วันที่ 21 มกราคม 2568 พล.ต.ต.วิชิต บุญชินวุฒิกุล ผบก.ภ.จว.สมุทรปราการ / พ.ต.อ.ไพโรจน์ เพ็ชรพลอย ผกก.บางพลี / พ.ต.ต.ภาวัต รัตนาภรณ์ รอง ผกก.สส.ฯ / กำลังชุดจับกุมนำโดย พ.ต.ต.สันติราษฎร์ เงินมั่น สว.สส.ฯ/เจ้าหน้าที่ตำรวจ สก.บางพลี แถลงผลการจับกุมผู้กระทำผิดรายสำคัญก่อเหตุลักทรัพย์รถจักรยานยนต์ สภ.บางพลี
ด้วยช่วงเดือนมกราคม 2568 เจ้าหน้าที่ตำรวจ ฝ่ายสืบสวน สภ.บางพลี ได้รับแจ้งเหตุ ลักทรัพย์รถจักรยานยนต์ จำนวนหลายคัน ซึ่งสร้างความเดือดร้อนให้แก่ประชาชนภายในพื้นที่ ผู้บังคับบัญชา จึงได้สังการให้เจ้าหน้าที่ตำรวจ ฝ่ายสืบสวน สภ.บางพลี สืบสวนติดตามจับกุมกลุ่มผู้ก่อเหตุดังกล่าว มาดำเนินคดีตามกฎหมาย ซึ่งจากการตรวจสอบกล้องวงจรปิดเส้นทางหลบหนี ทราบว่าภายหลังก่อเหตุนั้น กลุ่มผู้ก่อเหตุได้นำรถจักรยานยนต์ ที่ได้จากการก่อเหตุ ไปจอดไว้ภายในบริเวณ ม.6 ต.บางโฉลง อ.บางพลี จ.สมุทรปราการ จึงได้วางแผนเข้าจับกุมกลุ่มผู้ก่อเหตุดังกล่าว โดยสอดส่องพฤติกรรมของบุคคลผู้อาศัยอยู่ในบ้านและได้วางกำลังเฝ้าสังเกตการณ์จำนวนหลายคืน
ต่อมาวันที่ 20 ม.ค. 2568 เวลาประมาณ 01.30 น เจ้าหน้าที่ตำรวจ ฝ่ายสืบสวน สภ.บางพลี ตรวจพบว่ากลุ่มผู้ก่อเหตุดังกล่าวเป็นชาย 2 คน ได้ขับขี่รถจักรยานยนต์ออกจากบริเวณที่พัก เพื่อไปก่อเหตุลักทรัพย์รถจักรยานยนต์ จึงได้จัดกำลังซุ่มโป่งเพื่อทำการจับกุมโดยรอบ ซึ่งต่อมากลุ่มผู้ก่อเหตุได้ขับขี่รถจักรยานยนต์ที่ใช้ในการก่อเหตุและรถจักรยานยนต์ที่ได้จากการก่อเหตุ จึงได้แสดงตัวเข้าจับกุม *นายจิรายุ หรือเตี้ย (ขอสงวนนามสกุล) อายุ 27 ปี และ นายพีรพล หรือทีม (ขอสงวนนามสกุล) อายุ 19 ปี โดยจากการสอบถามผู้ก่อเหตุทั้ง 2 ได้ให้การว่าพวกตนนั้นได้ก่อเหตุลักทรัพย์รถจักรยานยนต์มาแล้ว มากกว่า 10 ครั้ง โดยใช้วิธีหักคอรถ จากนั้นต่อไฟฟ้าตรงซึ่งทำให้สามารถขับขี่รถจักรยานยนต์ได้ปกติ
หลังจากก่อเหตุแล้วนั้น จะนำรถจักรยานยนต์ที่ได้ ทำการเปลี่ยนเบ้ากุญแจรถจักรยานยนต์ จากนั้นจะนำเบ้ากุญแจเดิม ป้ายทะเบียน เอกสารต่างๆ ที่ติดมากับรถจักรยานยนต์ ไปโยนทิ้งที่บริเวณคลองบางโฉลง ซึ่งอยู่บริเวณด้านหลังของบ้านดังกล่าว จากนั้น*นายเหนือฯ จะให้พวกตนนำรถจักรยานยนต์ ไปจอดไว้ที่สถานที่ต่างๆ ตามที่นายเหนือแจ้ง ซึ่งนายเหนือจะเป็นผู้ติดต่อชื้อ-ขาย รถจักรยานยนต์ที่ได้จากการลักทรัพย์และนำเงินที่ได้จากการขายรถจักรยานยนต์ มาแบ่งให้พวกตน คันละ 2,500 - 3,000 บาท ต่อมาเจ้าหน้าที่ตำรวจ ฝ่ายสืบสวน สภ.