ทั่วไทยอากาศเย็น

กทม.ต่ำสุด18องศา

‘ภาคใต้’ฝนน้อยลง

เตือนดูแลสุขภาพ

กรมอุตุฯเผยทั่วไทย อากาศเย็น กทม.อุณหภูมิต่ำสุด 18 องศาฯ ส่วนภาคใต้ มีฝนลดลง ขณะที่รัฐบาลชี้ช่วงนี้ถึง 24 มกราคม ไทยจ่อหนาวซ้ำอีก เตือนดูแลสุขภาพ เฝ้าระวัง 4 กลุ่มโรคระบาดหน้าหนาว

เมื่อวันที่ 19 มกราคมกรมอุตุนิยมวิทยา พยากรณ์อากาศว่า ภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ และภาคกลางยังคงมีอากาศเย็นถึงหนาว กับมีหมอกในตอนเช้า ส่วนภาคตะวันออก และภาคใต้ตอนบน รวมทั้งกทม.และปริมณฑล มีอากาศเย็นในตอนเช้า สำหรับบริเวณยอดดอยและยอดภูมีอากาศหนาวถึงหนาวจัด และมีน้ำค้างแข็งบางแห่ง ขอให้ประชาชนบริเวณประเทศไทยดูแลรักษาสุขภาพเนื่องจากสภาพอากาศที่ยังคงหนาวเย็น และระวังอันตรายจากอัคคีภัยที่อาจจะเกิดขึ้นเนื่องจากอากาศแห้ง รวมทั้งเพิ่มความระมัดระวังในการสัญจรผ่านบริเวณที่มีหมอก

ทั้งนี้เนื่องจากบริเวณความกดอากาศสูงหรือมวลอากาศเย็นกำลังปานกลางปกคลุมประเทศไทยตอนบนและทะเลจีนใต้ สำหรับมรสุมตะวันออกเฉียงเหนือที่พัดปกคลุมอ่าวไทย ภาคใต้ และทะเลอันดามันมีกำลังอ่อนลง ทำให้ภาคใต้ตอนล่างมีฝนลดลง ส่วนคลื่นลมบริเวณอ่าวไทยและทะเลอันดามันมีกำลังปานกลาง โดยอ่าวไทยตอนล่างมีคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร อ่าวไทยตอนบนมีคลื่นสูง 1–2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงกว่า 2 เมตร ทะเลอันดามันมีคลื่นสูงประมาณ 1 เมตร ห่างฝั่งคลื่นสูง 1-2 เมตร ขอให้ชาวเรือในบริเวณดังกล่าวเดินเรือด้วยความระมัดระวัง และหลีกเลี่ยงการเดินเรือในบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนอง

สภาวะอากาศที่มีผลต่อการสะสมฝุ่นละอองในระยะนี้ การระบายของอากาศอยู่ในเกณฑ์ “ไม่ดี-อ่อน” และลมที่พัดปกคลุมบริเวณประเทศไทยตอนบนมีกำลังอ่อนลง ประกอบกับเกิดอินเวอร์ชั่นใกล้ผิวพื้นอย่างต่อเนื่อง ทำให้มลพิษทางอากาศแพร่กระจายได้อย่างจำกัด คาดว่าความเข้มข้นของฝุ่นละอองมีแนวโน้มเพิ่มขึ้น

พยากรณ์อากาศสำหรับประเทศไทย ภาคเหนือ อากาศเย็นถึงหนาวกับมีหมอกในตอนเช้า อุณหภูมิต่ำสุด 11-18 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 28-33องศาฯ บริเวณยอดดอยอากาศหนาวถึงหนาวจัด และมีน้ำค้างแข็งบางแห่ง อุณหภูมิต่ำสุด 3-10องศาฯ ลมตะวันออกเฉียงเหนือ ความเร็ว 5-15 กม./ชม.ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ อากาศเย็นถึงหนาวกับมีหมอกบางในตอนเช้า อุณหภูมิต่ำสุด 11-16 องศาฯ อุณหภูมิสูงสุด 28-31 องศาฯ บริเวณยอดภูอากาศหนาวถึงหนาวจัด อุณหภูมิต่ำสุด 7-12 องศาฯ ลมตะวันออกเฉียงเหนือ ความเร็ว 10-15 กม./ชม.

