“ผู้การมอส” นั่งหัวโต๊ะประชุมขับเคลื่อนต่อเนื่องปฏิบัติการล้างปริสิต EP 3 (ภาคพิเศษ) “Big Cleaning Pattaya” ขานรับนโยบายรัฐบาล สร้างภาพลักษณ์และความเชื่อมั่นด้านการท่องเที่ยวเมืองพัทยา

21 ม.ค.68 พล.ต.ต.ธวัชเกียรติ จินดาควรสนอง ผบก.ภ.จว.ชลบุรี เป็นประธานการประชุมประชุมปฏิบัติการล้างปริสิต EP 3 (ภาคพิเศษ) “Big Cleaning Pattaya” โดยมี พ.ต.อ.ชาตรี สุขศิริ รองผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดชลบุรี ร่วมด้วย พ.ต.อ.พาติกรณ์ ศรชัย รองผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดชลบุรี  นายพรชัย สังข์เอียด ปลัดอาวุธโส อำเภอบางละมุง พ.ต.ท.ปิยะพงษ์ เอนสาร สารวัตรใหญ่สถานีตำรวจท่องเที่ยวเมืองพัทยา เจ้าหน้าที่ตำรวจตรวจคนเข้าเมืองชลบุรี เจ้าหน้าที่ตำรวจสภ.เมืองพัทยา เจ้าหน้าที่ตำรวจสภ.บางละมุง เจ้าหน้าที่ตำรวจหนองปรือ และเจ้าหน้าที่ตำรวจสภ.นาจอมเทียน เข้าร่วมประชุม ณ ห้องประชุม ศปก.สภ.เมืองพัทยา

โดยที่ประชุมได้มีการหารือแนวทางการปฏิบัติการล้างปริสิต EP 3 (ภาคพิเศษ) “Big Cleaning Pattaya” ทั้งกรสำรวจจุดเสี่ยง แหล่งมั่วสุ่มยาเสพติด และคนเร่ร่อน ที่สร้างผลกระทบต่อนักท่องเที่ยวในพื้นที่เมืองพัทยา ซึ่งเป็นเมืองท่องเที่ยวจุดหมายปลายทางของนักท่องเที่ยวทั่วโลก อีกทั้งเพื่อสร้างความเชื่อมั่นให้กับนักท่องเที่ยว ตามนโยบายรัฐบาล ซึ่งในส่วนสภ.เมืองพัทยาได้กำหนดจุดตรวจค้น 10 จุด ในการปฏิบัติการล้างปริสิต EP 3 (ภาคพิเศษ) “Big Cleaning Pattaya” โดยมี 8 จุดเป็นพื้นที่แหล่งมั่วสุ่มยาเสพติด

และอีก 2 จุด เป็นที่แหล่งมั่วสุ่มของคนเร่ร่อน นอกจากนี้ผบก.ภ.จว.ชลบุรี ยังได้มอบหมายให้อีก 3 สภ. ประกอบด้วย สภ.บางละมุง สภ.หนองปรือ และสภ.นาจอมเทียน ดำเนินการสำรวจแหล่งมั่วสุ่มยาเสพติด และคนเร่ร่อน ในการดำแนวแผน ปฏิบัติการล้างปริสิต ในพื้นที่รับผิดชอบ เพื่อร่วมกันสร้างภาพลักษณ์ด้านท่องเที่ยวและแก้ปัญหายาเสพติดในพื้นที่อย่างยั่งยืน ให้สมกับเมืองพัทยาที่เป็นจุดหมายปลายทางของนักท่องเที่ยวจากทั่วโลก

พล.ต.ต.ธวัชเกียรติ จินดาควรสนอง ผบก.ภ.จว.ชลบุรี เปิดเผยหลังการประชุมฯ ว่า ด้วยพื้นที่ตำรวจภูธร ภาค 2 โดยเฉพาะเมืองพัทยาซึ่งเป็นเมืองท่องเที่ยวระดับโลก มีประชาชน รวมทั้งนักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและต่างชาติ เดินทางเข้ามาท่องเที่ยวในพื้นที่เมืองพัทยาเป็นจำนวนมาก  ทั้งนี้นโยบายรัฐบาล นโยบายตำรวจแห่งชาติและนโยบายตำรวจภูธร ภาค 2 ในเรื่องการแก้ไขปัญหายาเสพติด ปัญหาอาชญากรรมข้ามชาติ และปัญหาต่างด้าวผิดกฎหมาย ที่เข้ามาสร้างผลกระทบสร้างความเชื่อมั่นในการท่องเที่ยว ในพื้นที่เมืองพัทยา ซึ่งการปฏิบัติการล้างปริสิต ที่ได้ดำเนินการมาแล้ว 2 ภาค และได้รับเสียงตอบรับเป็นอย่างดีจากประชาชนและนักท่องเที่ยว 

ซึ่งการดำเนินการของเจ้าหน้าที่ตำรวจในการกวาดล้างแหล่งมั่วสุ่มยาเสพติดและคนเร่ร่อน มีการดำเนินการอย่างจริงจัง และสิ่งที่จะดำเนินการจากนี้จะเป็นการปฏิบัติการลางปริสิต EP 3 (ภาคพิเศษ) “Big Cleaning Pattaya” โดยจะมีการสำรวจพื้นที่ที่มีปัญหาในการแพร่ระบาดของยาเสพติด รวมถึงปัญหาของคนเร่ร่อน ขอทาน และต่างด้าวที่เข้ามามั่วสุ่มรวมตัวกันในพื้นที่มืองพัทยาที่มีอยุ่จำนวนหลายจุด ก็จะมีการเปิดปฏิบัติการล้างปริสิต EP 3 (ภาคพิเศษ) “Big Cleaning Pattaya” โดยจะมีการบูรณาร่วมกันในทุกภาคส่วน ทั้งอำเภอบางละมุง เมืองพัทยา เจ้าหน้าที่ตำรวจภูธรภาค 2 เจ้าหน้าที่สาธารณสุข เจ้าหน้าที่ พม.ชลบุรี

ทั้งนี้ ณ ช่วงเวลานี้ ตำรวจภูธรจังหวัดชลบุรี ได้ขานรับนโยบายรัฐบาลในการเปิดสงครามกับยาเสพติด โดยเฉพาะผู้ค้ารายย่อย ซึ่งมีมาตรการในการตัดวงจรของยาเสพติด และเน้นในส่วนของผู้ค้ารายย่อย ในระยะเวลา 6 เดือนนับจานี้ จะมีการเปิดยุทธการปิดล้อมพื้นที่เป้าหมายทุกเดือน อย่างน้อยเดือนละ 2 ครั้ง อย่างไรก็ตามพื้นที่เมืองพัทยามี สภ.ใกล้เคียง ทั้งสภ.บางละมุง สภ.หนองปรือและสภ.นาจอมเทียน ก็จะมีการดำเนินการเช่นเดียวกับ สภ.เมืองพัทยาในการเอกซเรย์เรื่องของปัญหายาเสพติด ปัญหาอาชญากรรมข้ามชาติและปัญหาต่างด้าวหลบหนีเข้าเมืองอย่างเข้มขนต่อไป.