23 ม.ค. 2568 นายสมศักดิ์ เทพสุทิน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข ในฐานะประธานกรรมการหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (บอร์ด สปสช.) เปิดเผยว่า ในวันที่ 23 ม.ค. 2568 กรมการปกครอง กระทรวงมหาดไทย มีความพร้อมในการอำนวยความสะดวกจดทะเบียนสมรสเท่าเทียมพร้อมกันทั่วประเทศ ตามประกาศ พ.ร.บ.แก้ไขเพิ่มเติมประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ พ.ศ. 2567 หรือ กฎหมายสมรสเท่าเทียม เพื่อรับรองสิทธิของผู้มีความหลากหลายทางเพศ ที่เป็นการคุ้มครองสิทธิและการยอมรับทางสังคม
ทั้งนี้ ภายใต้ “กองทุนหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ” หรือ บัตรทอง 30 บาท ได้ให้ความสำคัญนอกจากการดูแลสุขภาพทางกายแล้ว ยังให้ความคุ้มครองสิทธิการดูแลสุขภาพทางใจให้กับประชาชนผู้มีสิทธิบัตรทองฯ ด้วย รวมถึงประชากรในกลุ่มบุคคลผู้มีความหลากหลายทางเพศนี้ โดยปัจจุบันด้วยความเข้าใจและเปิดกว้างของสังคม อันส่งผลให้สภาวะเพศในวันนี้ ไม่ได้ถูกจำกัดแค่เพียงเพศชายหรือเพศหญิงเท่านั้น แต่ผู้คนต่างให้การยอมรับเพศที่แตกต่างมากขึ้น
อย่างไรก็ดี ในกลุ่มบุคคลผู้มีความหลากหลายทางเพศ มีจำนวนหนึ่งที่เป็น “กลุ่มคนข้ามเพศ” และมีความจำเป็นต้องได้รับยาฮอร์โมน เพื่อทำให้ร่างกายมีความสอดคล้องกับสภาพจิตใจที่เป็นอยู่ ที่ถือเป็นการบำบัดหรือรักษา ดังนั้นในการพิจารณางบประมาณหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ ประจำปี 2568 คณะกรรมการหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (บอร์ด สปสช.) เมื่อเดือน ก.ค. 2567 จึงได้เห็นชอบให้ สปสช. ดำเนินการจัดสรรงบประมาณเพื่อสนับสนุนบริการสิทธิประโยชน์ใหม่ คือ “บริการด้านสุขภาพสำหรับกลุ่มคนข้ามเพศ” จำนวน 145.63 ล้านบาท เพื่อดูแลกลุ่มเป้าหมายจำนวน 200,000 ราย โดยรวมถึงบริการยาฮอร์โมนบำบัดนี้ด้วย
โดยสิทธิประโยชน์ดังกล่าวจะเป็นการช่วยลดความเหลื่อมล้ำสุขภาพ เนื่องจากเดิมทีคนที่จะรับยาฮอร์โมน จะต้องจ่ายเงินเองเท่านั้น ทำให้มีส่วนหนึ่งไม่สามารถเข้าถึงการรักษา และมีความเสี่ยงต่อสุขภาพ เพราะมีจำนวนหนึ่งที่ไปหาซื้อยาฮอร์โมนมากินเองที่อาจเป็นอันตรายได้ นอกจากนี้ยังเป็นการดูและทางด้านจิตใจ ทำให้ให้ร่างกายอยู่ในสภาวะเดียวกับจิตที่เป็นอยู่
“ขณะนี้ได้มอบ สปสช. เร่งดำเนินการสิทธิประโยชน์ยาฮอร์โมนสำหรับกลุ่มบุคคลที่มีความหลากหลายทางเพศโดยเร็วที่สุด ซึ่งในเร็วๆ นี้ กระทรวงสาธารณสุข (สธ.) ราชวิทยาลัยแพทย์ ผู้เชี่ยวชาญที่เกี่ยวข้อง ภาคประชาสังคม และ สปสช. จะมีประชุมร่วมกันเพื่อวางแนวทางให้บริการอย่างครบวงจร” นายสมศักดิ์ กล่าว
รมว.สาธารณสุข ยังกล่าวอีกว่า นอกจากบริการยาฮอร์โมนแล้ว ระบบหลักประกันสุขภาพแห่งชาติยังมีสิทธิประโยชน์การรักษาพยาบาลและบริการสาธารณสุขที่ครอบคลุมดูแลกลุ่มบุคคคลที่มีความหลากหลายทางเพศที่ไม่ต่างจากประชากรทั่วไป ซึ่งครอบคลุมทั้งบริการรักษาพยาบาล บริการสร้างเสริมสุขภาพและป้องกันโรค และบริการฟื้นฟูสมรรถภาพ เพื่อให้เกิดการเข้าถึงบริการอย่างเท่าเทียม ซึ่งสามารถรับบริการนี้ได้
“กฎหมายสมรสเท่าเทียมวันนี้ได้มีผลบังคับใช้แล้ว นับเป็นอีกก้าวหนึ่งของสังคมไทย ที่มีความหลากหลาย ภายใต้การดูแลและให้บริการต่างๆ ของภาครัฐที่ไม่แตกต่าง ซึ่งรวมถึงหลักประกันสุขภาพแห่งชาตินี้ด้วย” นายสมศักดิ์ กล่าวในตอนท้าย
043...
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี