‘ป.ป.ส. –กองทัพเรือ’บุกโกดังย่านบางปะกอก จับผู้ต้องหา‘แก๊งไอซ์ข้ามชาติ’ 5 ราย น้ำหนัก 1.65 ตัน ยึดใยฝ้าย 140 ม้วน พบชุบเกร็ดไอซ์ พร้อมยึดทรัพย์‘บิ๊กบอส’นักค้ายาข้ามชาติ 20 ล้าน ขณะเตรียมเผ่นหนี คุมพื้นที่ลำเลียงยานรก 3 ภาคในไทย
เมื่อเวลา 10.30 น.วันที่ 20 มกราคม 2568 ที่สำนักงานป้องกันและปราบปรามยาเสพติด (ป.ป.ส.) พล.ต.ท.ภาณุรัตน์ หลักบุญ เลขาธิการ ป.ป.ส. พร้อมด้วยนายปฤณ เมฆานันท์ ผอ.สำนักปราบปรามยาเสพติด และผู้แทนหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ร่วมกันแถลงผลการดำเนินงานด้านปราบปรามยาเสพติดใน 2 คดีสำคัญ ประกอบด้วย 1.ผลปฏิบัติการขยายผลจับกุมและยึดทรัพย์สินนักค้ายาเสพติดรายสำคัญตามประกาศสืบจับ ยึดทรัพย์ 20 ล้านบาท เป็นผู้ต้องหาตามหมายจับคดียาเสพติด เป็นนักค้ายาเสพติดระดับผู้สั่งการ มีบทบาทเป็นผู้ประสานงาน ควบคุมการลำเลียงยาเสพติดในพื้นที่ภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ และภาคใต้ จับกุมได้ขณะเตรียมหลบหนีออกนอกประเทศ และ 2.ปฏิบัติการจับกุมเครือข่ายไอซ์ข้ามชาติ ใช้ไทยเป็นประเทศทางผ่านเพื่อเตรียมลำเลียงต่อไปยังปลายทางประเทศ เป็นการอำพรางยาเสพติดในม้วนใยฝ้าย มีไอซ์ลักษณะเป็นเกร็ดปะปน รวมถึงปนอยู่ในเนื้อฝ้าย เหตุเกิดภายในโกดังพื้นที่แขวงบางประกอก เขตราษฎร์บูรณะ กทม.
นายปฤณ เมฆานันท์ ผอ.สำนักปราบปรามยาเสพติด สำนักงาน ป.ป.ส. เปิดเผยว่า สำหรับคดีที่ 1 เมื่อวันที่ 13 ม.ค.ที่ผ่านมา ได้มีการเปิดปฏิบัติการขยายผลจับกุมและยึดทรัพย์สินค้ายาเสพติดรายสำคัญ ตามประกาศสืบทรัพย์ ยึดทรัพย์ 20 ล้านบาท สามารถจับกุมนายพงศ์ศักดิ์ ผู้ต้องหาคดียาเสพติดตามหมายจับศาลอาญา มีบทบาทเป็นระดับผู้สั่งการ ประสานงาน ควบคุมการลำเลียงยาเสพติดในพื้นที่ภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ และภาคใต้ โดยสามารถจับกุมตัวผู้ต้องหาได้ที่ อ.เชียงของ จ.เชียงราย ใกล้สะพานมิตรภาพไทยลาวแห่งที่ 4 ขณะเตรียมหลบหนีออกนอกประเทศ จากนั้นเจ้าหน้าที่ได้มีการขยายผลปิดล้อมตรวจค้นบ้านพักอาศัย กิจการคาเฟ่ร้านอาหาร รวม 4 จุดในพื้นที่ 4 จังหวัด ได้แก่ จ.นนทบุรี ปทุมธานี อ่างทอง ตาก ตรวจยึดทรัพย์สิน อาทิ ที่ดินพร้อมสิ่งปลูกสร้าง กิจการคาเฟ่ร้านอาหาร รถยนต์ ทองรูปพรรณ บัญชีธนาคาร เป็นต้น รวมมูลค่าประมาณ 20 ล้านบาท
ทั้งนี้ การจับกุมนายพงษ์ศักดิ์ เนื่องมาจากสำนักปราบปรามยาเสพติด สืบสวนข้อมูลทางการข่าวพบว่านายพงษ์ศักดิ์ มีพฤติกรรมเป็นผู้สั่งการดังกล่าวในหลายพื้นที่ จึงตรวจสอบข้อมูลกระทั่งพบว่านายพงษ์ศักดิ์เป็นผู้สั่งการและควบคุมการลำเลียงยาเสพติดเกี่ยวข้องในเคสคดีเมื่อวันที่ 30 ต.ค.64 พื้นที่ สภ.เวียงหมอก โดยมีการจับกุมเครือข่ายผู้ต้องหาพร้อมยาบ้า 600,000 เม็ด ไอซ์ 41 กิโลกรัม เหตุเกิดที่ จ.ลำปาง โดยยาเสพติดดังกล่าวถูกลำเลียงจากพื้นที่ อ.เชียงดาว จ.เชียงใหม่ เพื่อเตรียมนำส่งปลายทาง อ.บางบัวทอง จ.นนทบุรี จึงได้มีการสืบสวนติดตามจับกุมนายพงษ์ศักดิ์ได้ในวันที่ 13 ม.ค.68 นอกจากนี้ ยังพบว่าระหว่างที่นายพงษ์ศักดิ์เตรียมเดินทางที่จะหลบหนีออกจากไทยเพื่อไปยังประเทศเพื่อนบ้านผ่านพรมแดนในพื้นที่ภาคเหนือนั้น เจ้าหน้าที่จึงเร่งนำกำลังไปสกัดจับกุมในทันที หลังจากนี้จะได้มีการขยายผลต่อไป
ด้าน พล.ร.ท.ธาดาวุธ ทัดพิทักษ์กุล รองเสนาธิการทหารเรือ กองทัพเรือ เปิดเผยถึงคดีที่ 2 ว่า คดีนี้ ได้มีการเปิดปฏิบัติการจับกุมเครือข่ายไอซ์ข้ามชาติ โดยเป็นความร่วมมือหลายหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ซึ่งเมื่อวันที่ 17 ม.ค.ที่ผ่านมา สามารถจับกุมผู้ต้องหา 5 ราย เป็นหญิงชาวไทย 1 ราย และชายชาวไทยซึ่งเป็นวัยรุ่น 4 ราย พร้อมไอซ์ของกลาง น้ำหนักรวมสิ่งของหุ้มประมาณ 1.65 ตัน หรือ 1,650 กิโลกรัม ซุกซ่อนอำพรางอยู่ในม้วนฝ้าย จำนวน 33 ม้วน เหตุเกิดที่โกดังในพื้นที่แขวงบางปะกอก เขตราษฎร์บูรณะ กรุงเทพฯ
ทั้งนี้ การจับไอซ์ล็อตนี้ได้นั้น หากทะลักเข้ามาได้แล้วมีการใช้ไทยเป็นทางผ่านไปยังประเทศปลายทางจะมีผลต่อความมั่นคงของชาติ อย่างไรก็ตาม การจับกุมผู้ต้องหาในครั้งนี้มาจากการสืบสวนทางการข่าวเมื่อเดือน ธ.ค.67 ได้มีการสืบสวนจนแน่ใจ ทางกองทัพเรือจึงประสานมายัง ป.ป.ส และได้เข้าร่วมดำเนินการกันหลายหน่วยงานเนื่องจากเป็นเคสที่ซับ เพราะผู้ค้ามีการคิดหนทางใหม่ มีการแฝงไอซ์ในการขนฝ้าย เราตรวจจับได้ว่าในร้อยกว่าม้วนนั้น มี 33 ม้วนซ่อนไอซ์เข้ามา ถ้าหากไม่มีการข่าวจะตรวจจับได้ยาก ทั้งนี้ แหล่งตั้งต้นอยู่ในทวีปแอฟริกา โดยมีหญิงชาวไทยและพวกประสานนำเข้าโดยใช้ไทยเป็นทางผ่าน ก่อนจำหน่ายไปยังประเทศปลายทางผ่านทางเรือ แต่เราสามารถสกัดจับกุมได้ก่อน
นายปฤณ เมฆานันท์ ผอ.สำนักปราบปรามยาเสพติด เผยต่อว่า เคสไอข้ามชาติจับกุมผู้ต้องหาได้ทั้งหมด 5 ราย ประกอบด้วย หญิงชาวไทยคือผู้ต้องหารายสำคัญ มีบทบาทเป็นผู้เช่าโกดังและประสานงานเครือข่ายในต่างประเทศ ส่วนชายอีก 4 รายที่เป็นวัยรุ่น มีบทบาทเป็นคนดูแลโกดังและเป็นนอมินีเปิดบริษัท โดยพฤติการณ์ทางคดีได้มีเครือข่ายที่อยู่ในต่างชาติจัดเตรียมไอซ์ปะปนในใยฝ้ายส่งให้หญิงชาวไทยทางเรือ จากทวีปแอฟริกา เข้ามาทางอินเดียก่อนเข้ามาถึงไทย โดยในตอนที่เข้าตรวจค้นโทรศัพท์มือถือของหญิงชาวไทย พบว่ามีแชตข้อความชัดเจนที่ระบุว่ามีฝ้ายจำนวน 33 ชิ้นที่มียาเสพติดผสมอยู่ จากฝ้ายทั้งหมด 140 ชิ้น จากนี้เจ้าหน้าที่จึงต้องระวังและจับตาดูในส่วนของการอำพรางยาเสพติดในวัสดุลักษณะนี้ ทั้งนี้ เบื้องต้นเรายังได้ตรวจยึดทรัพย์สินที่เกี่ยวข้องกับสาวชาวไทยรายดังกล่าวได้ประมาณ 2-3 ล้าน
ขณะที่ พล.ต.ท.ภาณุรัตน์ หลักบุญ เลขาธิการ ป.ป.ส. เผยว่า ไอซ์ไม่ใช่ยาเสพติดที่แพร่ระบาดในไทย แต่ก็ถือว่าไทยเป็นทางผ่านเพื่อส่งออกไปยังออสเตรเลีย เกาหลี ญี่ปุ่น ไต้หวัน หรือฮ่องกง เป็นต้น แต่ประเทศไทยจะเป็นการแพร่ระบาดส่วนใหญ่ในเรื่องของยาบ้า
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในการแถลงข่าวดังกล่าว เลขาธิการ ป.ป.ส. ได้นำเจ้าหน้าที่วิทยาศาสตร์ ทำการทดสอบสารจากตัวอย่างของกลาง ซึ่งเป็นใยฝ้าย พบว่าเมื่อทดสอบแล้วมีสารเสพติดเป็นไอซ์ เพราะทำปฏิกิริยาเป็นสีส้ม
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี