บรรยากาศงานศพ"การ์ดผับ"ที่กันทรลักษณ์เหยื่อปืนโหด เต็มไปด้วยความโศกเศร้า พร้อมทั้งนิมนต์พระสงฆ์เรียกดวงวิญญาณจากที่เกิดเหตุกลับบ้าน ด้านแม่-เมียผู้เสียชีวิตคยังไม่หายช็อก ถามผู้ก่อเหตุว่าทำไมต้องยิงกันให้ตายด้วยสาเหตุมาจากอะไร??

18 ม.ค.68 ความคืบหน้าคดีสะเทือนขวัญยิงกันหน้าสถานบันเทิงแห่งหนึ่งในตัวอำเภอกันทรลักษณ์ จังหวัดศรีสะเกษ เป็นเหตุให้มีผู้เสียชีวิต 1 ราย และได้รับบาดเจ็บ 1 รายโดยคนถูกยิงเสียชีวิต 1 รายคือ นายเชิดศักดิ์ เงาศรี อายุ 30 ปี เป็นคนบ้านโนนชมพู ตำบลเวียนเหนือ อำเภอกันทรลักษณ์  จังหวัดศรีสะเกษ เป็นหัวหน้าการ์ดของสถานบันเทิงดังกล่าว ส่วนผู้ก่อเหตุทราบชื่อนายโจ้ อายุประมาณ 20 ปี เป็นคนอำเภอกันทรลักษณ์ ตามข่าวที่เสนอไปแล้วนั้น (อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง : ออกหมายจับ'ไอ้โจ้'มือยิงดับการ์ดผับกันทรลักษณ์ แฉนิสัยเสียมาเที่ยวชอบมีเรื่องประจำ)

ล่าสุด ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่บ้านเลขที่ 99/1 บ้านสว่าง ม.11 ต.น้ำอ้อม อ.กันทรลักษ์ จ.ศรีสะเกษ ญาตินายเชิดศักดิ์ เงาศรี การ์ดทำงานในผับที่ถูกยิงเสียชีวิต นำร่างมาบำเพ็ญกุศลที่บ้าน โดยภายในบ้านญาติและเพื่อนๆต่างเร่งช่วยกันจัดเตรียมสถานที่ กางเต้นเรียงเก้าอี้เพื่อรอรับแขกที่จะเดินทางมาร่วมงานศพ

จากการสอบถามนางสมพร พุ่มจันทร์ อายุ 67 ปี มารดาผู้เสียชีวิตเล่าว่า ผู้ตายเป็นบุตรชายตนคนเล็กตอนเกิดเหตุนั้น ลูกหลานก็ไม่ได้เล่าอะไรให้ตนนั้นฟังเพราะเกรงว่าตนนั้นจะสะเทือนใจ ตนนั้นมาทราบเรื่องตอนประมาณตี3 ซึ่งลูกๆหลานๆได้ดำเนินการจนเสร็จสิ้นแล้ว ตนนั้นทราบเพียงว่าลูกชายตนนั้นไปทำงานที่ร้านดังกล่าว แล้วเกิดเหตุมีคนยิงปืนใส่ลูกจนเสียชีวิต

ด้านนางกมลวรรณ อินธิเดช อายุ 32 ภรรยาผู้ตายเล่าว่า ไม่มีลางบอกเหตุใดๆก่อนหน้านี้เลย ว่าสามีตนนั้นจะต้องมาเสียชีวิต รู้แค่ว่ามีคนโทร.มาแจ้งว่ามีคนมายิงสามีแต่ก็ไม่คิดว่าจะถึงขั้นตาย และไม่รู้สาเหตุเลยว่ายิงกันด้วยเหตุใด ซึ่งเวลาไปทำงานปกติสามีก็แค่เคยเล่าว่าเวลามีแขกตีกัน ก็ต้องเข้าไปห้าม อยากถามผู้ก่อเหตุว่าทำไมต้องยิงกันให้ตายด้วยสาเหตุมาจากอะไร

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในช่วงบ่าย ภรรยาของผู้เสียชีวิตก็ได้นำเอาอาหารที่ใช้วางเซ่นไหว้หน้าโลงศพ มาทำพิธีตามความเชื่อโดยการนำเอาอาหารที่เซ่นไหว้หน้าศพมาฝังดิน เพื่อส่งให้กับผู้ที่เสียชีวิตตามความเชื่อของคนในพื้นที่ ขณะที่บริเวณจุดเกิดเหตุเมื่อคืนนี้ ญาติได้นิมนต์พระจำนวน 1 รูปพร้อมนำเอาเสื้อผ้าข้าวของเครื่องใช้ผู้ตาย เดินทางมายังบริเวณจุดเกิดเหตุ เพื่อทำพิธีเรียกดวงวิญญาณ ท่ามกลางน้ำตาความเสียใจของญาติที่เดินทางมาประกอบพิธี