บางพลี ได้นำตัวผู้ถูกจับทั้งสอง ตรวจค้นบริเวณคลองบางโฉลง ซึ่งอยู่บริเวณด้านหลังบ้าน ข้างต้น โดยตรวจพบทรัพย์สินจำนวนหลายรายการ พร้อมยึดของกลางที่ตรวจยึดได้ 1.รถจักรยานยนส์ ยี่ห้อ HONDA รุ่น WAVE125 i สีดำ ทะเบียนกรุงเทพมหานคร (รถจักรยานยนต์คันที่ใช้ในการก่อเหตุ) 2.รถจักรยานยนต์ ยี่ห้อ HONDA รุ่น WAVE125i สีดำ-เทา ทะเบียนกรุงเทพมหานคร (รถจักรยานยนต์คันที่ถูกประทุษร้าย) 3.รถจักรยานยนต์ ยี่ห้อ HONDA รุ่น WAVE110i สีดำ-แดง ทะเบียนกรุงเทพมหานคร (รถจักรยานยนต์คันที่ถูกประทุษร้าย) 4.เบ้ากุญแจ จำนวน 19 อัน 5.กรอบแผ่นป้ายทะเบียน จำนวน 8 อัน 6.ป้ายทะเบียน จำนวน 3 ป้าย พร้อมของกลางอื่นๆตามเอกสารแนบ โดยกล่าวหาว่า ‘ร่วมกันลักทรัพย์ในเวลากลางคืนโดยใช้ยานพาหนะเพื่อสะดวกในการกระทำความผิดหรือพาทรัพย์นั้นไปหรือรับของโจร’ นำตัวส่งพนักงานสอบสวน
ขอประชาสัมพันธ์แจ้งเตือนให้ประชาชนผู้ใช้รถจักรยานยนต์ทราบ เนื่องจากคนร้ายมีความชำนาญในการโจรกรรมรถจักรยานยนต์ โดยใช้เวลาไม่ถึง 5 นาที ควรเพิ่มการป้องกัน การถูกโจรกรรมรถจักรยานยนต์ โดยมีวิธีการดังนี้ คือ อย่าจอดรถไว้ในที่เปลี่ยว มุมอับ มุมมืดหรือเสี่ยงต่อการถูกโจรกรรม, จอดรถทุกครั้ง ห้ามลืมกุญแจไว้ที่รถในทุกกรณี, จอดรถต้องล็อคคอ ใช้อุปกรณ์ล็อคดิสเบรก ใช้สายลวดสลิงถัก ที่ป้องกันการตัด นำมาคล้องล็อค , ติดตั้งระบบกันขโมยแบบส่งเสียง ต้องดูให้ดีว่าระบบมีแบตสำรองอยู่ในตัวหรือไม่เพราะเดี๋ยวนี้โจรมือเบาตัดสายไฟที่ขั้วแบตเตอร์รี่ทำให้ระบบกันขโมยหยุดทำงานทันที ควรล็อคคอรถจักรยานยนต์ทุกครั้ง ทั้งนี้ไม่ควรเก็บสำเนาเอกสาร หรือเอกสารคู่มือการจดทะเบียนรถจักรยานยนต์ไว้ใต้เบาะรถจักรยานยนต์ เนื่องจากหากถูกคนร้ายลักทรัพย์ คนร้ายอาจจะใช้เอกสารดังกล่าวไปอ้างอิงเพื่อนำรถจักรยายนต์ไปจำหน่ายอย่างผิดกฎหมายได้ ควรเก็บสำเนาเอกสารดังกล่าวไว้ที่ตัว เพื่อสะดวกต่อการแสดงให้เจ้าหน้าที่
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี