ผู้ว่าฯ “ชัชชาติ” ประกาศใช้มาตรการ Low Emission Zone ห้ามรถบรรทุก 6 ล้อขึ้นไปเข้าวงแหวนรัชดาฯ 2วัน (00.01 พฤหัส - 23.59 ศุกร์) ใช้กล้องAIจับ ฝ่าฝืน คุก1ด./ปรับ2,000 พร้อมขยาย WFH ต่อถึง 24 ม.ค. / เผยมีรถบรรทุกวิ่งเข้าเมืองวันละ 2,500คัน ให้เวลา1วัน ลงทะเบียน Green List 

วันที่ 21 มกราคม 2568 นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร แถลงมาตรการรับมือฝุ่น PM 2.5 ประกาศใช้มาตรการ Low Emission Zone ห้ามรถบรรทุกตั้งแต่ 6 ล้อขึ้นไปเข้าพื้นที่วงแหวนรัชดาภิเษก ยกเว้นรถยนต์ไฟฟ้า แก๊ส NGV รถเครื่องยนต์ดีเซลมาตรฐาน EURO 5 - 6 และรถที่ลงทะเบียนบัญชีสีเขียว (Green List) กับ กทม. โดยขณะนี้มีรถลงทะเบียนแล้ว 31,041 คัน โดยมาตรการดังกล่าวมีผลบังคับใช้ วันพฤหัสบดี เวลา 00.01 น. - วันศุกร์ เวลา 23.59 น. (2วัน) 

ผู้ว่าฯ ชัชชาติ กล่าวว่า จากพยากรณ์สภาพอากาศช่วงสัปดาห์นี้ ประกอบกับสภาพการจราจรในกรุงเทพฯ ที่มีปัจจัยการการก่อสร้างรถไฟฟ้าสายสีส้ม ที่ทำให้รถติด รวมถึงการเผาที่เพิ่มมากขึ้นในพื้นที่ข้างเคียงที่ จ.นครนายกและปราจีนบุรี ทำให้สถานการณ์ฝุ่น PM2.5 ของกรุงเทพฯ สูงไปถึงปลายสัปดาห์ กทม.จึงประกาศใช้มาตรการ Low Emission Zone ห้ามรถบรรทุกตั้งแต่ 6 ล้อขึ้นไปเข้าพื้นที่วงแหวนรัชดาภิเษก ยกเว้นรถยนต์ไฟฟ้า แก๊ส NGV รถเครื่องยนต์ดีเซลมาตรฐาน EURO 5 - 6 และรถที่ลงทะเบียนGreen List  สัปดาห์ที่ผ่านมาได้ทดสอบระบบตรวจจับรถบรรทุก โดยใช้กล้อง CCTV พร้อมระบบ AI จำนวน 259 กล้องในวงแหวนฯ มีรถบรรทุกผ่านเข้ามา ประมาณ 2,500 คัน เป็นรถใน Green List 400 คัน ประมาณ 20% ซึ่งยังมีรถบรรทุกอีก 80% ที่ยังไม่ได้อยู่ใน Green List ของกทม. ยังมีเวลาอีก 1วัน ที่เจ้าของรถจะไปเปลี่ยนน้ำมันเครื่อง-ใส้กรอง และลงทะเบียนกับเรา ไม่เช่นนั้นจะขับผ่านเข้ามาไม่ได้ ฝ่าฝืนมีโทษ จำคุกไม่เกิน 1เดือน ปรับไม่เกิน 2,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ 

สำหรับมาตรการ WORK FROM HOME (WFH) กทม. ประกาศขยายระยะเวลา WFH เพิ่มเติมไปถึงวันที่ 24 ม.ค. 68 เพื่อลดการเดินทาง ลดปริมาณรถยนต์ในการจราจรซึ่งเป็นต้นตอหนี่งของฝุ่นในกรุงเทพฯ ก็ต้องขอความร่วมมือ ปัจจุบันมีหน่วยงานร่วมเครือข่าย WFH กับ กทม. แล้ว 278 บริษัท เกือบ 100,000 คน หากไม่สามารถ WFH ได้ หรือมีความจำเป็นต้องออกจากบ้าน ให้ใช้ขนส่งสาธารณะ และขอให้ระมัดระวังและดูแลสุขภาพ โดยเฉพาะกลุ่มเสี่ยง ควรสวมหน้ากากอนามัยป้องกัน PM2.5 ทุกครั้งและตลอดเวลาที่ออกนอกอาคาร รวมถึงจำกัดระยะเวลาในการอยู่นอกอาคาร และควรงดทำกิจกรรมกลางแจ้ง

ในส่วนของโรงเรียนสังกัดกทม. ขึ้นอยู่กับแต่ละโรงเรียน ซึ่งสำนักการศึกษาได้มีการจัดทำแนวปฏิบัติและแนวทางการป้องกันฝุ่นและแก้ไขปัญหาฝุ่นละออง PM 2.5 ในโรงเรียนแล้ว  โดยให้ผู้บริหารใช้ดุลยพินิจปิดโรงเรียนตามสถานการณ์ฝุ่นและเกณฑ์ที่กำหนดเพื่อความปลอดภัยและสุขภาพของนักเรียน ปัจจุบันมีโรงเรียนสังกัดกทม. ประกาศปิดโรงเรียนแล้ว 21 โรงเรียน (ข้อมูล ณ วันที่ 21 ม.ค. 68 เวลา 11.30 น.) 

“เราต้องช่วยกัน เพราะฝุ่นไม่ได้เกิดจากธรรมชาติ เกือบ100%เกิดจากคนทำขึ้น ไม่ว่าจะเป็นการเผาชีวมวลในภาคการเกษตร ซึ่งต้องจอความร่วมมือจังหวัดใกล้เคียงช่วยควบคุม มีเพิ่มขึ้นมาก กทม.เราห้ามเผาเด็ดขาด และการใช้รถยนต์ก็เป็นสิ่งที่คนทำขึ้นเหมือนกัน ถ้าเราไม่ช่วยกันก็ยากที่ฝุ่นจะลดลงได้ ฝากทุกคนช่วยกันร่วมมือ กทม.เราไม่เคยหยุดนิ่งพยายามหาวิถีทางทำมาตลอด ผมเป็นผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร ก็ต้องหาทางที่ดูแลคนให้ดีดีที่สุด“ ผู้ว่าฯ ชัชชาติกล่าว