นศ.ถูกต่อยกลางถนนเชียงราย พบเป็นเด็กทุนเรียนดีภาษาจีน สำนักงานยุติธรรม จ.เชียงราย พร้อมช่วยเหลือเตรียมเยียวยาตามสิทธิ

วันที่ 22 ม.ค.2568 นางสาวจักษณา ปัญญาสิทธิ์ ผู้อำนวยการสำนักงานยุติธรรม จ.เชียงราย ได้มีรายงานถึงนายชรินทร์ ทองสุข ผู้ว่าราชการ จ.เชียงราย ว่ากรณีเกิดเหตุคนขับรถยนต์กระบะได้ลงมาชกต่อยนักศึกษาชายคนหนึ่ง บนถนนสนามบินใกล้วิทยาลัยเทคนิคเชียงราย ต.เวียง อ.เมืองเชียงราย โดยเหตุเกิดวันที่ 20 ม.ค.ที่ผ่านมา จนปรากฎเป็นข่าวอย่างแพร่หลาย  ปัจจุบันผู้เสียหายได้แจ้งความร้องทุกข์กับ พ.ต.ท.หญิง ชลธิชา ธรรมสอน พนักงานสอบสวน สภ.เมืองเชียงราย เพื่อให้ดำเนินคดีกับผู้ก่อเหตุ

ดังนั้นสำนักงานยุติธรรม จ.เชียงราย พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่จึงได้ให้ความช่วยเหลือคือประสาน พ.ต.ท.หญิง ชลธิชา เพื่อขอความร่วมมือในการแจ้งสิทธิฯ พร้อมอำนวยความสะดวกให้แก่ผู้เสียหาย เพื่อยื่นคำขอรับเงินค่าตอบแทนในคดีอาญาตาม พ.ร.บ.ค่าตอบแทนผู้เสียหาย และค่าทดแทนและค่าใช้จ่ายแก่จำเลยในคดีอาญา พ.ศ. 2544 และได้แจ้งสิทธิให้กับนายพัฒนศักดิ์ สัญญา นักศึกษาคนดังกล่าวแล้ว โดยมีการรับคำขอรับค่าตอบแทนต่างๆ รวมถึงพูดคุยให้กำลังใจและอธิบายกฎหมายที่เกี่ยวข้องเกี่ยวด้วย

ทั้งนี้ได้มีการรวมบรวมข้อเท็จจริงพร้อมจัดทำรายงานความเห็นเสนอต่อคณะอนุกรรมการพิจารณาค่าตอบแทนผู้เสียหายและค่าทดแทนและค่าใช้จ่ายแก่จำเลยในคดีอาญา ประจำ จ.เชียงราย เพื่อพิจารณาต่อไป ทั้งนี้จากการวิเคราะห์กรณีนี้หากผู้เสียหายไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการกระทำความผิดจะเป็นผู้เสียหายตามความในมาตรา 3 แห่ง พ.ร.บ.ค่าตอบแทนฯ พ.ศ.2544 และที่แก้ไขเพิ่มเติม มีสิทธิได้รับค่าตอบแทนกรณีบาดเจ็บประกอบด้วยค่ารักษาพยาบาลเท่าที่จ่ายจริงไม่เกิน 40,000 บาท ค่าฟื้นฟูสมรรถภาพทางร่างกายฯ ไม่เกิน 20,000 บาท ค่าขาดประโยชน์ทำมาหาได้ ค่าแรงขั้นต่ำต่อวันไม่เกิน 1 ปี และค่าความเสียหายอื่นไม่เกิน 50,000 บาท

ข่าวแจ้งว่า สำหรับนายพัฒนศักดิ์ อายุ 19 ปี กำลังศึกษาอยู่ชั้นปีที่ 1 วิชาเอกภาษาจีน คณะครุศาสตร์ มหาวิทยาลัยราชภัฏเชียงราย โดยถือเป็นเด็กเรียนดี เพราะเป็นนักเรียนทุนจากเทศบาลนครเชียงราย โดยน้องจบจากโรงเรียนเทศบาล 5 เด่นห้า เทศบาลนครเชียงราย ให้เข้าเรียนเป็นครูอีกด้วย

สำหรับเหตุการณ์ถูกชกต่อยผู้เสียหายให้การว่า ได้ขับรถจักรยานยนต์จะผ่านหอนาฬิกานครเชียงราย ในเขตเทศบาลนครเชียงราย แต่รถยนต์กระบะคู่กรณีขับตามหลังและบีบแตรให้ขับตรงไป แต่ผู้เสียหายเห็นว่าต้องให้รถในวงเวียนหอนาฬิกาไปก่อน จึงได้แจ้งเตือนปรากฎว่าทำให้คู่กรณีโกรธและชกต่อยจนได้รับบาดเจ็บ ปัจจุบันผู้ก่อเหตุถูกดำเนินคดีเบื้องต้น ข้อหาทำร้ายร่างกายผู้อื่นแล้ว.