กทม.จมฝุ่นพิษ
เกษตรเร่งทำ‘ฝนหลวง’ลดฝุ่น
โรงเรียนกทม.ปิดแล้ว 103 แห่ง
ก.เกษตรฯ สั่งฝนหลวงฯเพิ่มเที่ยวบินลดฝุ่นในพื้นที่กทม. ด้านกรมควบคุมมลพิษเผยค่าฝุ่น PM2.5 เกินมาตรฐาน 60 จังหวัด ส่วนจิสด้า ชี้ กทม.เกินค่าระดับสีแดง หนักสุดที่หนองแขม ผู้ว่าฯ กทม.เชื่อสถานการณ์จะค่อยๆ ดีขึ้น โรงเรียนสังกัด กทม.ปิดหนีฝุ่นแล้ว 103 แห่ง ด้าน อนุ กมธ.ขับเคลื่อนนโยบายฯ จี้ กทม.ใช้ยาแรง
เมื่อวันที่ 22 มกราคม 2568 นายอิทธิ ศิริลัทธยากร รมช.เกษตรและสหกรณ์ กล่าวว่า ได้หารือกับนางมนพร เจริญศรี รมช.คมนาคม ในเรื่องการขออนุญาตให้กรมฝนหลวงและการบินเกษตร เพิ่มเที่ยวบินเข้ามาปฏิบัติการเจาะชั้นบรรยากาศ เพื่อระบายฝุ่น PM2.5ในพื้นที่ กทม.ชั้นใน ห้วงเวลาที่ไม่กระทบกับเที่ยวบินพาณิชย์ ทั้งนี้ กรมฝนหลวงฯ ได้ปฏิบัติการโปรยน้ำแข็งแห้ง หรือสเปรย์น้ำแช่น้ำแข็งในชั้นบรรยากาศอุณหภูมิผกผันที่ขวางกั้นฝุ่นละอองอยู่ ซึ่งจะทำให้อุณหภูมิลดลงอย่างรวดเร็ว เกิดเป็นช่องให้ฝุ่นละอองขนาดเล็ก ลอยผ่านช่องขึ้นสู่บรรยากาศชั้นบนได้
ฝนหลวงฯเพิ่มเที่ยวบินลดฝุ่น
นายอิทธิ กล่าวต่อว่า มีการปฏิบัติการทั้งช่วงเช้าและบ่าย โดยขึ้นบินจากฐานปฏิบัติการฝนหลวงหัวหิน กาญจนบุรี และระยอง แต่ในช่วงที่ กทม.มีค่าฝุ่นสะสมถึงระดับสีแดง จะเสนอให้วิทยุการบินพิจารณาอนุญาตเพิ่มเที่ยวบิน แต่ต้องไม่กระทบกับเที่ยวบินพาณิชย์ นอกจากนี้ได้เตรียมมาตรการสร้างแรงจูงใจลดการเผาในพื้นที่เกษตร ตามข้อสั่งการของนายกรัฐมนตรี ที่ให้ลดจุดความร้อนทุกพื้นที่ โดยมาตรการของกระทรวงเกษตรฯ จะเริ่มในวันที่ 1 มิถุนายน 2568 เพื่อให้เกษตรกรมีเวลาปรับตัว และให้รับทราบว่าภาครัฐให้ความสำคัญกับเรื่องนี้ โดยเกษตรกรที่ไม่เผา จะได้รับการสนับสนุนด้านต่างๆ แต่รายใดที่เผา ถ้ารัฐมีมาตรการช่วยเหลืออะไร ก็จะไม่สามารถเข้าร่วมโครงการได้ ตลอดจนมีมาตรการทางกฎหมายด้วย
ประสานวิทยุการบินไฟเขียว
ขณะที่นางมนพร กล่าวว่า จะมอบหมายให้วิทยุการบินพิจารณา ว่าสามารถเพิ่มการอนุญาตเที่ยวบินของกรมฝนหลวงฯ เข้าปฏิบัติการลดฝุ่นใน กทม.ได้อีกหรือไม่ โดยปัจจุบันอนุญาตให้บินทั้งช่วงเช้าและบ่าย รวม 12 เที่ยวบิน นอกจากนี้ยังอนุญาตเพิ่มเที่ยวบินที่ท่าอากาศยานหัวหิน ด้วย เนื่องจากระยะนี้ค่าฝุ่นละอองขนาดเล็กวิกฤตในระดับส่งผลกระทบต่อสุขภาพประชาชนหลายพื้นที่
คพ.ชี้ฝุ่นPM2.5เกินค่า60จว.
น.ส.ปรีญาพร สุวรรณเกษ อธิบดีกรมควบคุมมลพิษ (คพ.) กล่าวว่า ปริมาณฝุ่น PM2.5 ในประเทศ ยังมีค่าเกินมาตรฐานในหลายพื้นที่ สาเหตุหลักมาจากสภาวะอากาศปิดใกล้ผิวพื้น อัตราการระบายอากาศต่ำ ไม่เอื้อต่อการระบายของฝุ่นละออง อีกทั้งยังพบจุดความร้อนทั้งในประเทศและประเทศเพื่อนบ้าน
จากรายงานผลตรวจปริมาณ PM2.5 วันเดียวกันนี้ พบว่า เกินค่ามาตรฐาน 60 จังหวัด ส่วนผลตรวจวัดตามรายภาค ดังนี้ ภาคเหนือ เกินค่ามาตรฐานเป็นส่วนใหญ่ ตรวจวัดได้ 14.5–84.0 ไมโครกรัม (มคก.)/ลูกบาศก์เมตร (ลบ.ม.) ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ เกินค่ามาตรฐานเป็นส่วนใหญ่ ตรวจวัดได้ 39.1–77.5 มคก./ลบ.ม.ภาคกลางและตะวันตก เกินค่ามาตรฐานเป็นส่วนใหญ่ ตรวจวัดได้ 39.3–94.0 มคก./ลบ.ม.ภาคตะวันออก เกินค่ามาตรฐานเป็นส่วนใหญ่ ตรวจวัดได้ 31.2–84.9 มคก./ลบ.ม.และภาคใต้ เกินค่ามาตรฐาน 1 พื้นที่ ตรวจวัดได้ 17.9–52.4 มคก./ลบ.ม.ส่วน กทม.และปริมณฑล โดยสถานีตรวจวัดของ คพ.ร่วมกับ กทม.เกินค่ามาตรฐานเป็นส่วนใหญ่ ตรวจวัดได้ 45.7–85.0 มคก./ลบ.ม.
จับมือกทม.ร่วมแก้ไขปัญหา
น.ส.ปรีญาพร กล่าวว่า สำหรับพื้นที่ กทม.ได้ประสานงานใกล้ชิด มีการประกาศใช้มาตรการ Low Emission Zone ห้ามรถบรรทุกตั้งแต่ 6 ล้อขึ้นไป เข้าพื้นที่วงแหวนรัชดาภิเษก โดยมาตรการดังกล่าวมีผลบังคับใช้ วันที่ 23-24 มกราคม เวลา 23.59 น. (2วัน) ยกเว้นรถยนต์ไฟฟ้า แก๊ส NGV รถเครื่องยนต์ดีเซลมาตรฐาน EURO 5–6 และรถที่ลงทะเบียน Green List รวมถึงมาตรการ WORK FROM HOME (WFH) ถึงวันที่ 24 มกราคมนี้ เพื่อลดการเดินทาง ลดปริมาณรถยนต์ในการจราจรซึ่งเป็นต้นตอหนึ่งของฝุ่นใน กทม. ปัจจุบันมีหน่วยงานร่วมเครือข่าย WFH กับกรุงเทพมหานคร แล้ว 278 บริษัท เกือบ 100,000 คน
จิสด้าเผยคนกรุงอ่วมฝุ่นพิษ
ด้านสำนักงานพัฒนาเทคโนโลยีอวกาศและภูมิสารสนเทศ (องค์การมหาชน) หรือ GISTDA กระทรวงการอึดมศึกษาวิทยาศาสตร์วิจัย และนวัตกรรม (อว.) เกาะติดสถานการณ์ฝุ่น PM 2.5 ด้วยข้อมูลจากดาวเทียม ผ่านแอปพลิเคชั่น “เช็คฝุ่น” พบว่าพื้นที่ กทม.มีค่าฝุ่น PM 2.5 ที่ส่งผลกระทบต่อสุขภาพ และระบบทางเดินหายใจ (สีแดง)โดยค่าฝุ่น PM 2.5 สูงสุด คือเขตหนองแขม 104.3 มคก.ส่วนภาพรวมประเทศไทย พบค่าฝุ่น PM 2.5 ที่ส่งผลกระทบต่อสุขภาพและระบบทางเดินหายใจระดับสีแดง 45 จังหวัด ส่วนใหญ่อยู่ในภาคกลาง และพบค่า PM2.5 เริ่มผลกระทบต่อสุขภาพ (สีส้ม) กระจายอยู่ทั่วทุกภูมิภาค อาทิ 1.สมุทรสาคร 118.1 มคก. 2.สระบุรี 106.9 มคก. 3.สมุทรสงคราม 106.8 มคก. 4.ลพบุรี 102.2 มคก. 5.สิงห์บุรี 101.3 มคก.และ 6.นครปฐม 100.3 มคก.เป็นต้น
แนวโน้มฝุ่นเพิ่มขึ้นจนถึง30ม.ค.
สำหรับช่วงนี้ถึงวันที่ 30 มกราคม 2568 การระบายอากาศอยู่ในเกณฑ์ “ไม่ดี-อ่อน” ประกอบกับเกิดอินเวอร์ชั่นใกล้ผิวพื้นอย่างต่อเนื่อง ทำให้มลพิษทางอากาศแพร่กระจายได้อย่างจำกัด คาดว่าความเข้มข้นของฝุ่นละอองมีแนวโน้มเพิ่มขึ้นแล้วทรงตัวจนถึงวันที่ 24 มกราคม และลดลงเล็กน้อยในวันที่ 25-28 มกราคมนี้ เนื่องจากการระบายอากาศดีขึ้น
ผู้ว่าฯกทม.เชื่อสถานการณ์จะดีขึ้น
วันเดียวกัน นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ผู้ว่าฯ กทม.กล่าวถึงสถานการณ์ฝุ่น PM 2.5 ว่ายังคงสูง อยู่ในระดับสีแดง มีผลกระทบต่อสุขภาพถึง 5 เขต คือเขตหนองแขม บางขุนเทียน ภาษีเจริญ ทวีวัฒนา และบางบอน ขณะที่พื้นที่เขตอื่นๆ อยู่ในระดับสีส้ม เริ่มมีผลกระทบต่อสุขภาพ ซึ่งคาดว่าสาเหตุเบื้องต้นเกิดจากภาคการจราจร โครงการก่อสร้างต่างๆ และจุดเผาที่เพิ่มมากขึ้น เมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันของปี 2567 โดยเฉพาะในภาคตะวันออก และภาคกลาง ประกอบกับสภาพอากาศที่ปิดอย่างต่อเนื่อง ซึ่งจากการติดตามการพยากรณ์สภาพอากาศคาดว่าในวันที่ 23 มกราคมนี้ สถานการณ์จะดีขึ้น การระบายอากาศคล่องตัวขึ้น
103รร.สังกัดกทม.ปิดหนีฝุ่น
“โรงเรียนสังกัดกรุงเทพมหานคร ปิดเรียนเนื่องจากค่าฝุ่น PM2.5 เกินมาตรฐานแล้ว โดยเราให้อำนาจ ผอ.โรงเรียน ใช้ดุลยพินิจปิดโรงเรียนตามสถานการณ์ฝุ่นและเกณฑ์ที่กำหนดเพื่อความปลอดภัยและสุขภาพของนักเรียน เนื่องจากไม่อยากผลักภาระให้กับผู้ปกครอง และคิดว่าโรงเรียนยังเป็นที่ปลอดภัยอยู่ ยกเว้นบางเขตที่มีค่าฝุ่นสูง อย่างไรก็ตาม กรุงเทพมหานคร เราดูแลโรงเรียนในสังกัดเป็นหลัก ไม่ได้มีอำนาจหรือควบคุมโรงเรียนของ สพฐ.หรือเอกชน” นายชัชชาติ กล่าว
ปัจจุบันมีโรงเรียนในสังกัดกรุงเทพมหานคร ประกาศคำสั่งปิดโรงเรียนเนื่องจากสถานการณ์ฝุ่น PM2.5 สูง และคุณภาพอากาศเริ่มมีผลกระทบต่อสุขภาพ รวม 103 แห่ง โดยกำหนดจัดการเรียนการสอนในรูปแบบ Online , On Hand (จัดส่งเอกสารต่างๆ ให้แก่ผู้เรียน เช่น คู่มือการเรียนรู้ด้วยตนเอง หนังสือเรียน ใบงาน แบบฝึกหัด เป็นต้น) รวมถึงจัดการเรียนชดเชยในภายหลัง ตามบริบทของแต่ละโรงเรียน
กมธ.เรียกผู้บริหารกทม.ชี้แจง
ที่รัฐสภา นายเกรียงยศ สุดลาภา สส.บัญชีรายชื่อ พรรครวมไทยสร้างชาติ ในฐานะประธานคณะอนุกรรมาธิการศึกษาและติดตามการขับเคลื่อนนโยบายการบริหารราชการรูปแบบพิเศษ ในคณะกรรมาธิการ (กมธ.) การกระจายอำนาจ การปกครองส่วนท้องถิ่นและการบริหารราชการรูปแบบพิเศษ สภาผู้แทนราษฎร แถลงผลการประชุม กมธ.ว่าได้เชิญหน่วยงานอย่างกรุงเทพมหานคร ชี้แจงเรื่องเกี่ยวกับพิจารณาการแก้ไขปัญหาฝุ่น PM2.5 โดยคณะอนุ กมธ.เสนอกรณีศึกษาการดำเนินการของต่างประเทศ เพื่อเป็นต้นแบบให้กรุงเทพมหานคร พัฒนาวิธีการแก้ไขปัญหา PM2.5 ให้เป็นในเชิงรุกมากขึ้น
ชงปิดไซต์ก่อสร้าง-จับรถควันดำ
ด้าน น.ส.รัดเกล้า อินทวงศ์ สุวรรณคีรี ระบุว่า ขอให้กรุงเทพมหานคร ยึดหลักปฏิบัติเหมือนประเทศเกาหลีใต้ “คุณภาพชีวิตของประชาชนยิ่งใหญ่กว่าเงินตราที่เสียไป (The value of human beings is far greater than that of money)” พร้อมกันนั้นคณะอนุ กมธ.มีข้อเสนอแนะให้พิจารณามาตรการปิดไซต์ก่อสร้าง เพื่อเป็นการกดดันรถบรรทุกที่ปล่อยควันดำในทางอ้อม และติดตั้งป้ายเตือนค่าฝุ่น PM2.5 ในสถานที่สาธารณะ เช่น ป้ายรถโดยสารประจำทาง ทางเข้าสวนสาธารณะทุกแห่ง เพื่อให้เป็นมาตรการระยะสั้น และสำหรับมาตรการระยะยาว ให้พิจารณากำหนดเขตมลพิษต่ำ “Bangkok Low Emission Zone”
จี้กทม.ใช้ยาแรงในสภาวะฉุกเฉิน
น.ส.รัดเกล้า กล่าวต่อว่า อยากเห็นกรุงเทพมหานคร ใช้ยาแรงในการตรวจสอบว่าไซต์ก่อสร้างไหนที่มีรถปล่อยควันดำออกมา ให้ปิดไซต์ก่อสร้างนั้น เพราะในสภาวะฉุกเฉินแบบนี้ เราต้องช่วยกันทำให้ฝุ่นลดลง ส่วนเรื่องการสั่งปิดโรงเรียน ก็มีคำถามว่าโรงเรียนที่ปิดแล้วมีการเรียนออนไลน์หรือไม่ หรือไม่มีการเรียนการสอนเลย แต่ก็ได้คำตอบมาว่าบางโรงเรียนมีการเรียนออนไลน์ และบางโรงเรียนสามารถเรียนชดเชยได้ ซึ่งหากใช้กฎหมายจะสามารถแจ้งล่วงหน้าให้ผู้ปกครองเตรียมความพร้อม และแผนการรับมือ เพื่อป้องกันและแก้ไขปัญหาได้อย่างต่อเนื่อง ควบคู่กันไปกับการเรียน
หนองคายพบอุปสรรคแก้ฝุ่นพิษ
ที่ จ.หนองคาย ผู้สื่อข่าวรายงานถึงสภาพอากาศในพื้นที่ว่า อุณหภูมิเฉลี่ยอยู่ที่ 15 องศาเซลเซียส มีหมอกบาง ช่วงสายอากาศเริ่มอบอุ่น สถานการณ์ฝุ่นควัน พบว่าอากาศไม่ค่อยดีทำให้ฝุ่น PM2.5 อยู่ที่ 67.7 มคก.เริ่มมีผลกระทบต่อสุขภาพ และแม้ว่า จ.หนองคาย จะคิกอ๊อฟลดมลพิษ ลดฝุ่นละออง และแก้ปัญหาหมอกควันไฟป่า เมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา โดยขอให้หน่วยงานราชการและท้องถิ่นทุกแห่ง บูรณาการความร่วมมือแก้ปัญหา แต่เนื่องจาก จ.หนองคาย ยังคงมีการก่อสร้างถนนหลายสาย สิ่งปลูกสร้าง รวมถึงฝั่งประเทศเพื่อนบ้าน มีกิจกรรมหลากหลายที่มีผลกระทบต่อคุณภาพอากาศ หมอกควันและฝุ่นละออง จึงเป็นอุปสรรคในการดำเนินการอยู่เป็นระยะ
เลยพบค่าฝุ่นเริ่มกระทบชาวบ้าน
ส่วนที่ จ.เลย สภาพอากาศในช่วงเช้า ยังคงหนาวเย็นต่อเนื่อง และมีปัญหาเรื่องฝุ่น PM2.5 ตรวจวัดได้ 71.1 มคก.อยู่ในระดับที่เริ่มมีผลกระทบต่อสุขภาพ
นางกัญญาณัฐ สิมสวัสดิ์ ผอ.โรงเรียนอนุบาลเลย กล่าวว่า ช่วงนี้อากาศหนาว ทางโรงเรียนอนุญาตให้นักเรียนอนุบาลและเด็กเล็ก ใส่กางกางหรือเสื้อแขนยาวมาโรงเรียน เพื่อสร้างความอบอุ่นให้แก่ร่างกาย จากนั้นให้ครูประจำชั้นกำชับไปยังครูผู้สอนและพี่เลี้ยง หลีกเลี่ยงให้เด็กออกไปในพื้นที่กลางแจ้ง เนื่องจากช่วงนี้ฝุ่น PM2.5 วัดได้ 71.1 มคก.ซึ่งอยู่ในระดับเริ่มมีผลต่อสุขภาพ จึงประชาสัมพันธ์ให้ผู้ปกครองนำอุปกรณ์ป้องกันฝุ่นให้นักเรียน เพื่อป้องกันปัญหา
เชียงใหม่ฝุ่นเกินค่าหลายพื้นที่
ขณะที่ จ.เชียงใหม่ สภาพอากาศในตัวเมือง เริ่มมีหมอกควันปกคลุมจนดอยสุเทพ อยู่ในสภาพขมุกขมัว ชาวบ้านในพื้นที่เริ่มได้รับผลกระทบ มีอาการไอ แสบตา และแสบจมูก โดยเฉพาะผู้ที่เป็นโรคภูมิแพ้ แต่ถือว่าอากาศยังดีกว่าปีที่ผ่านมา หากเปรียบเทียบในช่วงเวลาเดียวกัน
สำหรับรายงานคุณภาพอากาศรายชั่วโมงของศูนย์ข้อมูลการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ พบว่าเกือบทุกพื้นที่ มีค่าฝุ่น PM2.5 เกินมาตรฐาน มีผลกระทบต่อสุขภาพ โดยสูงสุดอยู่ที่ รพ.ส่งเสริมสุขภาพ ต.บ้านปางเฟือง อ.เชียงดาว วัดได้ 126 มคก.และ รพ.สันกำแพง อ.สันทราย อยู่ที่ 105 มคก.ส่วนที่เมืองเชียงใหม่ อยู่ที่ 82 มคก.
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี