‘ตำรวจทางหลวง’ไล่สกัดจับแก๊งขนแรงงานต่างด้าวลักลอบเข้าเมือง
19 มกราคม 2568 กองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง (บช.ก.) โดยกองบังคับการตำรวจทางหลวง (บก.ทล.) ภายใต้อำนวยการของ พล.ต.ต.ท.จิรภพ ภูริเดช ผบช.ก. , พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว รอง ผบช.ก. , พล.ต.ต.คงกฤช เลิศสิทธิกุล ผบก.ทล. , พ.ต.อ.บุญลือ ผดุงถิ่น รอง ผบก.ป. ปฏิบัติราชการรอง ผบก.ทล , พ.ต.สุขสวัสดิ์ คูสิทธิผล รอง ผบก.ทล. , พ.ต.อ.เอกนิรุจฒิ วันสิริภักดิ์ ผกก.1 บก.ทล. , พ.ต.ท.ธัช โพธิ์สุรรณ รอง.ผกก.1 บก.ทล. , พ.ต.ท.นาวิน คงสว่าง รอง.ผกก.1 บก. เจ้าหน้าที่ชุดจับกุมนำโดย พ.ต.ท.วรบดินทร์ เลิศศุภสินสถิต สว.ส.ทล.5 กก.1 บก.ทล. พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่ ส.ทล.5 กก.1 บก.ทล. ร่วมกันจับกุม
1.นายจายอ่อง อายุ 25 ปี (ผู้ขับขี่) กระทำความผิดฐาน “รู้ว่าคนต่างด้าวคนใดเข้ามาในราชอาณาจักรโดยฝ่าฝืนกฎหมาย ให้เข้าพักอาศัย ช่อนเร้น หรือช่วยด้วยประการใดๆ เพื่อให้คนต่างด้าวนั้นพ้นจากการจับกุม”
2.ผู้ต้องหาสัญชาติเมียนมา จำนวน 12 คน กระทำความผิดฐาน “เป็นคนต่างด้าวเดินทางเข้ามาและอยู่ในราชอาณาจักรโดยไม่ได้รับอนุญาต” พร้อมตรวจยึดของกลาง รถยนต์กระบะ ยี่ห้อTOYOTA สีเทา โดยจับกุมได้บริเวณหน้าหน่วยบริการตำรวจทางหลวงเขาทราย ทล.11 กม.131 ต.เขาทราย อ.ทับคล้อ จ.พิจิตร
สืบเนื่องจาก กก.1 บก.ทล. ได้มีการกวดขันจับกุมแรงงานต่างด้าวผิดกฎหมายและผู้นำพาในเส้นทางพื้นที่ ขณะเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดจับกุมได้ออกตรวจเส้นทาง ทล.11 กม.131 พบรถยนต์กระบะ ยี่ห้อTOYOTA สีเทา ขับขี่มาและสังเกตเห็นว่ามีน้ำหนักที่รถมากกว่ารถยนต์ปกติ มีเหตุอันควรสงสัยว่าจะลักลอบขนคนต่างด้าวผิดกฎหมาย โดยเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดจับกุมได้ส่งสัญญาณไฟกระพริบสีแดงและใช้สัญญาณเสียงรวมถึงการพูดออกคำสั่งผ่านไมโครโฟนเรียกให้รถยนต์คันดังกล่าวหยุด เมื่อรถยนต์คันดังกล่าวหยุด เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดจับกุมจึงเดินไปที่รถยนต์กระบะคันดังกล่าวพร้อมแสดงตนว่าเป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจขอทำการตรวจสอบรถยนต์กระบะคันดังกล่าว
จากการตรวจสอบพบนายจายอ่อง แสดงท่าทางมีพิรุธ และมีการใช้โทรศัพท์ตลอดเวลาและมีบุคคลจำนวน 12 คน นั่งโดยสารมากับรถยนต์กระบะคันดังกล่าว จากนั้นเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดจับกุมจึงเชิญมาตรวจสอบเอกสารอย่างละเอียดอีกครั้งที่หน่วยบริการประชาชนตำรวจทางหลวงเขาทราย พบว่า ผู้ที่นั่งโดยสารมาด้วยเป็นคนต่างด้าวสัญชาติเมียนมา ไม่มีหนังสือเดินทางหรือเอกสารใช้แทนการเดินทางแต่อย่างใดแสดง จากการสอบถาม
นายจายอ่อง ให้การยอมรับว่า ตนได้ขับขี่รถยนต์กระบะ โดยได้ขับขี่มารับตัวผู้ถูกจับที่ 2 – 13 ที่ จ.ลำปาง และจะนำผู้ถูกจับที่ 2 – 13 ไปส่งที่ จ.สระบุรี โดยกระทำแบบนี้เป็นครั้งที่ 2 ได้ค่าจ้างครั้งละ 3,000บาท และทราบดีอยู่แล้วว่าผู้ถูกจับที่ 2 - 13 เป็นแรงงานต่างด้าวไม่มีหนังสือเดินทางหรือเอกสารแทนหนังสือเดินทางใดๆและยินยอมที่จะนำพามาส่งที่ปลายทาง
เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดจับกุม ได้สอบถามผู้ถูกจับที่ 2 – 13 ให้การยอมรับว่า ได้ลักลอบเดินทางเข้ามาในประเทศไทยทางช่องทางธรรมชาติและเดินเข้ามา ในพื้นที่ จ.เชียงใหม่ และจะมีคนพาออกมาขึ้นรถที่นำพาเพื่อจะเข้ามาหางานทำในประเทศไทย เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดจับกุมจึงแจ้งข้อกล่าวหา พร้อมกับแจ้งสิทธิให้ทราบฯ จากนั้นจึงควบคุมตัวพร้อมของกลางนำส่งพนักงานสอบสวน สถานีตำรวจภูธรทับคล้อ ภ.จว.พิจิตร ดำเนินการตามกฎหมายต่อไป สอบถามคำให้การผู้ต้องหาเบื้องต้น รับสารภาพ ตลอดข้อกล่าวหา
อีกคดีร่วมกันจับกุม 1.นายจายห่านอ่องฯ อายุ 20 ปี (ผู้ขับขี่) กระทำความผิดฐาน “รู้ว่าคนต่างด้าวคนใดเข้ามาในราชอาณาจักรโดยฝ่าฝืนกฎหมาย ให้เข้าพักอาศัย ซ่อนเร้น หรือช่วยด้วยประการใดๆ เพื่อให้คนต่างด้าวนั้นพ้นจากการจับกุม” 2.ผู้ต้องหาสัญชาติเมียนมา จำนวน 12 คน กระทำความผิดฐาน “เป็นคนต่างด้าวเดินทางเข้ามาและอยู่ในราชอาณาจักรโดยไม่ได้รับอนุญาต” พร้อมตรวจยึดของกลาง 1.รถยนต์กระบะ ยี่ห้อTOYOTA สีเทา 2.กุญแจรถยนต์ จำนวน 1 ดอก
สืบเนื่องจากขณะเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดจับกุมได้ออกตรวจเส้นทาง ทล.11 กม.131 พบ รถยนต์กระบะ ยี่ห้อTOYOTA สีเทา ขับขี่มาและสังเกตเห็นว่ามีน้ำหนักที่รถมากกว่ารถยนต์ปกติ มีเหตุอันควรสงสัยว่าจะลักลอบขนคนต่างด้าวผิดกฎหมาย โดยเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดจับกุมได้ส่งสัญญาณไฟกระพริบสีแดงและใช้สัญญาณเสียงรวมถึงการพูดออกคำสั่งผ่านไมโครโฟนเรียกให้รถยนต์คันดังกล่าวหยุด เมื่อรถยนต์คันดังกล่าวหยุด เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดจับกุมจึงเดินไปที่รถยนต์กระบะคันดังกล่าวพร้อมแสดงตนว่าเป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจขอทำการตรวจสอบรถยนต์กระบะคันดังกล่าว
จากการตรวจสอบพบนายจายอ่อง แสดงท่าทางมีพิรุธ และมีการใช้โทรศัพท์ตลอดเวลาและมีบุคคลนั่งโดยสารมากับรถยนต์กระบะคันดังกล่าวจำนวน 12 คน จากนั้นเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดจับกุมจึงเชิญมาตรวจสอบเอกสารอย่างละเอียดอีกครั้งที่หน่วยบริการประชาชนตำรวจทางหลวงเขาทราย พบว่าบุคคลนั่งโดยสารมากับรถยนต์กระบะคันดังกล่าวเป็นคนต่างด้าว สัญชาติเมียนมา ไม่มีหนังสือเดินทางหรือเอกสารใช้แทนการเดินทางแต่อย่างใดแสดง จากการสอบถามผู้ถูกจับที่ 1 ให้การยอมรับว่าตนได้ขับขี่ รถยนต์กระบะ ยี่ห้อTOYOTA สีเทา โดยได้ขับขี่มารับตัวผู้ถูกจับที่ 2 – 13 ที่ จ.ลำปางและจะนำผู้ถูกจับที่ 2 – 13 ไปส่งที่ จ.สระบุรี โดยกระทำแบบนี้เป็นครั้งที่สอง ได้ค่าจ้างครั้งละ 1,000 บาท และทราบดีอยู่แล้วว่า ผู้ถูกจับที่ 2 - 13 เป็นแรงงานต่างด้าวไม่มีหนังสือเดินทางหรือเอกสารแทนหนังสือเดินทางใดๆและยินยอมที่จะนำพามาส่งที่ปลายทาง
เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดจับกุม ได้สอบถามผู้ถูกจับที่ 2 – 13 ให้การยอมรับว่า ได้ลักลอบเดินทางเข้ามาในประเทศไทยทางช่องทางธรรมชาติและเดินเข้ามา ในพื้นที่ จ.เชียงใหม่ และจะมีคนพาออกมาขึ้นรถที่นำพาเพื่อจะเข้ามาหางานทำในประเทศไทย เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดจับกุมจึงแจ้งข้อกล่าวหา พร้อมกับแจ้งสิทธิให้ทราบฯ จากนั้นจึงควบคุมตัวพร้อมของกลางนำส่งพนักงานสอบสวน สถานีตำรวจภูธรทับคล้อ ภ.จว.พิจิตร ดำเนินการตามกฎหมายต่อไป สอบถามคำให้การผู้ต้องหาเบื้องต้น รับสารภาพ ตลอดข้อกล่าวหา
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี