมู่ที่ 6 ในพื้นที่เทศบาลเกล็ดแก้ว อ.สัตหีบ จ.ชลบุรี โดยไฟลุกลามเป็นวงกว้างและยังไม่มีทีท่าว่าจะสงบลง ด้านหน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้ลงพื้นที่ตรวจสอบ พร้อมประสานรถดับเพลิง จากหลายหน่วยงานระดมกำลังเข้าพื้นที่ เข้าสกัดต้นเพลิงเพื่อป้องกันไม่ให้ไฟลุกลามเข้าบ้านเรือนประชาชนที่อยู่ใกล้จุดเกิดเหตุ ทางเจ้าหน้าที่ดับเพลิงได้ปฏิบัติงานอย่างเต็มที่เพื่อคลายความเดือดร้อนของประชาชน
จากการตรวจสอบพบว่าพื้นที่ไฟไหม้อยู่ใกล้จากบ้านเรือนประชาชน จึงได้มีทีมดับเพลิงจากหลายหน่วยงานเข้าเฝ้าระวังบริเวณรอบเขาทั้งคืน ส่วนสาเหตุยังไม่สามารถยืนยันได้ว่าเกิดจากปรากฏการณ์ธรรมชาติหรือฝีมือมนุษย์
ความคืบหน้าเรื่องนี้ เมื่อวันที่ 18 มกราคม 2568 พบว่า ไฟบนยอดเขายังคงปะทุอยู่ ด้าน ทาง อ.สัตหีบ ร่วมด้วย เทศบาลตำบลเกล็ดแก้ว และเจ้าหน้าที่กองทัพเรือ ได้จัดตั้งศูนย์บัญชาการ เหตุการณ์ดับไฟ และควบคุมสถานการณ์ไม่ให้ลุกลามเข้าสู่ชุมชนรอบแนวพื้นที่ โดยวางกำลังเจ้าหน้าที่ดับเพลิงในพื้นที่ ตั้งแนวกั้นไฟรอบเขา และบนยอดเขา ที่เจ้าหน้าที่เดินเท้าเข้าไม่ถึง เพื่อไม่ให้ลุกลามเข้าสู่ชุมชน ทั้งนี้กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ได้จัดเฮลิคอปเตอร์ ดับไฟป่า เข้าสมทบการดับไฟบนเขากระทิง
ที่อนุสรณ์สถานแห่งชาติ พล.ร.อ.จิรพล ว่องวิทย์ ผู้บัญชาการทหารเรือ (ผบ.ทร.) กล่าวถึงเกิดเหตุเพลิงไหม้ป่าบริเวณแนวเขากระทิง ว่า ได้มีการส่งกำลังพล พร้อมอุปกรณ์ในการดับไฟ เข้าไปช่วยสนับสนุนหน่วยงานราชการต่างๆ ตามที่ได้ร้องขอ ซึ่งทราบว่าสามารถควบคุมเพลิงได้ตั้งแต่เมื่อคืนนี้ โดยปัจจุบันกองทัพเรือได้จัดส่งเฮลิคอปเตอร์และรถดับเพลิงเข้าไปสำรวจในพื้นที่ เนื่องจากเกิดเหตุไฟไหม้มา 2 รอบ ในห้วงเวลาไล่เลี่ยกัน ซึ่งหากเป็นไปได้เพลิงจะสงบภายในวันนี้ ในเบื้องต้นคาดว่าเป็นไฟป่า แต่ต้นเพลิงมาจากที่ใดต้องไปสำรวจ และผู้เกี่ยวข้องจะต้องไปสอบสวน เพียงแต่ไฟเริ่มลามมาใกล้หมู่บ้าน จึงมีการร้องขอไปยังกองทัพเรือให้การช่วยเหลือ
ทั้งนี้ ผู้บัญชาการทหารเรือให้ความมั่นใจกับประชาชนว่า ในพื้นที่ที่เป็นอันตรายสามารถสกัดเพลิงได้ทั้งหมดแล้ว เหลือเพียงพื้นที่ที่เข้าถึงยาก แต่ไม่ได้ส่งผลกระทบต่อประชาชน
ส่วนเหตุการณ์ไฟไหม้อีก 1 แห่ง เกิดขึ้นที่บ่อขยะเอกชนใน ต.ท้ายบ้านใหม่ อ.เมืองสมุทรปราการ ตั้งแต่ช่วงตีสองของ วันที่ 17 มกราคม 2568 ที่ผ่านมา จนทำเกิดแสงเพลิงและกลุ่มควันสีดำจำนวนมากปกคลุมหลายหมู่บ้านสร้างความเดือดร้อนให้กับประชาชนหลายร้อยครอบครัว จนต้องอพยพไปอยู่ที่อื่น
ผู้สื่อข่าวรายงานสถานการณ์ดังกล่าวว่า ในช่วงสายของวันที่ 18 มกราคม ไฟยังคงคุกรุ่นและลุกลามไหม้อย่างต่อเนื่อง เจ้าหน้าที่ยังคงเร่งควบคุมไฟไม่ให้ลุกลามและรุนแรงมากไปกว่าเดิม โดยมีอุปสรรคสำคัญคือการเข้าไปยังต้นตอของเพลิงไหม้ ซึ่งเป็นลักษณะบ่อน้ำและป่าปรือ ทำให้ไม่สามารถนำเครื่องจักรกลหนัก อย่างเช่นรถแบ็คโฮ เข้าไปจุดดังกล่าวได้
ขณะที่ในชุมชนยังคงมีกลุ่มควันปกคลุมทั่วชุมชนอย่างเห็นได้ชัด หลายครอบครัวต้องปิดบ้านร้างเอาไว้เพื่ออพยพไปอยู่บ้านญาติที่อื่นบ้างไปอยู่ที่ศูนย์พักพิงชั่วคราวที่ทางเทศบาลจัดเตรียมไว้
ส่วนภารกิจของเจ้าหน้าที่ในวันนี้ พบว่านอกจากนักผจญเพลิงจากเทศบาลตำบลบางปูและหน่วยงานข้างเคียงแล้ว ยังมีหน่วยบรรเทาสาธารณะภัยทีมบรรเทาปราการ ซึ่งเป็นอาสาสมัครนักดับเพลิง ต่างเสียสละเวลากันเข้ามาช่วยกันสับเปลี่ยนกำลังพลในการดับไฟ
นอกจากนี้ ยังมีเจ้าหน้าที่ทหารจากสำนักงานพัฒนาภาค 1 หน่วยบัญชาการทหารพัฒนา กองทัพไทย เดินทางมาจากจังหวัดฉะเชิงเทรา เพื่อร่วมกันวางแผนและส่งกำลังพลเข้าร่วมทีมปฏิบัติการในการดับไฟในครั้งนี้ โดยมีกรมป้องกันและบรรเทาสาธารภัยเป็นแม่งาน และจัดเตรียมอุปกรณ์เครื่องจักรกลหนัก เช่น เครื่องส่งน้ำระยะไกล รถแบ็คโฮคอยาว โป๊ะเรือ ขณะที่ อบจ.สมุทรปราการ ระดมรถบรรทุกน้ำพ่นละอองฝอยมาติดตั้งเครื่องเพื่อพ่นละอองน้ำในพื้นที่ลดการเกิดควันและมลพิษทางอากาศให้กับชุมชน
นายเอกลักษณ์ ศรีชมพันธ์ รองนายกเทศมนตรีเทศบาลตำบลบางปู เปิดเผยว่า หลังจากนี้ต้องวางแผนกันต่อว่าจะใช้แนวทางใดในการควบคุมเพลิง ถึงแม้ว่าล่าสุดสถานการณ์ของควันไฟจะดีขึ้นแต่ก็ยังไม่ไว้วางใจ ซึ่งจะมีการใช้โดรนในการบินหาสแกนความร้อนในพื้นที่เพื่อดูว่าจุดไหนยังมีความร้อนอยู่ใต้ดิน จากนั้นจะใช้รถแบ็คโฮคุ้ยดันหรือฉีดน้ำลดความร้อนป้องกันการปะทุซ้ำ ส่วนต้นเพลิงหากวางโป๊ะสำเร็จก็จะนำรถแบ็คโฮเข้าไปคุ้ยและดันกองขยะที่ติดไฟลงสู่ในน้ำของบ่อ
“ตอนนี้ให้ความสำคัญเรื่องการหยุดควันไฟให้ลดลงมากที่สุดเพราะส่งผลกระทบต่อประชาชน ซึ่งหากเครื่องไม้เครื่องมือมาครบและพร้อมที่จะลุย ก็คาดว่าจะใช้เวลาไม่เกินสามวันในการดับให้สนิท ส่วนมาตรการเยียวยาผลกระทบต่อประชาชน ขณะนี้มีการตั้งวอร์รูมรับเรื่องและดูแลประชาชนอย่างใกล้ชิด” นายเอกลักษณ์ กล่าว
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี