พระมหาข้ามถนนไม่ทันระวังถูกจยย.ชนล้มคว่ำบาดเจ็บสาหัส

เมื่อเวลา 19.30 น. วันที่ 21 มกราคม 2568 ศูนย์วิทยุอาสาสมัครมูลนิธิร่วมกตัญญูได้รับแจ้งมีรถ  จักรยานยนต์ชนคนเดินเท้า ได้รับบาดเจ็บสาหัสหมดสติในที่เกิดเหตุ เหตุเกิดบริเวณ ถนนพหลโยธิน 76/1 ช่องทางคู่ขนานขาเข้า ก่อนถึงห้างสรรพสินค้าเซียร์รังสิต 200 เมตร ตำบลคูคต อำเภอลำลูกกา  จังหวัดปทุมธานี หลังรับแจ้งได้เดินทางไปยังที่เกิดเหตุ  พร้อมด้วยรถกู้ชีพเทศบาลคูคต

จุดเกิดเหตุก่อนถึงห้างสรรพสินค้าเซียร์รังสิต ถนนพหลโยธินขาเข้า เส้นทางมุ่งหน้าสะพานใหม่  และมุ่งหน้าเข้าสู่ถนนวิภาวดีรังสิต  เจ้าหน้าที่อาสาสมัครกำลังช่วยเหลือชาย 1 รายแต่งกายคล้ายพระสงฆ์มีบาดแผลฉีกขาดที่บริเวณศีรษะ แผลลึกถึงหัวกะโหลก เลือดออกไม่หยุดเจ้าหน้าที่ปฐมพยาบาลเบื้องต้นรีบนำส่งโรงพยาบาลแพทย์รังสิตเป็นการด่วน ทราบชื่อต่อมา พระมหาเจียม ขอรวมกลาง อายุ 69 ปี นอกจากนี้ยังมีผู้ได้รับบาดเจ็บชาย 1 รายเจ้าหน้าที่อาสาสมัครมูลนิธิร่วมกตัญญูนำส่งผู้ได้รับบาดเจ็บโรงพยาบาลแพทย์รังสิตทราบชื่อต่อมา นายปรเมศวร์ ทองบุตร อายุ 30 ปี  ซึ่งเป็นผู้ขับขี่รถจักรยานยนต์ ในที่เกิดเหตุพบ รถจักรยานยนต์ยี่ห้อ honda wave สีดำไม่ติดแผ่นป้ายทะเบียน

จากการสอบถามนายพรอายุ 40 ปี ซึ่งเป็นชายเร่ร่อนหาเก็บของเก่า ได้เปิดเผยกับผู้สื่อข่าวว่า ตอนนั้นตนเองก็เดินหาเก็บของเก่าเรื่อยๆ เห็นพระอยู่เกาะกลางถนน  เห็นรถเก๋งเบียดรถมอเตอร์ไซค์  มอเตอร์ไซค์หักหลบ ในขณะที่พระกำลังจะข้ามถนนมาอีกฝั่ง จากนั้นรถมอเตอร์ไซค์ก็ไปชนพระกระเด็นอยู่กลางถนนจนได้รับบาดเจ็บ ซึ่งพระยืนอยู่เกาะกลาง ตนเลยเห็น เพื่อที่จะไปจูงพระกลับมา ในขณะนั้นรถมอเตอร์ไซค์ขับมาอยู่ในช่องเลนด่วน แล้วก็ชนพระทันทีจนได้รับบาดเจ็บ ซึ่งที่หัวพระได้รับบาดเจ็บเพราะไปโดนกระจกมองข้างเจาะหัวพระ

ทางด้านนายบุญเพชร  ปานดวงใจ  เจ้าหน้าที่อาสาสมัครมูลนิธิร่วมกตัญญู กล่าวหลังจากที่นำผู้ได้รับบาดเจ็บซึ่งเป็นผู้ขับขี่รถจักรยานยนต์ส่งโรงพยาบาล กล่าวว่า ขับรถมอเตอร์ไซค์เพื่อที่จะมุ่งหน้าไปสะพานใหม่ ซึ่งในขณะขับรถมาแล้วมองไม่เห็นพระ ในขณะที่พระกำลังจะข้ามถนน ส่วนคนขับมอเตอร์ไซค์นั้นมาจากไหนไม่ได้ถามตรงนี้แต่ถามว่ากำลังจะกลับไปสะพานใหม่ แต่งกายคล้ายทำงานพนักงานโรงงานทั่วไป

เบื้องต้นเจ้าหน้าที่ตำรวจพนักงานสอบสวน สภ.คูคต ได้มาบันทึกภาพเก็บไว้เป็นหลักฐาน หากผู้ได้รับบาดเจ็บพ้นขีดอันตรายก็จะเรียกมาให้ปากคำพร้อมสอบสวนหาสาเหตุที่เกิดขึ้นเพื่อความเป็นธรรมทั้งสองฝ่ายต่อไป