ภาคกลาง อากาศเย็นถึงหนาวกับมีหมอกบางในตอนเช้า อุณหภูมิต่ำสุด 15-19 องศาฯ อุณหภูมิสูงสุด 31-33 องศาฯ ลมตะวันออกเฉียงเหนือ ความเร็ว 10-15 กม./ชม.ภาคตะวันออก อากาศเย็นกับมีหมอกบางในตอนเช้า อุณหภูมิต่ำสุด 16-22 องศาฯ อุณหภูมิสูงสุด 31-33 องศาฯ ลมตะวันออกเฉียงเหนือ ความเร็ว 15-35 กม./ชม.ทะเลมีคลื่นสูงประมาณ 1 เมตร ห่างฝั่งคลื่นสูง 1-2 เมตร

ภาคใต้ (ฝั่งตะวันออก)ตอนบนของภาคมีอากาศเย็นในตอนเช้า โดยมีฝนฟ้าคะนอง ร้อยละ 20 ของพื้นที่ ส่วนมากบริเวณ จ.พัทลุง สงขลา ปัตตานี ยะลา และนราธิวาส อุณหภูมิต่ำสุด 18-24 องศาฯ อุณหภูมิสูงสุด 29-31 องศาฯ ตั้งแต่ จ.นครศรีธรรมราชขึ้นไป ลมตะวันออกเฉียงเหนือ ความเร็ว 15-35 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นสูง 1-2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงกว่า 2 เมตรตั้งแต่ จ.สงขลาลงมา ลมตะวันออกเฉียงเหนือ ความเร็ว 20-35 กม./ชม.ทะเลมีคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงกว่า 2 เมตร

ภาคใต้ (ฝั่งตะวันตก) ตอนบนของภาคมีอากาศเย็นในตอนเช้า โดยมีฝนเล็กน้อยบางแห่ง ส่วนมากทางตอนล่างของภาค อุณหภูมิต่ำสุด 21-25 องศาฯ อุณหภูมิสูงสุด 30-32 องศาฯ ลมตะวันออกเฉียงเหนือ ความเร็ว 15-35 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นสูงประมาณ 1 เมตร ห่างฝั่งคลื่นสูง 1-2 เมตรขณะที่ กทม.และปริมณฑล อากาศเย็นกับมีหมอกบางในตอนเช้า อุณหภูมิต่ำสุด 18-22 องศาฯ อุณหภูมิสูงสุด 31-34 องศาฯ ลมตะวันออกเฉียงเหนือ ความเร็ว 10-15 กม./ชม.

ด้าน น.ส.ศศิกานต์ วัฒนะจันทร์ รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยถึงสภาพอากาศ ว่า ช่วงกลางสัปดาห์ จะยังมีอากาศหนาวเย็น โดยกรมอุตุนิยมวิทยา พยากรณ์อากาศช่วงวันที่ 19-24 มกราคมนี้ ความกดอากาศสูงหรือมวลอากาศเย็นกำลังค่อนข้างแรง ที่ปกคลุมประเทศไทยตอนบน จะทำให้ยังคงมีอากาศหนาวเย็นต่อไปตลอดสัปดาห์นี้ จึงขอแนะนำให้ประชาชนดูแลสุขภาพ ในช่วงอากาศหนาวเย็น ซึ่งมักพบการแพร่ระบาดโรคและภัยสุขภาพที่เกิดจากภัยหนาว 4 กลุ่ม ดังนี้ โรคติดต่อระบบทางเดินหายใจ,โรคติดต่อทางเดินอาหารและน้ำ ได้แก่ โรคอุจจาระร่วง, โรคติดต่อที่สำคัญในช่วงฤดูหนาว ได้แก่ โรคหัด และโรคมือ เท้า ปาก และโรคภัยสุขภาพหรือการเสียชีวิตที่เกี่ยวเนื่องจากอากาศหนาวโดยไม่ทราบสาเหตุ ส่วนใหญ่เกิดจากภาวะหัวใจล้มเหลวเฉียบพลัน เนื่องจากไม่มีเครื่องนุ่งห่ม หรือเครื่องห่มกันหนาวที่เพียงพอ และมีประวัติการดื่มสุราเป็นประจำ

“รัฐบาลแนะนำให้ประชาชนป้องกันตนเองในช่วงอากาศหนาว ด้วยการดูแลสุขภาพให้แข็งแรง ออกกำลังกายสม่ำเสมอ รับประทานอาหารที่มีประโยชน์ ปรุงสุก ดื่มน้ำสะอาด ดูแลอนามัยส่วนบุคคล หมั่นล้างมือ ไม่ใช้ของส่วนตัวร่วมกับผู้อื่น หากมีอาการไอจาม มีน้ำมูก และควรสวมหน้ากากผ้าหรือหน้ากากอนามัยเมื่อต้องอยู่ในสถานที่ที่อากาศถ่ายเทไม่สะดวก ซึ่งจะช่วยป้องกันได้ทั้งโรคติดต่อทางเดินหายใจและโรคโควิด-19 รักษาร่างกายให้อบอุ่นด้วยเครื่องนุ่งห่มกันหนาวที่เพียงพอกับสภาพอากาศ และงดดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์” น.ส.ศศิกานต์ กล่าว